โจ ไบเดน ลงนามในกฎหมายใหม่ ทุ่มเงิน 1.8 ล้านล้านบาท สนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ แข่งกับจีน

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามในร่างกฎหมายใหม่ที่มีชื่อว่า “CHIPS and Science Act”
ทุ่มเงิน 52,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.87 ล้านล้านบาท) สนับสนุนการผลิตและวิจัยชิปเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับผู้ครองตลาด เช่น จีน และประเทศอื่น ๆ

เงินจำนวนมหาศาลนี้ จะแบ่งไปสนับสนุนในหลาย ๆ ด้าน คือ
-เป็นเงินจูงใจให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาตั้งโรงงานผลิตชิปในสหรัฐฯ ราว 1.3 ล้านล้านบาท
-เป็นเงินสำหรับการวิจัยและพัฒนา ทั้งชิปและบุคลากร ราว 460,000 ล้านบาท
-เป็นเงินสำหรับสนับสนุนด้านซัปพลายเชน ราว 17,000 ล้านบาท

ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รู้สึกว่า ต้องพึ่งพาชิปจากต่างประเทศมากเกินไป
ตามรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ระบุว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ ครองส่วนแบ่งตลาดชิปเซมิคอนดักเตอร์เพียง 12% เท่านั้น ลดลงจากเมื่อปี 1990 ที่ครองส่วนแบ่งถึง 37%

จึงเป็นเหตุให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องหาแนวทางในการโน้มน้าวในบริษัทต่าง ๆ กลับเข้ามาลงทุน และผลิตชิปในประเทศนั่นเอง

นอกจากนี้ ยังเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนชิปอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องหยุดชะงักลง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์, อาวุธ, วิดีโอเกม, เทคโนโลยี และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ

โดยการลงนามในครั้งนี้ นอกจากจะมีนักการเมืองเข้าร่วมแล้ว ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ เช่น Intel, HP, Lockhead Martin มาเข้าร่วมพิธีลงนามด้วย

ก่อนหน้านี้ ภายหลังจากที่กฎหมายนี้ผ่านรัฐสภา
Micron ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนการลงทุน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตทันที
รวมถึง Qualcomm และ GlobalFoundries สองบริษัทผู้ผลิตชิป ก็ขยายความร่วมมือการผลิตในสหรัฐฯ ไปจนถึงปี 2028 เช่นกัน

อ้างอิง:
-https://www.reuters.com/technology/biden-sign-bill-boost-us-chips-compete-with-china-2022-08-09/
-https://www.whitehouse.gov/briefing-room/statements-releases/2022/08/09/fact-sheet-chips-and-science-act-will-lower-costs-create-jobs-strengthen-supply-chains-and-counter-china/