“มาชิตะ” เอาใจสายเกา ดึงเมนูฮิตจากย่านดังประเทศเกาหลี ออกสาหร่ายอบ 2 รสใหม่ “The Taste of Seoul”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้ “วัฒนธรรมเกาหลี” ได้แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวันของคนไทย ในทุก ๆ วัน
ทั้งเรื่องอาหารการกิน ฟังเพลง ดูซีรีส์เกาหลี แฟชั่น รวมถึงการเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาหลีใต้..

ที่สำคัญ “เกาหลีฟีเวอร์” ที่ว่านี้ ไม่ใช่แค่กระแสที่มาแล้วหายไป แต่กลายเป็น Mainstream ของคนไทยและทั่วโลกไปแล้ว

ซึ่ง “มาชิตะ” เอง ก็เล็งเห็นถึงเทรนด์เกาหลี ที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะคนเจเนอเรชันใหม่

และเพื่อเอาใจความต้องการของผู้บริโภค ให้ได้เข้าถึงและสัมผัสรสชาติเมนูสตรีทโซลต้นตำรับ
มาชิตะ จึงได้หาอินไซต์การบริโภคอาหารเกาหลี ที่ได้รับความนิยม

แล้วดึงรสชาติเมนูฮิตจากย่านเมียงดงและฮงแด แหล่งกินเที่ยวสตรีทย่านดังของประเทศเกาหลีใต้
ไปพัฒนาเป็นสาหร่ายอบสไตล์เกาหลี 2 รสชาติใหม่ ได้แก่

1) มาชิตะ รสไก่เผ็ดเกาหลีเมียงดง
2) มาชิตะ รสหมึกผัดซอสเผ็ดฮงแด

ซึ่งมากับคอนเซปต์ The Taste of Seoul อร่อยฟินสไตล์สตรีทโซล เพื่อสื่อถึง “เมนูแห่งชาติเกาหลี”
พร้อมย้ำจุดแข็ง ใช้วัตถุดิบสาหร่ายคุณภาพเกรดพรีเมียม จากประเทศเกาหลีใต้ และไม่ใส่ผงชูรส (No msg)

การเสิร์ฟสาหร่ายอบสไตล์เกาหลี 2 รสชาติใหม่ ของแบรนด์ครั้งนี้
ก็นับเป็นการทำการตลาดส่งท้ายปี ที่จะมาสร้างสีสัน และความแปลกใหม่ให้ตลาด

กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมาย เกิดการลอง ทั้งทานเป็นสแน็ก หรือจะทานเป็นเครื่องเคียง เพิ่มการบริโภคหรือ Usage มากขึ้น นั่นเอง

ที่น่าสนใจคือ นอกจากจะเติบโตไปกับการจับเทรนด์ “เกาหลีฟีเวอร์” แล้ว
มาชิตะ ยังได้รับอานิสงส์จากเทรนด์ “สุขภาพ” อีกด้วย

โดย คุณธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด ให้ข้อมูลว่า

ด้านภาพรวมตลาดสาหร่าย มีมูลค่า 2,303 ล้านบาท การเติบโตสูง 24.1%
และกลุ่มสาหร่ายอบ มีสัดส่วนตลาดมากขึ้น แถมมีแนวโน้มการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง

สาเหตุสำคัญมาจากการที่ผู้บริโภคให้ความใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นการเลือกซื้อสินค้า จึงพิจารณาปริมาณแคลอรีและคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น

ให้แบรนด์สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสาหร่ายอบสไตล์เกาหลี ได้อย่างแข็งแกร่งที่ 32.8%
(ข้อมูลจาก Nielsen เดือนสิงหาคม ปี 2564 - กรกฎาคม ปี 2565)

ทั้งนี้ มาชิตะ “The Taste of Seoul อร่อยฟินสไตล์สตรีทโซล” 2 รสชาติใหม่
มีขนาด 5 กรัม จำหน่ายในราคา 17 บาท ผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven (ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 เท่านั้น)