มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยืนยัน Metaverse ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุดที่บริษัทกำลังทำ เงินลงทุน 80% ยังใช้ไปกับโซเชียลมีเดีย
1 ธ.ค. 2022
ที่ผ่านมา มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในฐานะ CEO ของ Meta ถูกจับตามองจากนักลงทุนทั่วโลกเป็นอย่างมาก ถึงการเดินเกมที่อาจผิดพลาด หันไปให้ความสนใจกับ Metaverse มากเกินไป จนหลงลืมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของบริษัท
ทำให้ Meta ต้องเผชิญกับสถานการณ์ปั่นป่วน มูลค่าบริษัทลดลงอย่างมหาศาล จนต้องประกาศปลดพนักงาน 11,000 คนทั่วโลก
ล่าสุด มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้พูดถึงทิศทางการทำงานของ Meta โดยยืนยันว่า Metaverse ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุดที่บริษัทกำลังทำอยู่ในขณะนี้ เพราะบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นธุรกิจหลักอยู่เช่นเดิม
“เงินลงทุนส่วนใหญ่กว่า 80% หรือมากกว่านี้เล็กน้อย ยังคงทุ่มให้กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ Meta”
ซึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลที่ว่านี้ มีทั้ง Facebook, Instagram และ WhatApps รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาบนแฟลตฟอร์มของบริษัทด้วย
ส่วนเงินลงทุนที่เหลืออีกราว 20% มาร์ก ให้ข้อมูลว่า จะนำไปพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse ในห้องทดลอง ที่มาร์กเรียกว่าหน่วยงาน “Reality Lab”
โดยห้องทดลองของ Reality Lab นี้ จะใช้เงินลงทุนในสัดส่วนราว 40% ไปกับการพัฒนาอุปกรณ์ VR/AR ซึ่งจำเป็นกับโลก Metaverse ยกตัวอย่างเช่น แว่นตาที่มีหน้าตาเหมือนแว่นตาธรรมดาทั่วไป แต่สามารถฉายภาพโฮโลแกรมขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม มาร์ก ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า เงินลงทุนในสัดส่วน 20% ที่ใช้ไปกับ Metaverse เป็นเงินจำนวนไม่น้อย และหลาย ๆ คน อาจมองว่า เขากำลังลงทุนให้กับอนาคตที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน
เรื่องนี้ มาร์ก ยืนยันว่า ในทศวรรษ 2030 พวกเราทุกคนคงไม่ได้อยู่ตรงนี้ และใช้คอมพิวเตอร์ในการสื่อสารกันอย่างที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
เพราะยังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ อีกมาก ที่รอการคิดค้นขึ้นมา ดังนั้น เขาจึงมองโลกในเชิงบวกต่อเรื่องนี้
เพราะยังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ อีกมาก ที่รอการคิดค้นขึ้นมา ดังนั้น เขาจึงมองโลกในเชิงบวกต่อเรื่องนี้
นอกจากนี้ มาร์ก ยังได้บอกด้วยว่า Meta จะลงทุนในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ไปในระหว่างนี้ จนกว่า Metaverse จะกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมในวงกว้าง..