มิสทิน เครื่องสำอางไทยเจ้าแรก ที่เลิกใช้สารที่เป็นอันตรายต่อปะการังในผลิตภัณฑ์กันแดด

มิสทิน เครื่องสำอางไทยเจ้าแรก ที่เลิกใช้สารที่เป็นอันตรายต่อปะการังในผลิตภัณฑ์กันแดด

29 ก.ย. 2022
ใครจะไปคิดว่า แค่เราเผลอไปใช้ครีมกันแดดที่มีสารอันตรายต่อปะการังเป็นส่วนผสม
ก็อาจเป็นการทำร้ายปะการังโดยไม่รู้ตัวได้เหมือนกัน
ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนได้ปกป้องผิวสวย ไม่ให้ถูกทำร้ายจากรังสี UV จากแสงแดด
แถมยังไม่ทำลายความงามของโลกใต้ท้องทะเล
มิสทิน เครื่องสำอางของคนไทย ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบจากผู้หญิงไทยทั่วประเทศ และในต่างประเทศมายาวนานกว่า 35 ปี จึงเป็นแบรนด์เครื่องสำอางเจ้าแรกของประเทศไทย ที่จริงจังกับเรื่องนี้
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมมิสทินต้องจริงจังกับเรื่องนี้ ?
คุณดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายมิสทิน เฉลยว่า​ ที่ผ่านมามิสทิน ให้ความสำคัญกับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ถูกต้องตามกฎของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาโดยตลอด
รวมทั้งพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจ และกิจการของหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มิสทิน ก็เป็นผู้ผลิตรายแรกในประเทศไทย ที่นำพลาสติกใช้แล้วในประเทศ มาผ่านกระบวนการแปรรูปเป็นพลาสติกรีไซเคิล PCR ในประเทศ 100%
เพื่อใช้ผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าเพื่อความงาม
ดังนั้น พอเห็นว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ออกประกาศเรื่องการยกเลิกการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อปะการัง ในผลิตภัณฑ์กันแดด เพื่อรักษาแนวปะการังและสิ่งแวดล้อมทางทะเล
เนื่องจากสารเคมีดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อ ตัวอ่อนปะการัง ขัดขวางระบบสืบพันธุ์ และทำให้เกิดปะการังฟอกขาว
มิสทิน ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันแดด ให้กับผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
มียอดขายมากกว่า 20 ล้านชิ้นต่อปี จึงไม่อาจนิ่งนอนใจ เป็นบริษัทเครื่องสำอางไทยเจ้าแรก ที่ลุกขึ้นมาเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญ ช่วยปกป้องท้องทะเลไทยและทั่วโลก
คำถามคือ มิสทินจะทำอย่างไร ?
แน่นอนว่า เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
อันดับแรก มิสทิน เลือกที่จะงดผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันแดดที่เป็นอันตราย
ได้แก่ Oxybenzone, Octinoxate, 4-Methylbenzylid Camphor และ Butyparaben
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งต่อผู้บริโภค และปะการัง พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดด ที่ไม่ใช้สารที่เป็นอันตรายต่อปะการังขึ้นใหม่
เพราะหากปล่อยให้สารเหล่านี้ปนเปื้อนลงสู่แม่น้ำ ลำคลอง และทะเล เพียง 1 หยด ก็ส่งผลกระทบต่อการอยู่รอดของสัตว์น้ำและการเติบโตของปะการังได้
นอกจากนี้ มิสทินยังยินดีเป็นอีกหนึ่งกำลังช่วยรณรงค์ เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง
เพื่อร่วมกันลดผลกระทบจากกิจกรรมการท่องเที่ยว และช่วยกันดูแลรักษาให้แนวปะการังมีความสดใสสวยงามอยู่คู่เมืองไทยตลอดไป
โดยมิสทินหวังว่า การที่มิสทินเป็นแบรนด์แรกที่ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง จะเป็นการสร้างแรงกระเพื่อม
เพื่อเชิญชวนผู้ผลิตและผู้จำหน่ายแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิต ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ไม่ใช้สารต้องห้ามที่เป็นอันตรายต่อปะการังและสิ่งแวดล้อม
และต่อยอดไปสู่การสร้างเครือข่ายพันธมิตรด้านการดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อีกทั้งยังเป็นการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศแนวปะการังของประเทศอีกด้วย
งานนี้ แม้เบื้องหลังการเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเลขการเติบโต แต่เป็นแบรนด์ที่แคร์ไปถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน อาจจะเป็นภารกิจที่ท้าทาย​
แต่ถึงจะยากแค่ไหน มิสทินรู้ดีว่า นี่คือภารกิจที่ทุกคนต้องร่วมด้วยช่วยกัน
เพราะอย่างน้อยถ้ามิสทินทำสำเร็จ ก็หมายความว่า ได้มีส่วนช่วยส่งต่อคุณค่าดี ๆ ให้กับสังคมทางอ้อม
เพิ่มทางเลือกในการดูแลผิวให้ทุกคน โดยไม่แลกมาด้วยความเสียหายของปะการัง และสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล..
โดยผลิตภัณฑ์กันแดดทุกตัวของมิสทินที่ผลิตในปี 2565 เป็นต้นไป จะไม่มีสารต้องห้าม
ซึ่งลูกค้าสามารถสังเกตได้จากบรรจุภัณฑ์ของมิสทินที่มีตราสัญลักษณ์ของกรมฯ
เพื่อการันตีว่า ครีมกันแดดของมิสทินผ่านการรับรองจาก อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ว่าไม่มีสารอันตราย แต่ยังคงคุณสมบัติ ในการช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเราถูกทำร้ายจากรังสี UV จากแสงแดดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.