รวยไม่หยุด กรุ๊ป เจ้าของ nice two Meat u เปิดร้านใหม่ “Dosan Dalmatian by Mammamia” พาสุนัขเข้าได้ และมี Rooftop
25 ม.ค. 2023
บริษัท รวยไม่หยุด จำกัด เครือเจ้าของแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มสไตล์เกาหลี เช่น
ร้านปิ้งย่างเกาหลี nice two Meat u และ nice two Sea u
ร้านชานมไข่มุก Fire Tiger
ร้านคาเฟ่ขนมปังสไตล์เกาหลี Mil Toast House
ร้านปิ้งย่างเกาหลี nice two Meat u และ nice two Sea u
ร้านชานมไข่มุก Fire Tiger
ร้านคาเฟ่ขนมปังสไตล์เกาหลี Mil Toast House
เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในวงการร้านอาหาร ด้วยการเปิดตัว “Dosan Dalmatian by Mammamia” (โดซาน ดัลเมเชี่ยน บาย มัมมาเมีย)
ร้านอาหารแนว Western & Korean Brunch แห่งแรกในไทย
ร้านอาหารแนว Western & Korean Brunch แห่งแรกในไทย
และเป็นร้านอาหารแห่งแรกในสยามสแควร์ ที่เปิดให้บริการในรูปแบบ Rooftop bar มีพื้นที่ร้านรองรับลูกค้าได้มากกว่า 100 ที่นั่ง
คาดว่า การเปิดตัวแบรนด์ใหม่นี้ จะช่วยเสริมพอร์ตฯ อาณาจักรร้านอาหารและเครื่องดื่มของ รวยไม่หยุดกรุ๊ป ให้แข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดแบรนด์ใหม่อีก 4 แบรนด์ ภายในปีนี้ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดแบรนด์ใหม่อีก 4 แบรนด์ ภายในปีนี้ด้วย
ชุติมา เปรื่องเมธางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รวยไม่หยุด จำกัด เผยว่า
ร้าน Dosan Dalmatian by Mammamia เกิดจากการรวมตัวของ 2 ร้านอาหารเกาหลีที่กำลังโด่งดังมากที่ประเทศเกาหลีใต้
ร้าน Dosan Dalmatian by Mammamia เกิดจากการรวมตัวของ 2 ร้านอาหารเกาหลีที่กำลังโด่งดังมากที่ประเทศเกาหลีใต้
เราตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ทั้ง 2 ร้านมา เพื่อมาเป็นรวมกันในร้านเดียว เป็นร้านบรันซ์อาหารคาว จากร้าน Dalmatian ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและเกาหลีไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
และร้าน Mammamia ซึ่งเป็นคาเฟ่ขนม ที่มีจุดเด่นคือรสชาติขนมและการแต่งร้านด้วยสีชมพูช็อกกี้ พิงก์
และร้าน Mammamia ซึ่งเป็นคาเฟ่ขนม ที่มีจุดเด่นคือรสชาติขนมและการแต่งร้านด้วยสีชมพูช็อกกี้ พิงก์
พอมีโอกาสได้ไปลองชิมอาหาร และขนมที่ร้าน Dalmatian และ Mammamia ก็ถูกใจทั้งรสชาติ และคอนเซ็ปต์ของร้าน มองว่ามีศักยภาพที่จะมาเจาะกลุ่ม ลูกค้าคนไทย และจะมาเสริมพอร์ตฯ ของเครืออาหารและเครื่องดื่มสไตล์เกาหลี ที่มีทั้งร้านปิ้งย่าง เบเกอรี ชานมไข่มุก แต่ยังขาดธุรกิจแนวร้านอาหารเกาหลี
จึงตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ของทั้ง 2 แบรนด์เข้ามาเปิดด้วยกัน ทำให้มีความโดดเด่น ทั้งอาหารคาว และของหวาน
“เราไม่ได้ตั้งเป้าว่า แต่ละปีจะต้องซื้อแฟรนไชส์จากเกาหลีมากี่แบรนด์ แต่เวลาเราเจอแบรนด์ที่มองว่ามีศักยภาพ เราก็ไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป เพราะจากประสบการณ์ที่ทำธุรกิจในสยามสแควร์มานานกว่า 10 ปี และอยู่ในธุรกิจอาหารมา 6 ปี ทำให้เราเข้าใจอินไซต์ของผู้บริโภคในย่านนี้
จะเห็นว่า ที่ผ่านมา เราไม่ได้เจาะจงซื้อแฟรนไชส์ เฉพาะร้านที่ดังที่เกาหลีอยู่แล้วเท่านั้น เพราะร้านที่ดัง ไม่ได้หมายความว่า พอเอามาเปิดที่เมืองไทยแล้วจะปัง แต่เบื้องหลังความสำเร็จเกิดจากการอ่านเกมให้ขาด เข้าใจผู้บริโภค รู้จักวิธีการทำตลาดและปั้นแบรนด์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในย่านสยาม
ดังนั้น ร้านที่เราจะเลือก ต้องเป็นร้านที่เราถูกใจทั้งรสชาติ และมีแบรนด์ดิ้งที่เรามองว่า ตอบโจทย์คนไทย ถึงเอามาปั้นแบรนด์ต่อ”
โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการปั้นแบรนด์ของ รวยไม่หยุด กรุ๊ป คือ การนำแบรนด์ที่ซื้อแฟรนไชส์มาปรับ ให้เข้ากับรสนิยมและวัฒนธรรมการกินดื่มของคนไทย (Localization) เพื่อเสิร์ฟความเป็นเกาหลีในแบบที่ถูกใจคนไทยมากที่สุด
ดังนั้น จึงต้องมีการเจรจากับเจ้าของแบรนด์ให้ชัดเจนว่า พอมาเปิดสาขาที่ไทย จะต้องมีการปรับทุกอย่าง ตั้งแต่การ ตกแต่งร้าน ไปจนถึงรสชาติอาหาร เพื่อให้ตอบโจทย์คนไทย โดยที่แบรนด์ดิ้งและคอนเซปต์ร้านยังไม่เปลี่ยน
ซึ่งที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กลยุทธ์นี้ได้ผลเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างร้าน nice two Meat u ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง จนตอนนี้ นอกจากจะขยายไปมากกว่า 10 สาขาทั่วกทม. และมียอดขายที่น่าพอใจแล้ว
เครือของเรา ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากการทำแบรนดิ้งของคนไทย ทั้งสไตล์การตกแต่งร้าน การจัดทำแมสคอตขึ้นใหม่ ทำให้สาขาในประเทศอาเซียนของ nice two Meat u สนใจเปิดสาขาตามแบบแบรนดิ้งของสาขาที่ประเทศไทย
อีกทั้งเรายังสร้างกระแสให้แบรนด์ จนมีลูกค้าคนไทยและต่างชาติตามไปชิมสาขาออริจินัล ถึงที่เกาหลีด้วย
อีกทั้งเรายังสร้างกระแสให้แบรนด์ จนมีลูกค้าคนไทยและต่างชาติตามไปชิมสาขาออริจินัล ถึงที่เกาหลีด้วย
สำหรับ “Dosan Dalmatian by Mammamia ถือเป็นร้านบรันซ์น้องใหม่ ที่จะมาสร้างประสบการณ์ ที่แตกต่างให้คนไทย เพราะเป็นบรันซ์ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและเกาหลีเข้าไว้ด้วยกัน
ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย และยังเป็น Rooftop Bar แห่งแรกในสยามสแควร์ ที่เปิดให้ลูกค้ามาชิลได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ
นอกจากนี้ ยังเป็นร้านอาหารแบบ Dog Friendly ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถพาสุนัขเข้ามาที่ร้านด้วยได้ โดยจะต้องดูแลเรื่องความสะอาดให้เรียบร้อย หากนั่งชั้นห้องแอร์ ต้องอยู่ในกระเป๋าหรือรถเข็น แต่หากเป็นชั้นดาดฟ้าสามารถใส่สายจูงเดินได้
นันทนัช เอื้อศิริทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รวยไม่หยุด จำกัด เสริมถึงคอนเซ็ปต์ในการออกแบบร้าน “Dosan Dalmatian by Mammamia” ที่ชวนให้สะดุดตา
เพราะรู้อยู่แล้วว่า การจะหาโลเคชันที่เป็นบ้านสไตล์ชนบทในสยามให้เหมือนที่เกาหลีนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น พอคิดจะเปิดร้านที่ Block I ซึ่งมีพื้นที่ 4 ชั้น เลยต้องปรับดีไซน์ใหม่ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ ออกแบบทุกมุมของร้านให้สามารถถ่ายรูปสวย มีความ Instagrammable
“ที่เกาหลี คอนเซ็ปต์การตกแต่งร้านเขาจะคล้ายบ้านในแถบยุโรปชนบท มีน้ำพุอยู่ในร้านเป็นซิกเนเจอร์ แต่พอของเรามาอยู่ในตึก 3 ชั้น เราเลยออกแบบให้ดูเป็นตึกกระจกใส ที่ดูแล้วมีความเป็นร้านดัลเมเชียนในเมือง
มาพร้อมชั้น rooftop ซึ่งเราดึงดูดให้ลูกค้าอยากขึ้นไปเช็คอิน ด้วยการจำลองน้ำพุแบบมีดอกไม้หลากสีสันเหมือนกับร้านที่เกาหลี ไปไว้ด้านบน เพื่อเป็นอีกหนึ่งกิมมิกให้ลูกค้าถ่ายรูป
ส่วนภายในร้าน ยังคงการตกแต่งที่มีลายจุด และรูปภาพของสุนัข”
ส่วนภายในร้าน ยังคงการตกแต่งที่มีลายจุด และรูปภาพของสุนัข”
สำหรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต ชุติมา กล่าวทิ้งท้ายว่า
สำหรับ “Dosan Dalmatian by Mammamia” ตอนนี้ยังอยู่ในช่วง Soft Opening หลังจากเปิดตัวไปเมื่อช่วงปีใหม่ ก็ได้รับกระแสตอบรับดีมาก จนมีลูกค้ามารอคิว แถวยาวในวันหยุดตลอด
สำหรับ “Dosan Dalmatian by Mammamia” ตอนนี้ยังอยู่ในช่วง Soft Opening หลังจากเปิดตัวไปเมื่อช่วงปีใหม่ ก็ได้รับกระแสตอบรับดีมาก จนมีลูกค้ามารอคิว แถวยาวในวันหยุดตลอด
ในอนาคตจะมีการเพิ่มเมนูใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพอีก 50%
ส่วนแผนการขยายสาขา จะเน้นเลือกโลเคชันที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายจริง ๆ
ส่วนแผนการขยายสาขา จะเน้นเลือกโลเคชันที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 4 แบรนด์ โดยยังคงคอนเซ็ปต์ อาหารและเครื่องดื่มสไตล์เกาหลี ส่วนจะเป็นแนวไหน ต้องรอติดตามกัน..
“เป้าหมายระยะยาวของเรา คือ เป็นผู้นำในตลาดอาหารและเครื่องดื่มสไตล์เกาหลีในไทย
ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ ไม่ได้วัดจากจำนวนแบรนด์ที่เรานำเข้ามา หรือ ตัวเลขการเติบโตของบริษัท แต่ต้องมาจากกระแสตอบรับของลูกค้า
ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ ไม่ได้วัดจากจำนวนแบรนด์ที่เรานำเข้ามา หรือ ตัวเลขการเติบโตของบริษัท แต่ต้องมาจากกระแสตอบรับของลูกค้า
เมื่อไรที่เราเป็น Top of mind ที่ลูกค้าคิดถึงอาหารและเครื่องดื่มสไตล์เกาหลีเมื่อไร ต้องนึกถึงร้านอาหารในเครือของเรา เมื่อนั้น ถึงจะพิสูจน์ว่าเราเป็นผู้นำในตลาดนี้อย่างแท้จริง
ซึ่งเรายังเชื่อมั่นว่าเทรนด์เกาหลียังอยู่ในกระแสอีกอย่างน้อย 10 ปี เพราะรัฐบาลเกาหลีเอง ยังคงส่งเสริม Soft Power จากเกาหลี จนตอนนี้ ขยายไปทุกวงการ แม้แต่ในกลุ่มลักซ์ชัวรีแบรนด์ ก็ยังหันมาใช้โกลบอลแบรนด์แอมบาสเดอร์จากฝั่งเกาหลีมากขึ้น
ดังนั้น เทรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มจากเกาหลี ยังมีศักยภาพอีกมากให้ขยายต่อแน่นอน”