ตลาดแบรนด์หรูในเกาหลีใต้ ใหญ่ขึ้นเป็นอันดับ 10 ของโลกแล้ว มีคนรุ่นใหม่เป็นลูกค้าหลัก

สินค้าแบรนด์หรู หนึ่งในไอเทมที่เรามักจะเห็นบ่อย ๆ เวลาชมซีรีส์หรือรายการโชว์ต่าง ๆ จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมักปรากฎอยู่บนตัวของนักแสดงหรือผู้ร่วมรายการ

ซึ่งสินค้าแบรนด์หรู ก็ไม่ได้นิยมแค่ในเฉพาะวงการบันเทิง หรือคนรวยเท่านั้น แต่คนเกาหลีใต้ทั่วไปก็นิยมด้วยเช่นกัน

ล่าสุด Samjong KPMG บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการบัญชีในประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยรายงานที่ชี้ว่า
ตลาดแบรนด์หรูในประเทศเกาหลีใต้ มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นอันดับ 10 ของโลกแล้ว

โดยพบว่า ปี 2021 ที่ผ่านมา ตลาดแบรนด์หรูในประเทศเกาหลีใต้ มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 198,700 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 29.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

และคาดว่าในปี 2024 ตลาดแบรนด์หรูในประเทศเกาหลีใต้ จะใหญ่ขึ้นอีก จนมีมูลค่า 240,000 ล้านบาท

ซึ่งรวม ๆ แล้ว ปีที่แล้ว แบรนด์หรูจากต่างประเทศ มียอดขายในประเทศเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 37.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ในรายงานยังชี้ให้เห็นว่า สาเหตุที่ยอดขายในประเทศเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น ก็เพราะว่า
เมื่อปีที่แล้วเป็นปีที่การระบาดของโควิด 19 ทำให้มีการล็อกดาวน์ รวมถึงการที่หลาย ๆ ประเทศระงับการท่องเที่ยว ทำให้ชาวเกาหลีใต้นำเงินเก็บมาซื้อสินค้าหรูราคาแพงกันมากขึ้น

รวมถึงรายงานระบุว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Millenials และ Gen Z ที่เกิดหลังปี 1980 ขึ้นมาเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของอุตสาหกรรมแฟชั่นหรูแล้ว

ซึ่งหลายแบรนด์หรูก็เริ่มปรับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดกลุ่มคน Gen Z ที่มีเงินเก็บสะสม
เช่น Gucci และ Balenciaga ได้เริ่มทดลองออก NFT, ใช้เทคโนโลยี AR, VR หรือการจัดแฟชั่นโชว์บนโลกเสมือน

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มออนไลน์ก็กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักที่ชาวเกาหลีใต้ใช้เพื่อสั่งซื้อสินค้าหรู
โดยคิดเป็นสัดส่วน 22% ของช่องทางการขายทั้งหมด

และไม่ใช่แค่ตลาดแบรนด์หรูที่เติบโตขึ้น แต่ตลาดแบรนด์หรูมือสองก็เติบโตขึ้นอย่างมาก
ถึงขนาดที่ Gucci และ Burberry จับมือทำธุรกิจกับ The RealReal แพลตฟอร์มรีเซลด้วย

สุดท้ายนี้ ในรายงานได้จัดลำดับตลาดแบรนด์หรูที่ใหญ่ที่สุดในโลก

อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าอยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท
อันดับ 2 จีน มีมูลค่าอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท
อันดับ 3 ญี่ปุ่น มีมูลค่าอยู่ที่ 890,000 ล้านบาท
อันดับ 4 ฝรั่งเศส มีมูลค่าอยู่ที่ 517,000 ล้านบาท
อันดับ 5 สหราชอาณาจักร มีมูลค่าอยูที่ 462,000 ล้านบาท

อ้างอิง:
-http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20220525000765&np=1&mp=1