บลจ.ทิสโก้เผย โคโรนากระทบระยะสั้น ชี้จังหวะเหมาะลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจีน
11 ก.พ. 2020
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีของจีนเข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อวงการเทคโนโลยีระดับโลก
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีของจีนเข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อวงการเทคโนโลยีระดับโลก
นอกจากจะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในจีน
ยังสร้างการเติบโตผ่านการขยายตลาดใหม่ๆ ในภูมิภาคเอเชีย และทั่วโลก
ยังสร้างการเติบโตผ่านการขยายตลาดใหม่ๆ ในภูมิภาคเอเชีย และทั่วโลก
ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีนเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ในช่วงที่ราคาหุ้นเทคโนโลยีจีนย่อตัวจากปัจจัยเชิงลบระยะสั้น
จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว
จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว
"ในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงจากหลากปัจจัย
โดยเฉพาะล่าสุดจากปัจจัยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในจีน
โดยเฉพาะล่าสุดจากปัจจัยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในจีน
บลจ.ทิสโก้มองว่าเป็นปัจจัยที่เข้ามากระทบเพียงระยะสั้น
เหมือนเช่นการแพร่ระบาดของโรคในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
จึงเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าสะสมเพื่อลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตดีในระยะยาว
โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเมกะเทรนด์อย่างหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจีน
เหมือนเช่นการแพร่ระบาดของโรคในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
จึงเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าสะสมเพื่อลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตดีในระยะยาว
โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเมกะเทรนด์อย่างหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจีน
เพราะธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูงจากความต้องการใช้งานของผู้บริโภคทั้งในจีน และทั่วโลก
จากการศึกษาข้อมูลพบว่าในปี 2562 คนจีนใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 6 ชั่วโมง
ขณะที่ในปี 2561 มีผลการศึกษาพบว่าประชากรจีน 59.6% ของประชากรทั้งหมดเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ซึ่งน้อยกว่าประเทศสหรัฐฯ ที่ประชากรสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากถึง 89% ของประชากรทั้งหมด
ขณะที่ในปี 2561 มีผลการศึกษาพบว่าประชากรจีน 59.6% ของประชากรทั้งหมดเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ซึ่งน้อยกว่าประเทศสหรัฐฯ ที่ประชากรสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากถึง 89% ของประชากรทั้งหมด
จึงมองว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตมีโอกาสการเติบโตอีกมาก" นายสาห์รัชกล่าว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในปี 2563 กำไรต่อหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีจีนจะเติบโตอย่างโดดเด่น
โดยสามทหารเสือของบริษัทเทคโนโลยีจีน หรือกลุ่ม "BAT" ประกอบด้วย
Baidu ผู้ให้บริการซอฟแวร์ และเสิร์ชเอนจินรายใหญ่
จะมีอัตรากำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีก่อน
Baidu ผู้ให้บริการซอฟแวร์ และเสิร์ชเอนจินรายใหญ่
จะมีอัตรากำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีก่อน
Alibaba ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อสินค้าออนไลน์
จะมีอัตรากำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 158% เมื่อเทียบกับปีก่อน
จะมีอัตรากำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 158% เมื่อเทียบกับปีก่อน
และ Tencent เจ้าของแอปพลิเคชัน Wechat และเกมส์ออนไลน์
จะมีอัตรากำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน
จะมีอัตรากำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ที่น่าสนใจคือปัจจุบันทั้งสามบริษัทมีราคาซื้อขายอยู่ในระดับราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี
นอกจากนี้ การเข้ามาของเทคโนโลยี 5G ในประเทศจีนจะมีส่วนสำคัญ ให้บริษัทเทคโนโลยีในจีนขยายธุรกิจใหม่ๆ ได้มากขึ้น
โดยคาดว่าภายในปี 2563 ในประเทศจีนจะมีเสาสัญญาณ 5G ประมาณ 8 แสนจุด ครอบคลุม 290 เมือง จากทั้งหมด 350 เมือง
ซึ่งทำให้เกิดสินค้าและบริการใหม่จากบริษัทเทคโนโลยีจีนมากขึ้น เช่น
การควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน
การจำลองสินค้าและสภาพแวดล้อมเสมือนจริงในแอปพลิเคชันซื้อสินค้าออนไลน์
รถยนต์ไร้คนขับ รวมไปถึงนวัตกรรมสำหรับการควบคุมสิ่งต่างๆ ในระยะไกลแบบเรียลไทม์
การควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน
การจำลองสินค้าและสภาพแวดล้อมเสมือนจริงในแอปพลิเคชันซื้อสินค้าออนไลน์
รถยนต์ไร้คนขับ รวมไปถึงนวัตกรรมสำหรับการควบคุมสิ่งต่างๆ ในระยะไกลแบบเรียลไทม์
ดังนั้น เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนให้กับลูกค้า บลจ.ทิสโก้จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า เทคโนโลยี อิควิตี้ (TCHTECH) ความเสี่ยงระดับ 7 (ความเสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศจีน ฮ่องกง และมาเก๊า
ผ่านกองทุนอีทีเอฟ Invesco China Technology (กองทุนหลัก) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 11 - 18 กุมภาพันธ์ 2563