Upcycling Upstyling เพื่อโลกใบนี้ที่ดีกว่า
13 ธ.ค. 2022
เป้าหมาย “Together to Net Zero” ทุกองค์กรต่างมุ่งไปจุดเดียว เพื่อเป้าหมายของการรักษ์โลกแบบยั่งยืน
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้เริ่มโครงการ อัพไซคลิง อัพสไตล์ลิ่ง (Upcycling Upstyling) เพื่อตอกย้ำการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพลาสติกใช้แล้ว ไม่เป็นขยะอีกต่อไป
...จนวันนี้ GC ยังคงจับมือกับพันธมิตรที่มีความเชื่อที่ต้องการให้โลกใบนี้ดีกว่าเดิม จึงยังคงจัดอย่างต่อเนื่อง และมีความเข้มข้นขึ้นทุกปี โดยปีนี้มีการนำพลาสติกที่ใช้แล้ว 4 ประเภท ได้แก่ ขวดน้ำดื่ม (PET Bottle) ฝาขวด (PE Cap) ถุงพลาสติก (PE Plastic Bag) และฟิล์มพลาสติก (PE Film) มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จำนวน 15 คอลเลคชั่นผ่าน “YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม” โดยได้ร่วมมือกับนักออกแบบในการรังสรรค์ชิ้นงานที่มีคุณค่าและมีคุณภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพลาสติกที่ใช้แล้ว
โดยการร่วมออกแบบครั้งนี้ แบ่งการออกแบบเป็น 3 หมวด ได้แก่ สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ (Fashion & Lifestyle) รวม 6 คอลเลคชั่น สินค้าสำหรับการท่องเที่ยวและสายแอดเวนเจอร์ (Adventure & Travelling) จำนวน 6 คอลเลคชั่น และสินค้าตกแต่งบ้าน (Home & Decoration) จำนวน 3 คอลเลคชั่น
ยกตัวอย่าง UPTOYOU x Doitung x Rungthaveeviwat ชื่อผลงาน : Stripes Vector มีรูปลักษณ์เป็นกระเป๋าและผ้าพันคอ ผสมผสานการทอผ้าอันเป็นเอกลักษณ์พื้นถิ่นของดอยตุง เน้นร่วมสมัยของนักออกแบบและผู้ทอ คือ หัตถกรรม+แฟชั่น ลวดลายน่าสัมผัส ไม่เหมือนใคร และใช้เส้นด้าย Upcycling ทั้งหมด 100% ในการทอ เทียบเท่าขวดน้ำดื่ม (PET Bottle) ที่ใช้แล้วทิ้ง 34 ขวด!
นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรและนักออกแบบอีกหลายท่านที่ล้วนแต่มีชื่อเสียง และมีความครีเอทีฟไม่ซ้ำแบบใคร
โดย GC ยังมีเป้าหมาย “Together to Net Zero” ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกลายเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ให้สำเร็จด้วยการสร้างความสมดุลระหว่างธุรกิจที่เติบโต และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
โดย ปีที่ 3 นี้ มีการใช้พลาสติกใช้แล้วจากขวดน้ำดื่ม (PET Bottle) จำนวน 2,014 ขวด และพลาสติกฝาขวด (PE Cap) ถุงพลาสติก (PE Plastic Bag) และฟิล์มพลาสติก (PE Film) จำนวน 6,241 ชิ้น นำมาผลิตเป็นเส้นใย และสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ามากมาย ซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอน 676.69 KgCO2e โดยเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 745.94 ต้น นาน 10 ปี
ความร่วมมือของหลายฝ่าย โดยมี GC เป็นผู้ขับเคลื่อนในครั้งนี้ ไม่เป็นเพียงแค่นามธรรมเท่านั้น แต่แสดงออกมาเป็นรูปธรรมอย่างเห็นได้ชัด และมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศอีกด้วย อีกทั้งเป็นการยืนยันชัดเจนสู่เป้าหมาย Net ZERO ของ GC ในปี 2050 ที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมเพื่อช่วยกันส่งต่อโลกใบนี้ที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นต่อไป