ศึกชิปเซ็ต จีนเร่งอัดฉีดเงินบริษัทผลิตชิปเซ็ตท้องถิ่น หลังสหรัฐฯ จำกัดการส่งออกให้จีน
19 ต.ค. 2022
เมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐอเมริกา เพิ่งจะออกมาตรการจำกัดการส่งออกชิปเซ็ต ให้กับบริษัท 31 บริษัทในประเทศจีน
นั่นทำให้จีน ต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าชิปเซ็ตคุณภาพสูงจากสหรัฐฯ ให้ได้มากที่สุด
สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า ขณะนี้ จีนได้ออกนโยบายสนับสนุนบริษัทผลิตชิปเซ็ต ภายในประเทศ ด้วยการจ่ายเงินอัดฉีดมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า เพื่อจูงใจ และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา และผลิตชิปเซ็ตภายในประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้าจากสหรัฐฯ
นโยบายสนับสนุนที่ว่านี้ เป็นนโยบายของรัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่ง
รัฐบาลท้องถิ่นของมลฑลเจ้อเจียง ประกาศให้เงินรางวัลแก่บริษัทที่สามารถพัฒนาชิปเซ็ต ที่ใช้สิทธิบัตรของตัวเองได้สำเร็จ
นอกจากนี้บริษัทใดที่มีรายได้จากการออกแบบชิปเซ็ตเกิน 20 ล้านหยวน (ราว 105 ล้านบาท), 100 ล้านหยวน (ราว 528 ล้านบาท) และ 500 ล้านหยวน (ราว 2,600 ล้านบาท)
จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่น 3 แสนหยวน (ราว 1.5 ล้านบาท), 1 ล้านหยวน (ราว 5.2 ล้านบาท) และ 5 ล้านหยวน (ราว 26.4 ล้านบาท) ตามลำดับขั้น
ส่วนบริษัทผู้ผลิตชิปเซ็ต ที่มีรายได้เกิน 500 ล้านหยวน (ราว 2,600 ล้านบาท), 1,000 ล้านหยวน (ราว 5,200 ล้านบาท), 2,000 ล้านหยวน (ราว 10,500 ล้านบาท), 5,000 ล้านหยวน (ราว 26,000 ล้านบาท)
จะได้รับเงินสนับสนุน 5 ล้านหยวน (ราว 26.4 ล้านบาท), 10 ล้านหยวน (ราว 52.8 ล้านบาท) และ 20 ล้านหยวน (ราว 105 ล้านบาท) ตามลำดับขั้น
ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลเจียงซู สนับสนุนอุตสหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ผ่านการสนับสนุนอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ชีวะการแพทย์ และระบบโครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ตกริด
ส่วนที่เมืองเซินเจิ้น แม้จะมีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีนอยู่แล้ว แต่รัฐบาลท้องถิ่นของเซินเจิ้น ก็เตรียมงบประมาณไว้ 10 ล้านหยวนต่อปี (ราว 53 ล้านบาท) เพื่อให้การสนับสนุนบริษัทผลิตชิปเซ็ตจีน ด้านทรัพย์สินทางปัญญา สำหรับการวิจัยเพื่อออกแบบ และผลิตชิปเซ็ตโดยเฉพาะ
เช่นเดียวกันกับเมืองเหอเฝย์ มณฑลอานฮุย ที่ประกาศนโยบายสนับสนุนการพัฒนาชิปเซ็ต และเซมิคอนดักเตอร์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
-นโยบายดี แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ?
แม้จะปฎิเสธไม่ได้เลยว่า จีนมีความพยายามอย่างจริงจัง ในการผลักดันการพัฒนา รวมถึงผลิตชิปเซ็ต ภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติ
แต่ที่ผ่านมา จีนก็เคยมีบทเรียนมาแล้วก่อนหน้านี้ ว่าการทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อสนับสนุนบริษัทท้องถิ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ โดยเฉพาะประเด็นการขาดความเชี่ยวชาญ รวมถึงทิศทางของนโยบายยังไม่มีความชัดเจน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตชิปเซ็ต และเซมิคอนดักเตอร์ ให้ความเห็นว่า รัฐบาลท้องถิ่นของจีน จำเป็นที่จะต้องหาจุดยืนของตัวเองให้เจอ ดูพื้นฐาน รวมถึงข้อได้เปรียบของตัวเองที่มีอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้งบประมาณอย่างไม่เกิดประโยชน์
เช่นเดียวกับความต่อเนื่องในกระบวนการวิจัย และพัฒนา จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสหกรรมการผลิตชิปเซ็ต และเซมิคอนดักเตอร์ของจีน เดินหน้าต่อได้ในอนาคต