Binance เตรียมส่งมอบ BNB มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ณ ประเทศตุรกี
10 ก.พ. 2023
Binance เตรียมมอบเหรียญ BNB (Airdrop) มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 94 ล้านลีราตุรกี หรือนับเป็น 100 เหรียญสหรัฐต่อรายให้แก่ผู้ใช้งาน Binance ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่ประเทศตุรกี ด้วยการใช้ระบบหลักฐานแสดงที่อยู่ (Proof of Address – POA) เพื่อระบุตัวตนผู้ใช้ใน 10 เมืองที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ได้แก่ คาห์รามันมาราช, คิลิส, ดิยาร์บาคีร์, อาดานา, ออสมานิเย, กาเซียนเท็ป, ชานลึอูร์ฟา, อดิยามาน, มาลัตยา และฮาไต ซึ่งถึงแม้ว่าวิธีการ POA อาจจะยังมีข้อจำกัดและไม่แม่นยำมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการระบุที่อยู่ของผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ผู้คนมักไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารแบบดั้งเดิมเพื่อนำเงินไปซื้อเวชภัณฑ์ อาหาร และของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ ณ ขณะนั้นได้ ทำให้การโอนเหรียญคริปโตถูกนำมาใช้เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือทางการแก่ผู้ประสบภัยมากขึ้น เนื่องจากวิธีการดังกล่าวมีความรวดเร็ว ต้นทุนต่ำ ไร้พรมแดน และโปร่งใส
นายฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao, CZ) ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Binance กล่าวว่า “แผ่นดินไหวที่ตุรกีได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนและชุมชนเป็นอย่างมาก ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความพยายามของเราจะช่วยบรรเทาสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาได้ โดยเรายังได้ประสานงานกับเหล่าเพื่อนร่วมงานในอุตสาหกรรมเพื่อร่วมมือกันในช่วงเวลาวิกฤตินี้ด้วยเช่นกัน”
ปัจจุบัน Binance Charity ได้เปิดตัวที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตสำหรับบริจาคเพื่อสาธารณกุศล โดยเหรียญทั้งหมดที่ถูกโอนเข้ามายังที่อยู่ดังกล่าว จะถูกแปลงเป็นสกุลเงินลีราตุรกี ก่อนส่งมอบให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ได้รับอนุญาตในการประสานงานไปยังผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งนี้ การบริจาคเพื่อช่วยเหลือฉุกเฉินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว จะยอมรับเฉพาะการโอนด้วยเหรียญ BTC, ETH, BNB, BUSD และ XRP เท่านั้น
ทั้งนี้ Binance Charity มีความมุ่งมั่นที่จะมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านความร่วมมือกับองค์กรชั้นนำที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เราสามารถทำงานและเข้าถึงความต้องการของกลุ่มคนเปราะบางได้อย่างเร็วที่สุด
รวมถึงการนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การช่วยเหลือทางการเงินที่รวดเร็ว ไร้พรมแดน รวมถึงการจัดสรรโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถเข้าถึงเงินได้โดยตรงทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการเข้าถึงชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งมอบปัจจัยพื้นฐาน เช่น อาหาร เวชภัณฑ์ ที่พักอาศัย และน้ำสะอาด ตามที่พวกเขาต้องการอีกด้วย