ถอดรหัสความสำเร็จแบบบิ๊ก อิมแพ็ค ของ COOLive ในเครืออาร์เอส กรุ๊ป จัดคอนเสิร์ตอย่างไรให้ขายบัตรหมดภายใน 5 นาที

ในช่วงหลายปีผ่านมา กระแสการโหยหาอดีตเป็นอีกหนึ่งกระแสหลักที่ยังร้อนแรงและสร้างรายได้ให้กับหลายๆ ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ COOLive ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาร์เอส กรุ๊ป ที่รับผิดชอบดูแลการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินอาร์เอส ที่พร้อมจับเทรนด์ ต่อยอดความต้องการของผู้บริโภคและสร้างปรากฏการณ์ Sold Out บัตรคอนเสิร์ตทุกครั้งที่จัดให้ขายหมดภายในเวลาไม่กี่นาที

ความสำเร็จของคอนเสิร์ตจาก COOLive

· คอนเสิร์ต Raptor Evolution 25 ปีไม่มีเกรงใจ ใช้เวลาขายบัตรเพียง 20 นาที พร้อมเกิดกระแสให้เพิ่มรอบการแสดงเป็น 2 รอบ และสร้างสถิติผู้ชมสูงถึงกว่า 20,000 คน

· คอนเสิร์ต D2B Infinity Concert 2019 ใช้เวลาขายบัตรแค่ 5 นาทีเท่านั้น ทำให้เกิดกระแสแฟนเพลงเรียกร้องให้ D2B กลับมาจัดคอนเสิร์ตอีกครั้ง จนเกิดเป็นคอนเสิร์ต D2B Infinity Fun+ 2020 ที่ใช้เวลาในการขายบัตร 10,000 ที่นั่งเพียงไม่กี่นาที

· คอนเสิร์ต Kamikaze Party 2022 เกิดการแย่งชิงกดจองบัตรเข้าชมจนทำให้เว็บขายบัตรเข้าชมล่ม และ #KamikazeParty2022 ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งของไทยในช่วงวันจัดคอนเสิร์ต

· คอนเสิร์ต RS Meeting Concert 2022 ที่จะจัดแสดงที่อิมแพคอารีน่า ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ก็ขายบัตรหมดอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ด้าน คุณปริญญ์ หมื่นสุกแสง หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจวิทยุคูลลิซึ่ม เผยถึงปัจจัยความสำเร็จในการจัดคอนเสิร์ตว่า “คูลลิซึ่มนอกจากเป็นเจ้าของคลื่นวิทยุ COOLfahrenheit ที่เปิดเพลงเพราะจนครองใจผู้ฟังคนไทยอันดับหนึ่งมาอย่างยาวนาน ผ่านทั้งช่องทางคลื่นวิทยุและช่องทางออนไลน์แล้วนั้น อีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญ คือ การยกระดับการทำงานด้านคอนเสิร์ตและอีเวนท์ ที่ได้รับการเชื่อถือมั่นใจและยอมรับจากผู้ชมและสปอนเซอร์ในการสร้างคอนเสิร์ต Event Music Festival ภายใต้ทีมงาน COOLive ที่ผ่านมา เราใช้กลยุทธ์ Nostalgia หรือ Good old days ย้อนความทรงจำที่น่าประทับใจไปกับทุกๆ คอนเสิร์ตที่จัดขึ้น โดยอิงไปกับกระแส #โตมากับอาร์เอส และ #โตมากับกามิ นอกจากนี้ ทีมงานครีเอทีฟยังช่วยกันระดมสารพัดไอเดีย

และมีการจัดทำ Research สอบถามกลุ่มผู้ชมว่าต้องการเห็นอะไรเกิดขึ้นบนเวทีบ้าง เพื่อให้ทุกๆ คอนเสิร์ตสร้างความประทับใจแก่ผู้ชม ขณะเดียวกันทีมงานจะคัดเลือกศิลปินที่โด่งดังที่เป็นขวัญใจวัยรุ่นยุค 90 ถึงยุค 2000 ที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมากมารวมตัวอยู่บนเวทีเดียวกัน พร้อมกับคัดเลือกเพลงฮิตในอดีตมาร้องเต้นบนเวทีขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยทีมแดนเซอร์ สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ แบบไม่แพ้คอนเสิร์ตระดับโลก จึงทำให้คอนเสิร์ตของ COOLive นับเป็น Rare Item ที่ไม่สามารถหาดูได้จากที่ไหน”

Original content x Technology

“นอกจากตัวศิลปินและเพลงที่สร้างความสุขให้ผู้ชมในยุคออริจินัลแล้วเรายังนำเทคโนโลยีโปรดักชั่นในยุคปัจจุบันมาใช้สร้างความพิเศษในแต่ละโชว์ด้วย อาทิ เทคโนโลยี Kinetic ที่ใช้ในซีนเพลงเกรงใจของคอนเสิร์ต Raptor หรือเทคโนโลยี Xyloband กำไลข้อมือ LED ที่ควบคุมการเรืองแสงด้วยสัญญาณ digital ที่สามารถทำให้ผู้ชมทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างซีนคอนเสิร์ตไปด้วยกัน”

เซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง

ทุกๆ คอนเสิร์ตของ COOLive จะมีการสร้างเซอร์ไพรส์ที่คนดูคาดไม่ถึงเสมอ เช่น คอนเสิร์ต D2B Infinity Concert 2019 ที่มีการใช้ Hologram สร้าง ‘บิ๊ก’ หนึ่งในสมาชิกวง D2B ที่ล่วงลับไปแล้วให้กลับมาร้องเต้นกับ ‘แดน’ และ ‘บีม’ อีกครั้ง ทำเอาผู้ชมคอนเสิร์ตในเวลานั้นทั้งสนุก ทั้งซาบซึ้ง และใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาที่ทำให้หวนคิดถึงวันวานเก่าๆ ของวง D2B ที่มีสมาชิกครบ

ความท้าทายที่ต้องใช้พลังการจัดการขั้นสุด

สิ่งที่ยากที่สุดในการจัดคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง คือการรวบรวมศิลปินในยุค 90 ถึง 2000 ให้มารวมตัวบนเวทีเดียวกัน ปัจจุบันทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีเส้นทางชีวิต และหน้าที่การงานแตกต่างกันออกไป การที่จะให้เหล่าศิลปินมาฝึกซ้อมและขึ้นคอนเสิร์ตในวันเดียวกันนับเป็นความท้าทายอย่างสูง แต่ทีมงาน COOLive ก็สามารถทำเรื่องนี้ให้สำเร็จได้ทุกครั้ง โดยเน้นการบริหารจัดการคิวการซักซ้อม และการแชร์ไอเดีย ปรับความคิดระหว่างศิลปินและผู้จัดให้เข้าใจตรงกัน อย่างล่าสุด คอนเสิร์ต Kamikaze Party 2022 ที่มีศิลปินบนเวทีถึง 23 คน นับเป็นเวทีที่รวมศิลปินไว้เยอะที่สุดตั้งแต่ COOLive จัดคอนเสิร์ตมา

สำหรับคอนเสิร์ตส่งท้ายปลายปีนี้อย่าง ‘RS Meeting Concert 2022 Dance Marathon ปลายปี…ถึงทีเต้น ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี แน่นอนว่าทีมงาน COOLive ได้เตรียมเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง พร้อมเพลงฮิตและท่าเต้นที่ผู้ชมสามารถร้องและเต้นตามกันได้ทุกคน และเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ซื้อบัตรเข้าชม เพราะทีมงาน COOLive สร้างทุกๆ คอนเสิร์ตที่มาจากการตั้งคำถามว่า “ผู้ชมต้องการอะไร จากนั้นก็ตอบสนองความต้องการนั้น อย่างเกินความคาดหมายเสมอ”