Adidas อาจขาดทุน 2.5 หมื่นล้านบาท หากหาทางระบายสินค้า Yeezy ที่ทำร่วมกับ Kanye West ไม่ได้ ภายในปีนี้
10 ก.พ. 2023
เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว Adidas ประกาศแยกทางกับ Kanye West ซึ่งเคยจับมือกันออกสินค้าภายใต้แบรนด์ Yeezy เนื่องจากปัญหาดราม่ารอบทิศทาง ที่ Kanye West เป็นผู้ก่อ
ซึ่งก่อนหน้านี้ Adidas ยืนยันว่า จะนำสินค้าแบรนด์ Yeezy ที่เคยร่วมมือกับ Kanye West ออกวางจำหน่าย ภายใต้แบรนด์อื่น ๆ แทน
ล่าสุด Adidas รายงานว่า ในปีนี้บริษัทอาจขาดทุนราว 700 ล้านยูโร (ราว 25,300 ล้านบาท) หากไม่สามารถขายสินค้าภายใต้แบรนด์ Yeezy ที่ค้างอยู่ในสต็อกได้
และในขณะนี้ Adidas กำลังหาทางที่จะจัดการกับสินค้า Yeezy เจ้าปัญหานี้อยู่..
นอกจากนี้ Adidas ยังระบุด้วยว่า การตัดสินใจ “แยกทาง” กับ Kanye West ด้วยการยุติความร่วมมือการทำสินค้าภายใต้แบรนด์ Yeezy นั้น ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ Adidas กว่า 1,200 ล้านยูโร (ราว 43,300 ล้านบาท)
รวมถึงทำให้กำไรของ Adidas หายไป กว่า 500 ล้านยูโร (ราว 18,000 ล้านบาท) ในปี 2023 นี้
ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด หาก Adidas ต้องตัดสินใจทิ้งสินค้าภายใต้แบรนด์ Yeezy ทั้งหมดจริง ก็อาจทำให้บริษัท ต้องเผชิญกับภาวะขาดทุน ราว 700 ล้านยูโร (ราว 25,300 ล้านบาท) เลยทีเดียว
และจะทำให้ Adidas ตกอยู่ในภาวะ “ขาดทุน” เป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปี..
ด้าน Bjørn Gulden ซึ่งเป็น CEO ของ Adidas ถึงกับบอกว่า “ตัวเลข เป็นตัวบอกทุกสิ่ง” และสถานการณ์ในขณะนี้ Adidas ไม่ได้ทำได้ดี เท่าที่ควรเป็น
นอกจากนี้ Adidas ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อื่น ๆ อีกด้วย
ทั้งความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครน ที่ทำให้ Adidas ตัดสินใจออกจากตลาดรัสเซียไป รวมถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ ในหลาย ๆ ประเทศ อีกด้วย
โดย Bjørn Gulden ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2023 นี้ เป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงของ Adidas เพื่อสร้างฐานให้ Adidas สามารถกลับมาเติบโต และทำกำไรได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 ที่ผ่านมา Adidas ยังคงเป็นบริษัทที่มีรายได้ราว 22,500 ล้านยูโร (ราว 8.13 แสนล้านบาท) และทำกำไรได้ราว 669 ล้านยูโร (ราว 24,100 ล้านบาท) ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ลดลง ราว 2 ใน 3 เลยทีเดียว