แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ เวทีพลิกชีวิต สู่เส้นทางเชฟมืออาชีพ
23 พ.ย. 2022
อาชีพเชฟ เป็นเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แถมยังต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การจะพิสูจน์ฝีมือเชฟให้เป็นที่ยอมรับ ต้องผ่านเวทีการแข่งขันในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ยิ่งแข่งขัน ยิ่งพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้น และเวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ คือคำตอบ ที่ผู้เข้าแข่งขันต่างเลือกที่จะยืนหยัดในเวทีนี้
การประชันฝีมือของเชฟอาชีพและเชฟมือสมัครเล่น ในเวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ 2022 ปีนี้ เข้มข้นตั้งแต่คัดเลือกตัวแทนของทั้ง 5 ภูมิภาคด้วยโจทย์สุดท้าทาย ภายใต้แนวคิด “วิถีท้องถิ่นเข้มแข็ง (The Local Strong)” สื่อถึงความเข้มแข็งโดดเด่น ของวัตถุดิบท้องถิ่นในทุกมิติ เพื่อพิสูจน์ฝีมือเชฟ ผ่านการรังสรรค์เมนูอาหาร โดยเวทีแห่งนี้ได้การรับรองจากสมาคมเชฟโลก หรือ World Association of Chef Societies (WACS) ให้เป็นการแข่งขันปรุงอาหารที่ใช้กฎระเบียบและกติกาการแข่งขันทั้งหมด ตามมาตรฐานสากลอย่างแท้จริง ทำให้ผู้แข่งขันได้รับประสบการณ์ ความรู้ แนวทางการแก้ปัญหา รวมถึงแรงบันดาลใจ และเครือข่ายพันธมิตร ที่สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้
สิ่งสำคัญคือคอนเนคชั่นและการสร้างแรงบันดาลใจ
เชฟคนแรก ที่จะมาเล่าประสบการณ์ คือเชฟอิน หรือ ณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ ผู้ก่อตั้ง บริษัท กำลังอิน จำกัด และอินฟลูเอนเซอร์ที่มียอดติดตามใน TikTok ราว 1.1 ล้านคน และมีเฟซบุ๊ค แฟนเพจ และผู้ติดตามในอินสตราแกรม 2 – 3 แสนคน ซึ่งเวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ มีส่วนสำคัญในการผลักดันเส้นทางอาชีพของเชฟอินมาถึงจุดนี้
“เพียงแค่เชฟวิลเมนต์บอกผมว่า นี่คือจานโปรเฟสชั่นนอลที่ผมต้องการ ผมถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว” เชฟอินกล่าวถึงการแข่งขันรอบสุดท้ายเพื่อชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งแม้เขาจะพลาดรางวัลชนะเลิศเพราะใช้เวลาเกินกำหนด แต่การยอมรับในเมนูอาหารที่เขารังสรรค์ขึ้น ถือว่าเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาแล้ว
เชฟอินรู้ตัวว่าต้องการเป็นเชฟตั้งแต่มัธยมต้น จึงฉีกกฎของที่บ้าน ซึ่งปกติลูกทุกคนจะเรียนสายอาชีวะ ด้วยความที่เขาอยากไปได้ไกล และหาโอกาสที่มากขึ้น จึงตัดสินใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โดยยอมที่จะเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย เพื่อจะได้เรียนในสายอาชีพเชฟตามที่ฝันไว้ ระหว่างเรียนก็เข้าประกวดหลายเวทีเพื่อพัฒนาตัวเอง รวมทั้งเข้าประกวดในเวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ อีกหลายครั้งต่อมา เพื่อตามความฝัน
“สิ่งที่ได้จากเวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ ไม่ใช่แค่การได้พัฒนาตัวเอง หรือสร้างแรงบันดาลใจในอาชีพเชฟเท่านั้น แต่เรายังได้คอนเนคชั่น ทำให้เราเป็นที่รู้จักในวงการอาหาร และยิ่งวันนี้เรามีสื่อออนไลน์ ทำให้สามารถขยายขอบเขตการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ที่สนใจในอาชีพเชฟ ได้เข้ามาแข่งขัน พัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้น แม็คโครเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเชฟเข้าสู่วงการอาหาร นี่คือสิ่งที่อยากขอบคุณตลอดหลายปีที่ผ่านมา” เชฟอินกล่าว
ดังนั้น สำหรับเด็กรุ่นใหม่ เวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ เป็นเวทีที่ท้าทาย ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ การแข่งขันจะช่วยฝึกฝน และพัฒนาฝีมือ สำหรับการเข้าสู่เวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ไม่ได้มาแข่งเพื่อชนะเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเวทีช่วยสร้างเครือข่ายพันธมิตร สร้างแรงบันดาลใจ ที่จะนำไปต่อยอดพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งในเส้นทางสายอาชีพเชฟต่อไป
พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ขณะที่ แสงเทียน สิงห์แก้ว ผู้ชนะเลิศเวทีการประกวดแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ 2022 ในรุ่นมืออาชีพ ซึ่งเข้าประกวดเวทีนี้เป็นครั้งที่ 4 และเคยได้รับรางวัลระดับเยาวชนมาแล้วในปี 2017 กลับมาแข่งขันอีกครั้งในรุ่นมืออาชีพ ในปี 2018 และได้รางวัลอีกครั้งในการแข่งขันประเภทคู่ ในปี 2019 จนได้แชมป์ประเทศไทย ช่วงเตรียมตัวไปแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ เกิดโควิดเสียก่อน จึงกลับมาแข่งในปี 2022 จนประสบความสำเร็จอีกครั้งกับแชมป์ประเทศไทยในรุ่นมืออาชีพ
แสงเทียน กล่าวว่า การแข่งขันเวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ โจทย์ที่ได้รับยากขึ้นเรื่อย ๆ และมีความท้าทายมากขึ้นจากวัตถุดิบ มีทั้งวัตถุดิบท้องถิ่น และนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้ และพัฒนาตัวเอง สำหรับปีนี้ โจทย์วัตถุดิบปริศนา คือ ปลาทรายแดง และชะอม ทำอย่างไรจะยกระดับวัตถุดิบในท้องถิ่นให้มีมูลค่า สามารถขึ้นโต๊ะภัตตาคารหรู เป็นอาหารระดับ Fine Dining ได้ เป็นความท้าทายอย่างมาก
สำหรับเมนูที่แสงเทียนรังสรรค์ขึ้น จนชนะรางวัลในปีนี้ ประกอบด้วย เมนู APPETIZER ปอเปี๊ยะปลาทรายแดง ผัดต้มยำ ซีฟู้ดชะอมยัดไส้เต้าหู้ ซอสมิโซะมะกรูด พีชคอมโพด MAIN COURSE Butter Poach Red Mullet Filling ผัดเผ็ด ฟักทองพูเร มันฝรั่งทอดเนย White Wine Sauce มะกรูด
“อยากกลับมาประกวดอีกทุกปี โจทย์ยิ่งยากขึ้น อาหารที่ทำก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ สิ่งที่เราได้จากเวทีนี้ คือ หนึ่ง เราได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น เพราะแต่ละปีโจทย์จะเปลี่ยนไป ถ้าไม่มีการพัฒนา มีโอกาสตกรอบได้ สอง ได้พัฒนาทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การบริหารจัดการในครัว ซึ่งในฐานะเป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจร้านอาหาร เรื่องนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง และสุดท้าย สิ่งที่ได้รับคือความภาคภูมิใจ” แสงเทียนกล่าว
ด้าน ปฏิภาณ ประกาสิทธิ์ ผู้ชนะเลิศในรุ่นเยาวชน ซึ่งมาแข่งขันในปีนี้เป็นปีแรก ตามรอยรุ่นพี่ และสามารถเอาชนะได้ สำหรับเขาการได้รับรางวัลในเวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ ไม่ใช่แค่การชนะใจกรรมการ แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจให้ครอบครัว รวมถึงการได้รับการยอมรับและสนับสนุนกับอาชีพเชฟ ที่เคยได้รับคำดูถูกมาก่อน
“เราโดนดูถูกเยอะ กับการเข้ามาเรียนตรงนี้ จึงอยากสร้างการยอมรับ โดยเฉพาะกับครอบครัว เคยเข้าประกวดมาหลายเวที และตัดสินใจเข้ามาแข่งขันในเวทีนี้ ซึ่งเป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และคิดว่าจะเป็นเวทีสุดท้าย ถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว อาจต้องตัดสินใจเดินทางในสายอาชีพนี้ด้วยตัวเอง เพราะนี่คือความฝัน” ปฏิภาณเล่าด้วยความมุ่งมั่น
สำหรับเมนูที่ ปฏิภาณ รังสรรค์ขึ้น จนชนะใจกรรมการ ประกอบด้วย APPETIZER Duck Breast Slice Roll, Grilled Egg Plant with Spicy Thai Mango Sauce, Stir-fried Pumpkin with Egg Puree MAIN COURSE Pan-seared Duck Breast, Duck Thigh Chili Plate & Salad Egg York Pot Pie, Duck Holy Basil Meat Ball, Potato Roasties, Sauteed Vegetable, Tamarind Sauce
ปฏิภาณ กล่าวว่า การได้แชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์เป็นสิ่งที่ยากกว่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำ คือการฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการทำธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านประเภท Fine Dining มีความกดดันสูง แต่เรามองเป็นความท้าทาย ถ้าเราทำได้ จะเป็นการพิสูจน์ตัวเองว่าได้ไปต่อ และพัฒนาไปจนถึงจุดที่สามารถยืนอยู่ได้อย่างภาคภูมิใจ การแข่งขันในเวทีแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ ทำให้รู้สึกว่าจะไปยืนที่จุดนั้นได้ ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายชีวิตของตัวเอง
นี่คือตัวอย่างส่วนหนึ่งของผู้ที่ประสบความสำเร็จในเวทีการประกวดแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ 2022 เวทีที่ไม่ใช่แค่การประกวดการทำอาหาร แต่เป็นบทพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพ ทั้งทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงแต่งวัตถุดิบท้องถิ่น ยกระดับสร้างมูลค่าเพิ่มให้เป็นอาหารระดับภัตตาคาร ที่สำคัญนี่คือเวทีแห่งการสร้างสัมพันธ์ สานเครือข่ายพันธมิตร ที่จะต่อยอดสร้างธุรกิจที่เติบโตได้อย่างยั่งยืน