Foxconn ประกาศจ่ายโบนัสพิเศษรายวัน คนละ 2 พันบาท ให้พนักงานที่ไม่ลางานกลับบ้าน แม้พื้นที่รอบโรงงานถูกล็อกดาวน์
2 พ.ย. 2022
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีน ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ตามนโยบาย Zero-Covid
ทำให้โรงงานของ Foxconn ซึ่งรับหน้าที่ผลิต iPhone ได้รับผลกระทบ พนักงานหลายคนพยายามขนสัมภาระ ปีนรั้วออกจากโรงงาน เพราะกลัวว่าจะถูกปิดกั้นพื้นที่ จนไม่สามารถออกจากโรงงานเพื่อกลับบ้านได้
ซึ่งแน่นอนว่ามาตรการนี้ ย่อมส่งผลต่อการผลิต iPhone 14 รุ่น Pro ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลก จน Foxconn ต้องหาทางแก้ไข เพื่อดึงดูดให้พนักงาน ยังคงอยู่ในโรงงาน และเดินเครื่องผลิต iPhone ได้ตามปกติ
โดย Foxconn จะให้เงินโบนัสพิเศษประจำวันแก่พนักงาน ที่ยอมอยู่ในโรงงานเพื่อทำงานต่อ สูงสุด 400 หยวนต่อวัน (ราว 2,000 บาท) จากเดิมที่เคยได้โบนัสพิเศษประจำวันราว 100 หยวนต่อวัน (ราว 520 บาท)
นอกจากนี้ Foxconn ยังได้ติดประกาศแจ้งกับพนักงานที่กำลังเดินทางออกจากโรงงานด้วยว่า หากพนักงานคนใด ที่เลือกทำงานครบเต็มเวลาในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะได้รับเงินโบนัสพิเศษสูงสุด 15,000 หยวน (ราว 77,700 บาท)
จากที่ช่วงเวลาปกติ พนักงาน Foxconn มักได้ค่าจ้างรายเดือนอยู่ที่ 3,000 - 4,000 หยวนต่อเดือน (ราว 15,500 - 20,700 บาท)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Foxconn จะเลือกดึงดูดพนักงานให้อยู่ในโรงงานต่อ ด้วยเงินโบนัสพิเศษ ที่มากกว่าปกติราว 4 เท่า แต่ก็ต้องยอมรับว่า คุณภาพชีวิตของพนักงานอยู่อยู่ในโรงงานช่วงล็อกดาวน์นั้น อาจไม่ดีเท่าใดนัก
โดยเฉพาะอาหาร และเครื่องดื่ม ที่ไม่เพียงพอ จนชาวบ้านที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ต้องช่วยกันส่งอาหาร และน้ำดื่มเข้ามาให้กับพนักงานในโรงงาน
นอกจากนี้ รัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลเหอหนาน อาจกำลังวางแผนร่วมกับ Foxconn ในการเดินหน้าการผลิต iPhone ที่โรงงานแห่งนี้ ในลักษณะ “โรงงานปิด” โดยให้พนักงานทำงานตามปกติ แต่ถูกจำกัดบริเวณ ให้อยู่ได้เฉพาะพื้นที่โรงงาน และหอพักใกล้ ๆ รวมถึงมีการตรวจเชื้อโควิด 19 ทุกวัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากพื้นที่ภายนอกโรงงาน
สาเหตุที่ทำให้ Foxconn ต้องยอมจ่ายโบนัสก้อนโต ให้กับพนักงานที่สมัครใจอยู่ทำงานในโรงงานต่อ เป็นเพราะ โรงงาน Foxconn ที่เมืองเจิ้งโจวแห่งนี้ เป็นฐานการผลิตที่มีความสำคัญ โดย iPhone กว่า 70% ถูกผลิตจากโรงงานแห่งนี้
และการประกาศล็อกดาวน์โรงงาน ก็อาจทำให้กำลังการผลิต iPhone ของโรงงานแห่งนี้ลดลงถึง 30% สวนทางกับความต้องการ iPhone รุ่นใหม่ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ iPhone 14 รุ่น Pro ที่ขายดี จนสินค้าขาดตลาดในหลาย ๆ ประเทศ