“ราเมน คาเกทสึ อาราชิ” กับเบื้องหลังความอร่อย ทั้งในชามราเมนและในโลกธุรกิจร้านอาหาร

ช่วงที่ผ่านมา ใครที่ชื่นชอบการทานราเมน น่าจะเคยเห็นรีวิวร้านราเมน ร้านหนึ่ง
ที่อยู่บนชั้น 4 ในศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ที่มีคนต่อคิว เพื่อรอจะได้สัมผัส ราเมน ต้นตำรับจากญี่ปุ่น

ที่น่าสนใจก็คือ เสียงรีวิวส่วนใหญ่ทั้งบน TikTok และบน Facebook บอกกับเราว่า
“เป็นราเมนที่เส้นนุ่ม ทานง่าย น้ำซุปกลมกล่อม ราคาจับต้องได้ เพียงชามละ 145 บาท”

ร้านที่เราพูดถึง คือ “ราเมน คาเกทสึ อาราชิ”
ที่ปัจจุบันสร้างยอดขายเกินเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ถึงเกือบเท่าตัว
และพอยิ่งสืบค้นข้อมูลเชิงลึก ก็ยิ่งได้พบเบื้องหลังความอร่อยของราเมนชามนี้อย่างมากมาย

รู้หรือไม่ว่า ผู้นำเข้าราเมนแบรนด์นี้ คือ “เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป” หรือ “CRG”
ที่มีแบรนด์ร้านอาหาร 18 แบรนด์อยู่ในมือ

คำถามคือ อะไรที่เป็นแรงจูงใจให้ CRG ตัดสินใจนำ “ราเมน คาเกทสึ อาราชิ” เข้ามาในเมืองไทย

“CRG สนใจแบรนด์นี้มาพักใหญ่ ๆ ด้วยจำนวนสาขาในญี่ปุ่นที่มากกว่า 200 สาขา
และอีกมากกว่า 290 สาขาทั่วโลก อาทิ ไต้หวัน, จีน และเซี่ยงไฮ้
อีกทั้งยังเป็นร้านราเมน ระดับตำนาน 30 ปี ติดอันดับ Top 3 ในประเทศญี่ปุ่น”

“นั่นแปลว่า ราเมน คาเกทสึ อาราชิ จะต้องมีจุดขายอะไรสักอย่าง
เพราะในญี่ปุ่น ร้านราเมน แข่งขันสูง กระจายอยู่ทั่วประเทศ เหมือนที่บ้านเรามีร้านก๋วยเตี๋ยวเลย”

คุณอรวรรณ โกมลพันธ์พร ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ ราเมน คาเกทสึ อาราชิ
บอกถึงแรงจูงใจอันดับแรกที่ทำให้ CRG เริ่มสนใจ ราเมน แบรนด์นี้

เพื่อหาคำตอบ “อะไรคือจุดขายให้ ราเมน แบรนด์นี้ เป็นร้านยอดนิยมในญี่ปุ่น”
วิธีเดียวก็คือ คุณอรวรรณ ต้องบินไปที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อทดลองชิมกว่า 20 เมนู
แล้วเธอก็ค้นพบคำตอบที่ทำให้ตัดสินใจนำ ราเมน คาเกทสึ อาราชิ มาเปิดสาขาในเมืองไทย

“เจ้าของแบรนด์แฟร์มากเลย เขาอยากให้มาลองทานก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ
วันนั้นเขาเสิร์ฟมาให้ 20 กว่าเมนู เรารู้สึกว่าเป็น ราเมน ที่อร่อย ทานง่าย และทานได้ทุกวัน”

เมื่อตัดสินใจเปิดสาขาแรกอยู่บนชั้น 4 ในศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน
โจทย์ที่ท้าทายที่สุดคือ จะทำอย่างไรให้สาขาแรกนั้น มีรสชาติเหมือนกับสาขาในประเทศญี่ปุ่น

คุณอรวรรณ เล่าถึงเบื้องหลังประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
โดยเธอบอกว่า ผู้บริหารของแบรนด์ราเมน คาเกทสึ อาราชิ บินมาที่เมืองไทย
เพื่อพูดคุยกับโรงงานที่ผลิตเส้นราเมนให้เรา ให้มีมาตรฐานเหมือนสาขาในประเทศญี่ปุ่น

ส่วนน้ำซุปที่เป็นอีกหนึ่งจุดขายเลือกกระดูกหมูส่วนขาหลังที่เป็นส่วนต้นขา
นำมาเคี่ยวอย่างพิถีพิถันเป็นเวลานาน จนกลายเป็น เก็นคตสึ ราเมน (Genkotsu Ramen)
ซึ่งหาทานได้ยาก ทำให้น้ำซุปมีรสหวาน และเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลละมุนลิ้น
มีคอลลาเจนสูง มีประโยชน์ต่อร่างกาย จนถึงวัตถุดิบอื่น ๆ
จะเป็นการนำเข้าจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นโดยตรง ซึ่งจะมีการควบคุมอุณหภูมิการขนส่ง
เพื่อให้ได้มาตรฐานตามต้นตำรับญี่ปุ่น

และเมื่อเปิดร้านสาขาแรก ทางแบรนด์ ราเมน คาเกทสึ อาราชิ
ก็ส่งเชฟจากประเทศญี่ปุ่นมาช่วยเทรนนิงการปรุงราเมนให้พนักงานคนไทย

ส่วนเหตุผลที่ต้องพิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียด ก็เพื่อให้ได้มาตรฐานรสชาติตามแบบฉบับญี่ปุ่น

เมื่อได้ยินเบื้องหลังวัตถุดิบคุณภาพสูงและขั้นตอนการปรุงราเมน
หลายคนอาจคิดว่า ราเมน ของร้านราเมน คาเกทสึ อาราชิ น่าจะมีราคาแพง

เรื่องนี้กลับตรงกันข้าม เมื่อราเมนร้านนี้มีอยู่ 2 ราคา คือ 145 บาท และ 185 บาท ที่เสิร์ฟแบบชามโต ๆ
เหตุผลเพราะทาง CRG ต้องการให้ ราเมน คาเกทสึ อาราชิ มีราคาที่เข้าถึงง่าย
ลูกค้าสามารถมาทานได้บ่อย ๆ

ซึ่งก็ดูเหมือนทาง CRG จะมาถูกทาง เมื่อเวลานี้ร้านราเมน คาเกทสึ อาราชิ
นอกจากลูกค้าจะแน่นร้านแล้วนั้น ก็ยังมีลูกค้าที่มาทานซ้ำเป็นประจำ

ทีนี้เมื่อสาขาแรกประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย
สิ่งที่หลายคนคิดคือ การเร่งขยายสาขาร้านราเมน คาเกทสึ อาราชิ แบบติดสปีด

แต่.. ความจริงเรื่องนี้กลับพลิกล็อกไม่ได้เป็นเช่นนั้น

เมื่อคุณอรวรรณ บอกว่าในปีนี้ต้องการขยายแค่ 3-5 สาขา
และในอีก 5 ปีข้างหน้าเป้าหมายคือ 20 สาขา

เหตุผลเพราะหากต้องการให้ ราเมน ทุกชาม มีรสชาติอร่อย
มาตรฐานเหมือนกันทุกสาขา จึงจำเป็นต้องควบคุมดูแลคุณภาพทุกขั้นตอน

พูดง่าย ๆ คือ หากเร่งขยายสาขาจนเกินความพอดี การควบคุมมาตรฐานอาจไม่ทั่วถึง
ทำให้รสชาติของราเมน และเมนูอาหารอื่น ๆ ในแต่ละสาขา มีโอกาสเกิดความผิดเพี้ยนสูง
ซึ่งก็จะกระทบต่อภาพลักษณ์แบรนด์โดยตรง

ทางที่ดีที่สุดคือ เลือกเปิดสาขาน้อย แต่เน้นคุณภาพสูงแบบคงที่
เพราะอย่าลืมว่าเวลานี้ทุกร้านอาหารที่อยู่ในสมรภูมิศูนย์การค้า ต่างพร้อมแย่งชิงลูกค้าที่เข้ามาเดิน
ไม่ได้จำกัดแค่ ร้านราเมน แต่ทุกร้านคือ “คู่แข่งโดยตรง” ทั้งหมดนั่นเอง

สะท้อนจากตัวเราเอง ที่เวลาจะเลือกทานอาหารสักร้านในศูนย์การค้า หรือสถานที่อื่น ๆ
เรามักจะเลือกร้านที่มีรสชาติอร่อยถูกปาก ในราคาที่เข้าถึงง่าย
มากกว่าจะเจาะจงไปที่ประเภทของร้านอาหาร

ซึ่งก็ตรงกับแนวคิดทางธุรกิจของ ร้านราเมน คาเกทสึ อาราชิ
ที่ต้องการเป็น ราเมน ที่อร่อย ราคาเข้าถึงได้ง่าย ทานได้บ่อย ๆ

ส่วนอีกหนึ่งจุดขายที่หลายคนอาจไม่รู้ ก็คือ ร้านราเมน คาเกทสึ อาราชิ
เป็นร้านราเมนที่สร้างความ Wow ให้แก่ลูกค้าที่มาเยือน

รู้หรือไม่ ร้านราเมน คาเกทสึ อาราชิ 200 กว่าสาขาในประเทศญี่ปุ่น
เมื่อลูกค้าเข้าร้าน สามารถเลือกเมนูสั่งซื้อโดยตรงผ่านตู้สั่งอาหาร (Ordering Machine)
จากนั้นก็ไปนั่งรอที่โต๊ะ เพื่อรอพนักงานมาเสิร์ฟ

โดยข่าวอัปเดตล่าสุด ก็คือ สาขาในเมืองไทยก็จะนำเข้าตู้กดสั่งอาหารนี้มาใช้ในร้าน
ซึ่งก็น่าจะสร้างความสะดวกสบายให้ทั้งลูกค้าและพนักงาน

และจากการที่ทีมงาน MarketThink มีโอกาสไปทดลองชิม ราเมน ของทางร้าน
ขอรีวิวสั้น ๆ ว่า “เป็น ราเมน ที่อร่อยเกินราคา 145 บาท แถมชามเดียวก็ทานได้อิ่ม”