“จั๊บจั๊บ” เส้นก๋วยจั๊บที่เกิดจาก Passion อันร้อนแรง
14 ม.ค. 2020
หลังจากที่ MarketThink นำเสนอ ก๋วยจั๊บญวนกึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ “จั๊บจั๊บ”
แล้วได้รับความนิยมจากแฟนเพจเป็นจำนวนมากเกินคาด
แล้วได้รับความนิยมจากแฟนเพจเป็นจำนวนมากเกินคาด
ทำให้ MarketThink อยากรู้จักเจ้าของแบรนด์นี้ว่า เขาเป็นใคร มาจากไหน
แล้วมีวิธีคิดในการทำธุรกิจอย่างไรที่ทำให้ “จั๊บจั๊บ” กลายเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูป
ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมในเวลานี้
แล้วมีวิธีคิดในการทำธุรกิจอย่างไรที่ทำให้ “จั๊บจั๊บ” กลายเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูป
ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมในเวลานี้
จนมารู้ว่าความจริงว่า แท้จริงแล้วเจ้าของแบรนด์นี้
เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งชื่อ “คุณยุ้ย มนัสชญาณ์ อู่สมบัติชัย”
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีไลท์88 จำกัด ซึ่งร่วมกันสร้างธุรกิจนี้กับน้องสาว 2 คนและน้องชาย 1 คน
เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งชื่อ “คุณยุ้ย มนัสชญาณ์ อู่สมบัติชัย”
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีไลท์88 จำกัด ซึ่งร่วมกันสร้างธุรกิจนี้กับน้องสาว 2 คนและน้องชาย 1 คน
โดยคุณยุ้ยเล่าให้ฟังว่า...เดิมทีเธอเป็นมนุษย์เงินเดือน
“ก่อนหน้านั้นทำงานเป็นผู้แทนยาของบริษัทข้ามชาติ จนวันหนึ่งต้องกลับไปดูแลกิจการของครอบครัวซึ่งเป็นร้านขายเครื่องเสียงรายใหญ่ในจังหวัดอุบลราชธานี”
แต่เมื่อกลับมาดูแลกิจการที่บ้านกลับไม่ค่อยรู้สึกสนุกเท่าที่ควร
จึงมองหาสิ่งที่ตัวเองชอบและอยากทำ จนได้มีโอกาสเจองานวิจัย..
จึงมองหาสิ่งที่ตัวเองชอบและอยากทำ จนได้มีโอกาสเจองานวิจัย..
พร้อมกับรวมเงินเก็บของตัวเองและคนในครอบครัว
เป้าหมายก็เพื่อทำให้ Passion ที่ถูกซุกซ่อนในใจนั้น
ถูกสร้างเป็นสินค้าที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อนในตลาด
เป้าหมายก็เพื่อทำให้ Passion ที่ถูกซุกซ่อนในใจนั้น
ถูกสร้างเป็นสินค้าที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อนในตลาด
“เราก็คิดว่ามันคงดีนะ หากมีก๋วยจั๊บกึ่งสำเร็จรูป ที่มีเส้นอร่อย น้ำซุปสูตรต้นตำรับอุบล วางขายในท้องตลาด”
จนทำให้เธอตัดสินใจซื้องานวิจัยนวัตกรรมแปรรูปเส้นก๋วยจั๊บ จากอาจารย์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการทำธุรกิจ
“จากนั้นเรามีการดัดแปลงพัฒนาเส้นก๋วยจั๊บจากงานวิจัยอยู่หลายครั้ง
และคิดค้นสูตรน้ำซุปที่อร่อยถูกปากอยู่หลายรอบกว่าจะลงตัว
คือถ้ามันไม่อร่อย รสชาติไม่ดีจริง เราก็ไม่อยากจะวางขายในตลาด”
และคิดค้นสูตรน้ำซุปที่อร่อยถูกปากอยู่หลายรอบกว่าจะลงตัว
คือถ้ามันไม่อร่อย รสชาติไม่ดีจริง เราก็ไม่อยากจะวางขายในตลาด”
ขณะเดียวกันเธอเอง ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้ชื่อแบรนด์อะไรดี
จนน้องสาวเธอเสนอชื่อ “จั๊บจั๊บ”
จนน้องสาวเธอเสนอชื่อ “จั๊บจั๊บ”
“ตัวเราเองก็ชอบชื่อนี้มันทั้งเรียกง่าย จำง่าย ฟังครั้งเดียวติดหู
ซึ่งชื่อแบรนด์สำคัญมากเพราะจะทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์เราได้ง่าย”
ซึ่งชื่อแบรนด์สำคัญมากเพราะจะทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์เราได้ง่าย”
ขณะเดียวกัน ในเวลานั้นเธอเองก็ยังไม่มีความพร้อมอะไรเลยสักอย่างในการพัฒนาสินค้า
มีแต่ใจที่บอกกับตัวเองว่า “ฉันต้องทำให้ได้”
ทำให้เธอตัดสินใจเช่าพื้นที่ในมหาวิทยาลัย ทำเส้นก๋วยจั๊บ เพื่อให้ทันกำหนดเวลาในการออกบูท
มีแต่ใจที่บอกกับตัวเองว่า “ฉันต้องทำให้ได้”
ทำให้เธอตัดสินใจเช่าพื้นที่ในมหาวิทยาลัย ทำเส้นก๋วยจั๊บ เพื่อให้ทันกำหนดเวลาในการออกบูท
“หลังจากออกงานผลตอบรับดีเกินคาด เรารู้ทันทีเลยว่าธุรกิจนี้มีโอกาสไปต่อได้ไกล”
เพียงแต่ปัญหาของเธอ ณ เวลานี้คือไม่มีโรงงานในการผลิต
และหากติดต่อจ้างโรงงาน OEM ผลิตให้ก็จะยุ่งยากเพราะเป็นนวัตกรรมใหม่ในตลาด
และหากติดต่อจ้างโรงงาน OEM ผลิตให้ก็จะยุ่งยากเพราะเป็นนวัตกรรมใหม่ในตลาด
และที่สำคัญมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกลอกเลียนแบบ สูตรการทำเส้นก๋วยจั๊บ
เธอจึงตัดสินใจเช่าโรงงานในการผลิต “จั๊บจั๊บ” ซึ่งก็ผลิตได้อยู่ในระยะเวลาหนึ่ง
เธอจึงตัดสินใจเช่าโรงงานในการผลิต “จั๊บจั๊บ” ซึ่งก็ผลิตได้อยู่ในระยะเวลาหนึ่ง
“เราเลยคิดว่าหากจะจริงจังกับธุรกิจนี้เราต้องมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง”
กอปรกับ “จั๊บจั๊บ” เองก็กำลังมียอดขายเติบโตและขยายช่องทางขายอย่างต่อเนื่อง
จากเริ่มต้นวางขายเฉพาะร้านขายของฝากในจังหวัดอุบลราชธานี ขยายมายัง 7 Eleven ทั้งหมดในภาคอีสาน และร้าน Tops Market, Central Food Hall, Gourmet Market, Makro จนถึงร้านค้าโชว์ห่วยในหลายๆ จังหวัด
จากเริ่มต้นวางขายเฉพาะร้านขายของฝากในจังหวัดอุบลราชธานี ขยายมายัง 7 Eleven ทั้งหมดในภาคอีสาน และร้าน Tops Market, Central Food Hall, Gourmet Market, Makro จนถึงร้านค้าโชว์ห่วยในหลายๆ จังหวัด
“แต่ทุกวันนี้ เราเองก็มองว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการขยายธุรกิจเท่านั้น”
เพียงแต่...คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ทำไมเธอถึงกล้าตั้งราคาขาย “จั๊บจั๊บ”
แบบถ้วย 35 บาทและแบบซอง 28 บาท
แบบถ้วย 35 บาทและแบบซอง 28 บาท
“เพราะเรามีเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตสร้างสินค้าที่มีนวัตกรรมไม่เหมือนใคร”
จนทำให้...จากเดิม “ก๋วยจั๊บญวน” สูตรต้นตำรับอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเมนูอร่อยหาทานได้ยาก
แต่เมื่อคุณยุ้ยใช้ไอเดียเจ๋งๆ ผสานกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยสร้างแบรนด์ “จั๊บจั๊บ” ให้กลายเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปท้องถิ่น ที่สามารถเก็บได้นาน และมีช่องทางการขายที่หลากหลาย
แต่เมื่อคุณยุ้ยใช้ไอเดียเจ๋งๆ ผสานกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยสร้างแบรนด์ “จั๊บจั๊บ” ให้กลายเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปท้องถิ่น ที่สามารถเก็บได้นาน และมีช่องทางการขายที่หลากหลาย
ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ หาทานได้ง่ายขึ้น หรือจะซื้อฝากให้กับเพื่อนหรือญาติที่อยู่ต่างประเทศได้ลิ้มรสความอร่อย
และที่น่าสนใจคือในเวลาเพียงแค่ 2 ปีนอกจาก “จั๊บจั๊บ” จะมี 2 รสชาติคือ รสดั้งเดิม และ รสต้มยำ
จนถึงมี 2 แพ็คเกจจิ้งคือทั้งแบบซองและแบบถ้วย
จนถึงมี 2 แพ็คเกจจิ้งคือทั้งแบบซองและแบบถ้วย
แต่เธอเองไม่คิดหยุดอยู่แค่นั้นเมื่อมอง “จั๊บจั๊บ”
ยังสามารถพัฒนาได้อีกหลายอย่างทั้งรสชาติและแพ็กเกจจิ้งใหม่ๆ
จนไปถึงการสร้างธุรกิจอาหารใหม่ๆ ในบริษัทตัวเอง
ยังสามารถพัฒนาได้อีกหลายอย่างทั้งรสชาติและแพ็กเกจจิ้งใหม่ๆ
จนไปถึงการสร้างธุรกิจอาหารใหม่ๆ ในบริษัทตัวเอง
“อีกทั้งเราก็ยังมีความฝันไม่ต่างจากเจ้าของธุรกิจคนอื่นๆ ที่ต้องการขยายตลาดส่งออกสินค้าของเราไปยังหลายๆ ประเทศทั่วโลก
โดยตอนนี้เราเริ่มก้าวแรกด้วยการส่งออก จั๊บจั๊บ ไปยังประเทศออสเตรเลียได้สำเร็จ”
โดยตอนนี้เราเริ่มก้าวแรกด้วยการส่งออก จั๊บจั๊บ ไปยังประเทศออสเตรเลียได้สำเร็จ”
เมื่อมาถึงจุดนี้ทำให้เราอยากรู้จริงๆ ว่าความสำเร็จของแบรนด์ “จั๊บจั๊บ” ของเธอเกิดจากอะไร นอกจาก Passion ที่มีอยู่เปี่ยมล้น
สิ่งที่เธอตอบกลับมาคือการเป็นมนุษย์เจ้าปัญหา
ตั้งคำถามให้กลับธุรกิจของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ตั้งคำถามให้กลับธุรกิจของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
“เราจะตั้งคำถามทุกครั้งในการทำธุรกิจ อาทิเช่น
ถ้าเราอยากกระจายสินค้าทั่วประเทศต้องทำอย่างไร?
และอีกสารพัดคำถามมากมาย ที่สำคัญเราจะพยายามหาคำตอบให้ได้ทุกครั้ง”
ถ้าเราอยากกระจายสินค้าทั่วประเทศต้องทำอย่างไร?
และอีกสารพัดคำถามมากมาย ที่สำคัญเราจะพยายามหาคำตอบให้ได้ทุกครั้ง”
ทีนี้ เราคงได้คำตอบแล้วว่าการที่ใครคนหนึ่งจะสร้างแบรนด์ให้ถูกใจมหาชนได้
สิ่งสำคัญที่สุด คุณต้องมีแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนเพื่อให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงขึ้นมา
สิ่งสำคัญที่สุด คุณต้องมีแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนเพื่อให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงขึ้นมา
ซึ่งคุณ ยุ้ย มนัสชญาณ์ ก็บอกว่าเป้าหมายนั้นก็คือการทำให้เมื่อไรผู้บริโภคอยากทานก๋วยจั๊บญวน จะต้องคิดถึงแบรนด์ “จั๊บจั๊บ” เป็นแบรนด์แรก และแบรนด์เดียว
ซึ่งดูเหมือนเธอก็ทำสำเร็จแล้ว ในระดับที่น่าพอใจไม่น้อยเลยทีเดียว