เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าลงทุน 50,000 ล้าน ต่อยอดความเป็นผู้นำในเวียดนาม ขยายร้านค้าครอบคลุม 57 จังหวัดทั่วประเทศ
20 ก.พ. 2023
เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เล็งเห็นเวียดนามเป็น Key Market จากศักยภาพของประเทศที่มีความพร้อมในหลายด้าน และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยในปีนี้คาดว่า GDP เวียดนาม จะโตอยู่ที่ 6.7% ซึ่งขยายตัวสูงเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประกอบกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากรในเมือง การขยายตัวของโมเดิร์นเทรด และอัตรานักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น
ประกอบกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากรในเมือง การขยายตัวของโมเดิร์นเทรด และอัตรานักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น
เซ็นทรัล รีเทล จึงเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศเวียดนามอย่างเต็มกำลังตลอด 11 ปีที่ผ่านมา จากจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์สินค้าแฟชั่น ที่มีเพียงไม่กี่สาขา
ปัจจุบันเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม มีจำนวนร้านค้ามากกว่า 340 แห่ง พื้นที่รวมกว่า 1,200,000 ตารางเมตร ใน 40 จังหวัด คิดเป็น 85% ของ GDP ประเทศเวียดนาม
และสร้างยอดขายเติบโตก้าวกระโดด จาก 300 ล้านบาท ในปี 2557 จนปี 2564 ที่ผ่านมา มียอดขายอยู่ที่ 38,592 ล้านบาท
และล่าสุดปี 2565 สามารถปิดยอดขายในเวียดนาม เป็นสัดส่วนถึง 25% ของยอดขายทั้งหมดของเซ็นทรัล รีเทล ส่งผลให้ เซ็นทรัล รีเทล กลายเป็นผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม
ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านไฮเปอร์มาร์เก็ต และอันดับ 2 ด้านศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์
ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านไฮเปอร์มาร์เก็ต และอันดับ 2 ด้านศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์
โดยเซ็นทรัล รีเทล จะเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบไปด้วย
1) กลุ่มฟู้ด ได้แก่ GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวม 38 สาขา ท็อปส์ มาร์เก็ต รวม 10 สาขา Mini go! ซูเปอร์มาร์เก็ต รวม 3 สาขา และลานชี มาร์ท รวม 24 สาขา
1) กลุ่มฟู้ด ได้แก่ GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวม 38 สาขา ท็อปส์ มาร์เก็ต รวม 10 สาขา Mini go! ซูเปอร์มาร์เก็ต รวม 3 สาขา และลานชี มาร์ท รวม 24 สาขา
2) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ได้แก่ ศูนย์การค้า GO! รวม 39 สาขา
3) กลุ่มน็อนฟู้ด ได้แก่ เหงียนคิม ซูเปอร์สปอร์ต คุโบ และโรบินส์
สำหรับโรดแมป 5 ปี ของเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม เตรียมขยายธุรกิจ สอดรับกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง
พร้อมตั้งเป้าอัดงบลงทุน 5 ปี ในเวียดนามอีกกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อสร้างยอดขาย 150,000 ล้านบาท และเพิ่มจำนวนร้านค้า เป็น 600 สาขา ครอบคลุมทั้งสิ้น 57 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ
ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ เพื่อก้าวเป็นเบอร์ 1 ด้านออมนิแชแนลในกลุ่มฟู้ด
และอันดับ 2 ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ของเวียดนาม ภายในปี 2570
และอันดับ 2 ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ของเวียดนาม ภายในปี 2570
สำหรับในปี 2566 นี้ เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ได้เตรียมทุ่มงบลงทุนอีกกว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อขยายอาณาจักรให้ครอบคลุมทั่วประเทศเวียดนาม โดยมีแผนธุรกิจดังนี้
1. สร้างการเติบโตธุรกิจกลุ่มฟู้ดครอบคลุมทั่วประเทศ :
ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ไฮเปอร์มาร์เก็ต ด้วยการรีแบรนด์และรีโนเวต GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวม 10 สาขา
ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ไฮเปอร์มาร์เก็ต ด้วยการรีแบรนด์และรีโนเวต GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวม 10 สาขา
พร้อมทั้งขยายท็อปส์ มาร์เก็ต และ Mini go! เพิ่มขึ้น 8-10 สาขา
ตลอดจนเสริมแกร่งกลุ่มอาหาร Fresh และ Non-Food เพื่อดึงดูดแทรฟฟิกผู้บริโภคใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น
ตลอดจนเสริมแกร่งกลุ่มอาหาร Fresh และ Non-Food เพื่อดึงดูดแทรฟฟิกผู้บริโภคใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น
2. สร้างความแข็งแกร่งธุรกิจกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ :
รีโนเวตศูนย์การค้า GO! รวมทั้งสิ้น 10 สาขา ให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกในอนาคต
พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าด้วยร้านค้าในศูนย์ฯ ที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
รีโนเวตศูนย์การค้า GO! รวมทั้งสิ้น 10 สาขา ให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกในอนาคต
พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าด้วยร้านค้าในศูนย์ฯ ที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
3. ยกระดับและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของเหงียนคิม :
รีโนเวตร้านเหงียนคิม รวม 10-12 สาขา และขยายร้านเหงียนคิมอีก 3-5 สาขา ทั้งแบบ Standalone และขยายเข้าไปในศูนย์การค้า GO!
รีโนเวตร้านเหงียนคิม รวม 10-12 สาขา และขยายร้านเหงียนคิมอีก 3-5 สาขา ทั้งแบบ Standalone และขยายเข้าไปในศูนย์การค้า GO!
4. พัฒนา Loyalty Platform เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการกว่า 66 ล้านคน :
ยกระดับ Loyalty Platform ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะเข้าใจอินไซด์ของลูกค้า และมอบสินค้าและบริการที่ตรงใจ โดยใช้ความเชี่ยวชาญของ The 1 มาช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดีขึ้น
ยกระดับ Loyalty Platform ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะเข้าใจอินไซด์ของลูกค้า และมอบสินค้าและบริการที่ตรงใจ โดยใช้ความเชี่ยวชาญของ The 1 มาช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดีขึ้น