HARNN ฉลองครบรอบ 20 ปี เปิดสโตร์โฉมใหม่ ภายใต้แนวคิด The New Era of Thainess อัตลักษณ์ของแบรนด์ “HARNN” ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทยสู่ New Concept Store

HARNN (หาญ) ในฐานะผู้บุกเบิกบอดี้แคร์ สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์สปา และอโรมาเธอราพีแบบออร์แกนิครายแรกของไทย ฉลองครบรอบ 20 ปี เปิดสโตร์โฉมใหม่ ภายใต้แนวคิด “The New Era of Thainess” นำเสนออัตลักษณ์ของแบรนด์ HARNN ภูมิปัญญาอันล้ำค่าของไทยที่ได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น มาผสานเข้ากับความหรูหรา สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัย และตัวตนของแบรนด์ได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดผ่านประสบการณ์ใหม่ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาภายในร้านด้วยสุนทรีย์ที่ตอบสนองประสาทสัมผัสทั้ง 5 (5 Senses) ในรูปแบบเฉพาะของ HARNN ประเดิมสาขาแรก ณ ชั้น 1 โซน Indoor เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์

นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาญ โกลบอล จำกัด กล่าวว่า “แบรนด์ HARNN ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 ในฐานะผู้บุกเบิกบอดี้แคร์ สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์สปา และอโรมาเธอราพีแบบออร์แกนิครายแรกของไทย โดยมีจุดเริ่มต้นจาก ‘สบู่น้ำมันรำข้าว’ และได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มอื่นๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา HARNN ได้ขยายสาขาไปทั่วโลก และได้รับการตอบรับจากลูกค้านานาประเทศเป็นอย่างดี จนเมื่อปี พ.ศ. 2561 ธนจิรา ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นจากต่างประเทศ ได้เข้าซื้อกิจการ และบริหาร HARNN อย่างเป็นทางการ ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะขับเคลื่อนแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับ ‘ธนจิรา’”

นายธนพงษ์ กล่าวต่อว่า “หนึ่งปีที่ผ่านมาหลังจากธนจิราได้เข้ามาบริหารแบรนด์ HARNN อย่างเต็มตัว ทำให้เราเข้าใจตัวตน หรืออัตลักษณ์ของแบรนด์ มองเห็นศักยภาพที่จะนำพาแบรนด์ให้เติบโตได้ชัดเจนขึ้น และในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 20 ปีของแบรนด์ HARNN เราจึงฉลองความสำเร็จพร้อมเตรียมก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 ด้วยภารกิจที่ต้องการสร้างสรรค์ และนำอัตลักษณ์ ‘ความเป็นไทย’ สู่ระดับภูมิภาคเอเชีย พร้อมมุ่งขับเคลื่อนแบรนด์ HARNN ให้เติบโตในระยะยาว ด้วยการเปิด สโตร์โฉมใหม่ ภายใต้แนวคิด “The New Era of Thainess” ที่จะเป็นการนำเสนออัตลักษณ์ของแบรนด์ HARNN ภูมิปัญญาอันล้ำค่าของไทยที่ได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น มาผสานเข้ากับความหรูหรา สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัย และตัวตนของแบรนด์ได้อย่างลงตัว โดยนำร่องที่สาขาเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ เป็นแห่งแรก ก่อนทยอยปรับโฉมให้ครบทุกสาขาทั้งในไทยและทั่วโลก อาทิ จีน ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย”

อัตลักษณ์ของแบรนด์ “HARNN” ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทย สู่ New Concept Store ธนจิราได้ทำความเข้าใจอัตลักษณ์ หรือตัวตนของแบรนด์ HARNN อย่างถ่องแท้ เพื่อวางแผนปรับโฉมสโตร์ครั้งใหญ่ โดยอัตลักษณ์ของแบรนด์ HARNN คือความเป็น The Alternative Body Care and Skin Care หรือ แบรนด์ทางเลือกที่มีความพิเศษสามารถตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ที่เน้นสองสิ่งสำคัญอัน ได้แก่  1. เป็นผลิตภัณฑ์ความงาม
จากธรรมชาติ 100% สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ใช้ว่าเป็นคนที่คัดสรรสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง และจะเลือกใช้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และ 2. มีจิตวิญญาณแห่งวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทย หรือ Thai Wisdom ใช้ภูมิปัญญาไทยที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย โดยเมื่อมีอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่ชัดเจนแล้ว ธนจิราจึงได้วางคอนเซ็ปต์ของการปรับโฉมสโตร์ไว้ว่าเป็น ‘The New Era of Thainess’ เพื่อสะท้อนตัวตนของแบรนด์ และถ่ายทอดภาพลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัย ผ่านไฮไลท์ดังต่อไปนี้

สะท้อนอัตลักษณ์ของ HARNN ผ่านงานดีไซน์ นำโลโก้ของ HARNN ที่เป็นรูปดอกบัว มาผสานเข้าไปในงานดีไซน์ส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความพิเศษของ ‘แชนเดอเลียร์’ ที่ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความหรูหรา และทรงพลังแต่มีการออกแบบได้อย่างน่าสนใจ โดยเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปจะเห็นเป็นรูปดอกบัวที่ซ้อนกันอย่างงดงาม ใช้วัสดุเป็นโลหะสีทองมันวาว ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องประดับไทยสมัยโบราณ ลวดลายผนังร้าน และลายบนชั้นวางผลิตภัณฑ์ (Wall shelf) ที่มีรูปดอกบัวผสมผสานไว้อย่างสวยงามสะท้อนความเป็นธรรมชาติ มีการใช้สี ‘ส้มอมแดงจัดจ้าน’ ของดอกปาริชาตเป็นสีหลักภายในร้าน เพิ่มลูกเล่น และสร้างความน่าสนใจให้กับผนังของร้าน ด้วยการไล่สี (Gradient color) ที่สื่อถึงกลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์ HARNN ที่ฟุ้งกระจายไปรอบบริเวณร้าน นอกจากนี้ยังใช้ดอกปาริชาต เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ องค์ประกอบอื่นๆ ภายในร้าน โดยดีไซน์ให้มีความโค้งมน และเลือกใช้ไม้ เป็นวัสดุหลักของเฟอร์นิเจอร์ภายในร้าน ซึ่งเมื่อสีน้ำตาลเข้มของไม้ตัดกับสีส้มอมแดง และสีทองทำให้รู้สึกได้ถึงความมีพลัง มีเสน่ห์ น่าดึงดูด และความหรูหราสะท้อนกลิ่นอายความเป็นไทยร่วมสมัย มีการนำเส้นสายลายไทย และการดีไซน์สมัยใหม่มาผสมผสานได้อย่างลงตัว เช่น เส้นลายพื้น ที่ประยุกต์ใช้แพทเทิรน์เส้นลายของไทย ถูกนำมาลดทอนให้เป็นลายที่เรียบง่ายขึ้น เพื่อให้มีความทันสมัย เข้าถึงง่ายแต่ยังคงความเป็นไทย รวมถึงลวดลายที่นำมาผสานเข้ากับงานดีไซน์ผนังที่เพิ่มกลิ่นอายความเป็นไทยร่วมสมัยให้มีความกลมกลืนกันทั้งร้านสะท้อนจุดเริ่มต้นของแบรนด์ อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของร้านก็คือ Soap wall หรือผนังที่ดีไซน์เป็นพิเศษเพื่อนำเสนอ ‘สบู่น้ำมันรำข้าว’ ทั้ง 9 กลิ่น 9 สี จัดเรียงสีให้เป็นดีไซน์เสมือนวอลเปเปอร์ที่มีสีสันสดใส นับเป็นการสร้างจุดเด่นให้กับร้านด้วยสินค้าที่เป็นจุดเริ่มต้น และเป็นที่จดจำของแบรนด์ ซึ่งลูกค้าสามารถสัมผัส หรือหยิบสินค้าจากจุดนี้ได้

มอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าตั้งแต่ก้าวแรก ด้วยสุนทรีย์จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในรูปแบบเฉพาะของ HARNN นอกจากรูปลักษณ์ที่มองเห็นด้วยสายตาแล้ว ความรู้สึกและองค์ประกอบต่างๆ ก็ล้วนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่ช่วยถ่ายทอดคอนเซ็ปต์ “The New Era of Thainess” ภายในร้าน ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น ธนจิราจึงได้ยกระดับประสบการณ์ที่ลูกค้าจะมีต่อแบรนด์ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 (5 Senses of experience) ในรูปแบบเฉพาะของ HARNN ดังต่อไปนี้

การมองเห็น (Visual) – การออกแบบดีไซน์ร้านที่ถูกคิดมาอย่างพิถีพิถัน และการสร้างสรรค์พื้นที่ในร้าน รวมไปถึงการจัดเรียงผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนยูนิฟอร์มของพนักงานร้านที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อเสริมบุคลิกให้มีความสง่างามมากยิ่งขึ้น

การได้ยิน (Sound) – เพื่อสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้ลงลึกเข้าไปในความรู้สึก HARNN จึงได้มีการคัดเลือกลิขสิทธิ์เพลงที่รวบรวมและคัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่อเปิดในร้าน HARNN โดยเฉพาะ โดยเป็นทำนองเพลงสไตล์ไทยแบบร่วมสมัย (Contemporary Thai Music) เพื่อส่งเสริมบรรยากาศและสร้างสุนทรีย์ตลอดการเข้าใช้บริการภายในร้านการได้กลิ่น (Scent) – ธนจิราได้สร้างสรรค์เครื่องหอมออร์แกนิค ที่มอบกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ ผสานกับความสดชื่น ช่วยให้ทุกครั้งที่เข้ามาใช้บริการเหมือนได้รับการผ่อนคลาย และอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งเป็นกลิ่นเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะที่ HARNN เท่านั้นการรับรส (Taste) – ต้อนรับลูกค้าด้วยชาสมุนไพรใบหม่อน จากแบรนด์ ‘Tichaa by HARNN’ ชาใบหม่อนขาวที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน และปราศจากสารคาเฟอีน ที่มอบรสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังดีต่อสุขภาพการสัมผัส (Touch) – เพิ่มโซนทดลองผลิตภัณฑ์ที่ครบครัน และใหญ่มากขึ้นทำให้ลูกค้าสามารถสัมผัส และทดลองผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ได้ทุกตัว