Grindr แอปหาคู่ มูลค่า 7 หมื่นล้านบาท ที่เกิดขึ้นเพราะอยากรู้ว่า คนรอบตัวมีใครเป็นเกย์บ้าง ?

เมื่อพูดถึงแอปพลิเคชันหาคู่ หลาย ๆ คนอาจคิดถึง Tinder ซึ่งเป็นแอปหาคู่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ใช้งานราว 50 ล้านคน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในตลาดแอปหาคู่นั้น ยังมีแอปอื่น ๆ ที่ให้บริการอยู่อีกเป็นจำนวนมาก
รวมถึงแอปหาคู่เกย์ ซึ่งนับว่าเป็นตลาดเฉพาะทาง

โดยในปัจจุบันแอปหาคู่เกย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นั่นคือแอปที่ชื่อว่า Grindr ด้วยจำนวนผู้ใช้งานราว 11 ล้านคนต่อเดือน และมีมูลค่ากิจการกว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.5 หมื่นล้านบาท)

สิ่งที่ทำให้ Grindr กลายเป็นแอปหาคู่เกย์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ทั้งในด้านจำนวนผู้ใช้งาน และมูลค่ากิจการ เป็นเพราะได้เป็นผู้เริ่มต้นและบุกเบิกตลาดแอปหาคู่เกย์

ย้อนกลับไปในปี 2009 ในเวลานั้น แอปหาคู่ยังไม่ใช่สิ่งที่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะอย่าลืมว่าในเวลานั้น โทรศัพท์สมาร์ตโฟน ยังไม่ได้มีการพัฒนามาจนถึงขีดสุด การดาวน์โหลดแอปที่ให้ประสบการณ์การใช้งานดี ยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก

หรือลองเปรียบเทียบง่าย ๆ ว่า ในปี 2009 โทรศัพท์มือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ยังคงเป็น Nokia และ BlackBerry ซึ่งยังห่างไกลจากสมาร์ตโฟนที่ลงแอปได้เหมือนในปัจจุบัน

ทำให้การหาคู่สักคนในเวลานั้น ต้องอาศัย “เว็บไซต์หาคู่” ซึ่งมีลักษณะเหมือนเว็บบอร์ดลงข้อความประกาศความต้องการของตัวเอง มากกว่าที่จะเป็นแอปหาคู่ที่เราคุ้นเคยอย่างในทุกวันนี้

- แอปหาคู่ที่เกิดจากความอยากรู้ว่ารอบ ๆ ตัว ใครเป็นเกย์ ?

Grindr ถือกำเนิดขึ้นในปี 2009 จากชายชาวยิว ที่ชื่อว่า Joel Simkhai ซึ่งในเวลานั้นเขาพบปัญหาในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ เพราะไม่รู้ว่า “ใครในลอสแอนเจลิส ที่เป็นเกย์เหมือนกันกับเขาบ้าง ?”

แต่แทนที่เขาจะเข้าสู่ตลาดหาคู่เกย์ ด้วยการเปิด “เว็บไซต์หาคู่” เหมือนอย่างที่คนอื่น ๆ เคยทำมาก่อน
Joel Simkhai เลือกที่จะเจาะตลาดด้วยการพัฒนาแอปหาคู่เกย์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในยุคนั้น

เทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ว่า ในปี 2008 หรือก่อนหน้าที่ Grindr จะถือกำเนิดขึ้นเพียง 1 ปี
Steve Jobs ได้เปิดตัว iPhone 3G ซึ่งนับว่าเป็น iPhone รุ่นแรกที่ Apple เปิดทางให้นักพัฒนาภายนอก สร้างแอปพลิเคชันสำหรับ iPhone ได้ โดยเปิดให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอปได้ผ่านทาง App Store

เมื่อเทคโนโลยีของสมาร์ตโฟนพร้อม Joel Simkhai จึงตัดสินใจพัฒนาแอปหาคู่สำหรับเกย์ขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยมีฟีเชอร์สำคัญ คือการใช้ GPS ระบุตำแหน่งของผู้ใช้ ซึ่งช่วยแก้ปัญหา “ไม่รู้ว่าคนรอบตัวคนไหนที่เป็นเกย์บ้าง” ให้กับ Joel Simkhai ได้

ทำให้แอป Grindr สามารถเอาชนะคู่แข่งในเวลานั้นไปได้อย่างขาดลอย โดยเฉพาะคู่แข่งสำคัญในยุคนั้น อย่างเว็บไซต์หาคู่เก่าแก่ ที่ชื่อ Gaydar ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1999

หลังจากที่ Grindr เปิดบริการได้เพียง 3 ปี จำนวนผู้ใช้งานก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีจำนวนผู้ใช้งานราว 4 ล้านคน และมีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวันราว 1 ล้านคน ในปี 2012

จนกระทั่งในปัจจุบัน Grindr ได้กลายเป็นแอปหาคู่เกย์ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือน (Monthly Active Users) 11 ล้านคน อีกทั้งยังมีมูลค่ากิจการกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท

เอาชนะคู่แข่งในวงการเดียวกันไปได้อย่างขาดลอย เช่น Hornet ที่มีจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือน 2.3 ล้านคน และ Jack’d ที่มีจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือน 1.1 ล้านคน

และที่น่าสนใจคือ Grindr มีผู้ใช้งานแบบเสียเงินสมัครสมาชิกราว 7.6 แสนคน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของผู้ใช้งานทั้งหมด

ในด้านส่วนแบ่งตลาด (Market Share) แม้จะไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า แอปหาคู่เกย์ใด ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในระดับโลก แต่หากพิจารณาจากส่วนแบ่งตลาดของแอปหาคู่เกย์ในสหรัฐฯ จะพบว่า Grindr มีส่วนแบ่งตลาดราว 7.1%

- ทำไม Grindr จึงกลายเป็นแอปหาคู่เกย์ที่ประสบความสำเร็จที่สุด ?

สาเหตุที่ทำให้ Grindr กลายเป็นแอปหาคู่เกย์ที่ประสบความสำเร็จที่สุด เกิดจากคำว่า “คิดก่อน ทำก่อน” ของ Joel Simkhai

Joel Simkhai เคยให้สัมภาษณ์ว่า ครั้งหนึ่ง เขาก็เคยเป็นคนที่ไม่ได้มีทั้งเงิน และความรู้ด้านเทคโนโลยีมากนัก แต่สิ่งที่เขาทำคือ การค้นหาว่าปัญหาสำคัญ ที่คนจำนวนมากต้องเจอคืออะไร ?
ในกรณีของเขา คือการไม่รู้ว่าคนรอบ ๆ ตัว ใครเป็นเกย์ เหมือนกับตัวเขาบ้าง

และเขาก็พบว่า คนจำนวนมาก ประสบปัญหาเดียวกันกับเขา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การคิดให้ดี ๆ และอย่าเข้าข้างตัวเอง ว่าใคร ๆ ก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน

เพราะยิ่งมีคนเจอปัญหาแบบเดียวกันมากเท่าไร นั่นหมายถึงโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้นไปด้วย

นอกจากนี้ Joel Simkhai ยังบอกด้วยว่า แม้จะรู้ว่าปัญหาที่คนส่วนมากเจอคืออะไร แต่นั่นก็หมายความว่า คนอื่น ๆ ก็ต้องรู้ปัญหาเช่นเดียวกันกับคุณ
ดังนั้น อีกสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็วในทันทีที่รู้ปัญหา เพราะนอกจากจะได้เป็น “เจ้าแรก” เพื่อแย่งชิงโอกาสแล้ว ยังได้เรียนรู้ความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อพัฒนาแอปในเวอร์ชันต่อ ๆ ไป ให้ดียิ่งขึ้น จนคู่แข่งตามไม่ทัน

- โอกาสทางธุรกิจของแอปหาคู่เกย์ ใหญ่แค่ไหน ?

ในปัจจุบัน ตลาดแอปหาคู่เกย์ทั่วโลก มีมูลค่าอยู่ที่ราว 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 แสนล้านบาท) ในขณะที่จำนวนประชากร LGBTQ+ ทั่วโลก เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

โดยจากสถิติพบว่า จำนวนประชากร LGBTQ+ ทั่วโลก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 390 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 5.3% ของจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นเป็น 538 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 6.9% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ในปี 2021

และมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 จำนวนประชากร LGBTQ+ ทั่วโลก จะเพิ่มขึ้นเป็น 660 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 8.2% ของจำนวนประชากรทั้งหมด

และด้วยความที่จำนวนประชากร LGBTQ+ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้เอง ทำให้มีการคาดการณ์ว่า ประชากรกลุ่มนี้ จะมีส่วนในการสร้าง GDP ให้กับโลก คิดเป็นมูลค่ากว่า 14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 500 ล้านล้านบาท) ในปี 2026

และนั่นหมายความว่า แอปหาคู่เกย์ หรือแม้แต่ LGBTQ+ อื่น ๆ ยังมี “โอกาส” อีกมากมายรออยู่ในอนาคต เหมือนที่ Joel Simkhai เคยพบโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการเป็นผู้บุกเบิก เข้าสู่ตลาดแอปหาคู่เกย์ก่อนใคร นั่นเอง

อ้างอิง:
-https://www.theguardian.com/business/2022/may/10/gay-dating-app-grindr-float-spac-deal
-https://finance.yahoo.com/news/grindr-going-public-behind-2-165631683.html
-https://www.investors.grindr.com/
-https://static1.squarespace.com/static/625edd7c14d6706d1cd78f6c/t/636ea21f9121821e8641d3d6/1668194853414/Grindr+Investor+Presentation+09.15.22.pdf
-https://www.businessofapps.com/data/dating-app-market/
-https://datingranking.net/gaydar-review/
-https://www.thedrum.com/news/2016/05/25/grindr-ceo-joel-simkhai-explains-how-he-turned-his-idea-app-reality
-https://hornet.com/about/advertise/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Grindr
-https://en.wikipedia.org/wiki/Joel_Simkhai
-https://www.runwithcommando.com/dating-apps/jackd/
-https://www.statista.com/statistics/271496/global-market-share-held-by-smartphone-vendors-since-4th-quarter-2009/