ครั้งแรกของวงการอสังหาฯ อารียา พรอพเพอร์ตี้ จับมือสองช่างภาพดัง เปิดตัว Areeya NFT ตอกย้ำแนวคิด “มากมายภายใต้มินิมอล”
19 พ.ค. 2022
แม้จะเป็นแบรนด์ที่เน้นเรื่องความ “มินิมอล”
แต่นิยามคำว่า “มินิมอล” ในแบบของอารียา พรอพเพอร์ตี้ กลับไม่ได้หมายถึง การพยายามลดทอนให้เหลือน้อยที่สุด
แต่นิยามคำว่า “มินิมอล” ในแบบของอารียา พรอพเพอร์ตี้ กลับไม่ได้หมายถึง การพยายามลดทอนให้เหลือน้อยที่สุด
แต่สื่อถึงการตัดสิ่งที่ฟุ่มเฟือย ให้เหลือเพียงสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของชีวิตในแบบที่ต้องการ
เพื่อตอกย้ำคอนเซปต์นิยามการใช้ชีวิตดังกล่าวให้ชัดเจนมากขึ้น และต้อนรับการกลับมาของโครงการ Como Bianca ll ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อยอดความสำเร็จมาจาก Como Bianca ที่เปิดตัวเมื่อปี 2563 โดยชูคอนเซปต์ Minimal Eco Living ได้อย่างไร้ที่ติ จนได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด ปิดการขาย 126 ยูนิตสำเร็จ ภายใน 18 เดือนหลังจากการเปิดตัว
“อารียา พรอพเพอร์ตี้” จึงคิดไปอีกขั้น ด้วยการฉีกกรอบการเปิดตัวโครงการบ้านแบบเดิม ๆ ด้วยการปั้นแคมเปญสุดเก๋ สร้างมิติใหม่ให้วงการอสังหาริมทรัพย์บ้านเรา ด้วยการจัดทำ Areeya NFT
ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ “อารียา พรอพเพอร์ตี้” กระโดดมาจับกระแส Metaverse และ NFT (Non-Fungible Token) หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังมาแรง
ด้วยการนำกระแส NFT มาต่อยอดหนังโฆษณาตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง No art on the wall ให้น่าสนใจและชวนให้มีส่วนร่วม
สามารถรับชมได้ที่ https://www.facebook.com/areeyahome/posts/5025570734193645
ความน่าสนใจของหนังโฆษณาเรื่องนี้ นอกจากมูดแอนด์โทน ที่ถ่ายทอดออกมาอย่างอบอุ่น ใช้แสงและเงาเป็นตัวเดินเรื่อง ดูเรียบง่าย แต่กลับแฝงไปด้วยรายละเอียดที่ลุ่มลึก ชวนให้คิดตาม
โดยสื่อให้เห็นถึงความงามของงานศิลปะ ที่รายล้อมอยู่รอบตัว โดยที่เราอาจจะมองไม่เห็น
นอกจากตัวหนังจะเจ๋งแล้ว เพื่อให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ อินกับคอนเซปต์ ทางแบรนด์ได้ต่อยอดหนังโฆษณา ด้วยการจับมือกับ คุณตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ และคุณพีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ หรือ Add Candid 2 Leica Thailand Ambassador มาร่วมกดชัตเตอร์ บันทึกโมเมนต์ที่สื่อถึงความงามรอบตัว
โดยผลงานภาพถ่ายของทั้งคู่ จากจำนวนท่านละ 20 ภาพ จะถูกนำมาคัดเลือก จนเหลือเพียงท่านละ 7 ภาพ เพื่อนำมาจัดทำในรูปแบบ NFT ซึ่งเป็นผลงานภาพถ่ายในรูปแบบ NFT ครั้งแรกของคุณตุลย์ และคุณแอ๊ด อีกด้วย
ส่วนภาพอื่น ๆ ที่ไม่ได้จัดทำในรูปแบบ NFT จะถูกนำไปจัดแสดงเป็น Exhibition ในช่วงเดือนมิถุนายน
งานนี้ นอกจากจะเป็นครั้งแรกของ “อารียา พรอพเพอร์ตี้” ที่ได้มาอยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงาน NFT ยังเป็นครั้งแรกที่สองช่างภาพชื่อดัง จะได้เห็นผลงานภาพถ่ายของตัวเองในรูปแบบ NFT อีกด้วย
โดยผลงาน NFT สุดพิเศษนี้ จะเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของ ผ่านทาง OpenSea ซึ่งเป็น NFT Marketplace ขนาดใหญ่ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ขั้นตอนการจับจองไม่ยุ่งยาก เพียงเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ กดค้นหา AreeyaComoBianca หรือ คลิก https://opensea.io/AreeyaComoBianca
จากนั้นเลือกภาพที่ต้องการ แล้วสั่งซื้อ พร้อมชำระเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล Ethereum (ETH)
จากนั้นเลือกภาพที่ต้องการ แล้วสั่งซื้อ พร้อมชำระเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล Ethereum (ETH)
เพียงเท่านี้ ก็สามารถเป็นเจ้าของผลงาน NFT ที่ต้องใช้คำว่า “มีเพียงคนเดียวในโลก” ที่จะได้เป็นเจ้าของ เพราะเปิดโอกาสให้ครอบครองเพียง 1 สิทธิ์ต่อ 1 ชิ้นงานเท่านั้น
ที่สำคัญ นอกจากจะได้เป็นเจ้าของผลงาน NFT ที่หาไม่ได้อีกแล้ว ยังได้มีส่วนช่วยให้โลกใบนี้น่าอยู่ เพราะรายได้จากการจำหน่ายผลงาน NFT ทาง “อารียา พรอพเพอร์ตี้” จะร่วมกับเพจ Environman นำรายได้ไปช่วยเหลือมูลนิธิที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วทำไม “อารียา พรอพเพอร์ตี้” ต้องเล่นใหญ่เบอร์นี้ ?
คำตอบก็เพราะ “อารียา พรอพเพอร์ตี้” ต้องการสื่อสาร และสร้างประสบการณ์ Minimal Eco Living สะท้อนแนวคิดแคมเปญ “Nothing is everything” ที่สื่อถึงสิ่งที่พิเศษมากมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความมินิมอล
คำตอบก็เพราะ “อารียา พรอพเพอร์ตี้” ต้องการสื่อสาร และสร้างประสบการณ์ Minimal Eco Living สะท้อนแนวคิดแคมเปญ “Nothing is everything” ที่สื่อถึงสิ่งที่พิเศษมากมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความมินิมอล
สอดคล้องกับโครงการ Como Bianca ll ที่ดูมินิมอล เรียบ แต่โก้ และแฝงไปด้วยรายละเอียดที่เติมเต็มการใช้ชีวิตแบบ Minimal Eco Living ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสประสบการณ์ Eco ได้อย่างไร้ที่ติ ตั้งแต่ฟังก์ชันที่พร้อมรองรับการใช้ชีวิต ดื่มด่ำท่ามกลางธรรมชาติ และไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจโลก
ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสเปซภายในบ้านให้มี Green Space หรือ Terrace ส่วนตัว
นวัตกรรม Zero Waste System ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่รักษ์โลก ด้วยเครื่องกำจัดเศษขยะอาหาร Organic Waste Dry Decomposer ที่ทางโครงการมอบให้กับผู้อยู่อาศัยทุกหลัง โดยลูกบ้านสามารถนำเศษอาหารมารีไซเคิล เพื่อเปลี่ยนเป็นกากอาหาร สามารถนำไปผสมกับปุ๋ยใส่ต้นไม้ได้
พร้อมกันนี้ ยังมีถังรีไซเคิลขยะภายในบ้าน และแอปพลิเคชัน Recycle Time ที่สามารถเรียกรถรับซื้อขยะรีไซเคิล มารับซื้อขยะของแต่ละบ้านอีกด้วย
เติมเต็มชีวิตแสนสมาร์ตให้สุดขั้ว ด้วยระบบ Home Automation ที่ช่วยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายด้วยปลายนิ้ว ทั้งอุปกรณ์ควบคุม แอร์ และ TV, Smart Switch ควบคุมไฟในบ้าน, Google Home พร้อมกล้องวงจรปิดภายในและนอกบ้าน รวมทั้ง EV Charger
สนุกกับการใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัด ต่อให้ไม่ต้องออกจากบ้านก็ไม่เหงา
เพราะภายในโครงการยังมีคลับเฮาส์ และ Green House ให้มาทำกิจกรรม ซึ่งสามารถปลูกผักออร์แกนิกไว้กินเองใน Glass House นี้ได้ และยังมี Pet Friendly Area เอาใจเหล่า Pet Parents ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ ที่บางคู่ไม่อยากมีลูก
เพราะภายในโครงการยังมีคลับเฮาส์ และ Green House ให้มาทำกิจกรรม ซึ่งสามารถปลูกผักออร์แกนิกไว้กินเองใน Glass House นี้ได้ และยังมี Pet Friendly Area เอาใจเหล่า Pet Parents ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ ที่บางคู่ไม่อยากมีลูก
ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งความพิเศษของ Como Bianca ll คือ ปักหมุดอยู่บนโลเคชันที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะกลุ่มคู่รักที่แยกครอบครัวออกมาใช้ชีวิต โดยไม่อยากมีลูก หรืออาจมีลูกเล็ก ซึ่งอยู่ติดเมกาบางนา และใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ สามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองได้อย่างสบาย ๆ ด้วยทางด่วน และถนนวงแหวนฯ
มาถึงตรงนี้ คงเห็นภาพแล้วว่า นิยามคำว่า มินิมอล ที่ไม่ได้วัดที่ปริมาณ แต่ประเมินได้จากความจำเป็นในชีวิตเป็นอย่างไร..
โอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของการใช้ชีวิตในแบบฉบับ “มากมายภายใต้มินิมอล” อยู่แค่เอื้อม
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3l7K2nw
Line: https://lin.ee/AlQu2wQ หรือ โทร. 1797
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3l7K2nw
Line: https://lin.ee/AlQu2wQ หรือ โทร. 1797