ไฟเขียว.. บางจากฯ เข้าซื้อกิจการ “เอสโซ่ ประเทศไทย” ดีลมูลค่ากว่า 30,000 ล้าน
12 ม.ค. 2023
ล่าสุด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า
ทางที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เห็นชอบการเข้าซื้อกิจการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO
ทางที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เห็นชอบการเข้าซื้อกิจการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO
โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ ESSO
1) BCP จะเข้าซื้อหุ้นโดยตรง จำนวน 2,283,750,000 หุ้น ใน ESSO หรือเป็นประมาณ 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จาก ExxonMobil Asia Holdings ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน ESSO
ซึ่งตอนนี้ทาง ExxonMobil ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น กับบางจากฯ เพื่อขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ใน ESSO เรียบร้อยแล้ว
ธุรกรรมซื้อขายหุ้นนี้ จะไม่รวมการได้ไปซึ่งธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ ExxonMobil และ OEM รวมถึงธุรกิจการตลาดเคมีภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ ExxonMobil
โดยทาง ExxonMobil จะตั้งบริษัทใหม่ เพื่อประกอบธุรกิจดังกล่าวเอง ในประเทศไทย
สำหรับสิทธิในตรา “ESSO” ในธุรกิจการตลาดขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง หรือสถานนีบริการน้ำมัน
หลังจากธุรกรรมซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น ทาง BCP จะสามารถใช้ได้อีก 2 ปีเท่านั้น แล้วจะต้องเปลี่ยนไปใช้ตราใหม่
2) ส่วนหุ้นอีกจำนวน 1,177,108,000 หุ้น หรือ 34.01%
BCP จะทำคำเสนอซื้อหุ้นในตลาดต่อไป ภายหลังจากที่ธุรกรรมการซื้อขายหุ้น 1) เสร็จสิ้น
BCP จะทำคำเสนอซื้อหุ้นในตลาดต่อไป ภายหลังจากที่ธุรกรรมการซื้อขายหุ้น 1) เสร็จสิ้น
คาดว่า การเข้าซื้อกิจการ ESSO จะช่วย BCP ในแง่ของการดำเนินงานในอนาคต และการ Synergy กันระหว่างบริษัท ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจได้
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO
มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 33,000 ล้านบาท
มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 33,000 ล้านบาท
สำหรับแวดวงธุรกิจแล้ว ดีลนี้ ถือเป็นดีลใหญ่ของประเทศไทย ประเดิมปี 2023 เลยทีเดียว
และต่อไป หลังจากนี้ เราอาจได้เห็นร้านกาแฟ “อินทนิล” ไปตั้งตาม “สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่“ ก็เป็นได้..
สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง ของ BCP
ปี 2563 มีรายได้ 136,983 ล้านบาท ขาดทุน 6,967 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้ 200,696 ล้านบาท กำไร 7,624 ล้านบาท
9 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้ 228,895 ล้านบาท กำไร 12,103 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้ 136,983 ล้านบาท ขาดทุน 6,967 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้ 200,696 ล้านบาท กำไร 7,624 ล้านบาท
9 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้ 228,895 ล้านบาท กำไร 12,103 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการของ ESSO
ปี 2563 มีรายได้ 126,739 ล้านบาท ขาดทุน 7,911 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้ 172,907 ล้านบาท กำไร 4,443 ล้านบาท
9 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้ 199,381 ล้านบาท กำไร 11,072 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้ 126,739 ล้านบาท ขาดทุน 7,911 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้ 172,907 ล้านบาท กำไร 4,443 ล้านบาท
9 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้ 199,381 ล้านบาท กำไร 11,072 ล้านบาท