บุญรอดฯ ย้ำนโยบาย ยังไม่ขึ้นราคา “เบียร์ลีโอ” แม้ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น
28 มี.ค. 2022
นายภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า
ขณะนี้บริษัทบุญรอดฯ ยังไม่มีนโยบายในการปรับขึ้นราคา หรือ ปรับลดปริมาณสินค้า “เบียร์ลีโอ” ทุกขนาดบรรจุ ทั้งขวดใหญ่ ขวดเล็ก กระป๋องยาว (490cc) กระป๋องสั้น (320cc) และเบียร์สดลีโอ
ขณะนี้บริษัทบุญรอดฯ ยังไม่มีนโยบายในการปรับขึ้นราคา หรือ ปรับลดปริมาณสินค้า “เบียร์ลีโอ” ทุกขนาดบรรจุ ทั้งขวดใหญ่ ขวดเล็ก กระป๋องยาว (490cc) กระป๋องสั้น (320cc) และเบียร์สดลีโอ
แม้สถานการณ์ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้บริษัทต้องจับตาดูสถานการณ์ต้นทุนอย่างใกล้ชิด และวางแผนการบริหารจัดการดูแลต้นทุนอย่างเคร่งครัด
โดยนอกจากจะไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า บริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายในการปรับลดปริมาณสินค้า
และจะยังคงจำหน่ายเบียร์ลีโอ ซึ่งเป็นเบียร์ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุด ในราคาเดิมให้นานที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
และจะยังคงจำหน่ายเบียร์ลีโอ ซึ่งเป็นเบียร์ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุด ในราคาเดิมให้นานที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
“ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
รวมทั้งควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งเป็นนโยบายที่เราทำมาอยู่แล้วก่อนหน้านี้
และจะยกระดับให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อตรึงราคาสินค้าไว้ให้ได้นานที่สุด แม้ต้นทุนการผลิตจะปรับตัวสูงขึ้น
รวมทั้งควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งเป็นนโยบายที่เราทำมาอยู่แล้วก่อนหน้านี้
และจะยกระดับให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อตรึงราคาสินค้าไว้ให้ได้นานที่สุด แม้ต้นทุนการผลิตจะปรับตัวสูงขึ้น
จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน กำลังซื้อของผู้บริโภคมีความเปราะบางจากหลายปัจจัย
แนวโน้มราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น กระทบต่อภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคค่อนข้างมาก
แนวโน้มราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น กระทบต่อภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคค่อนข้างมาก
รวมถึงความเดือดร้อนจากวิกฤติโควิด 19 ระบาดทั่วโลกเป็นเวลายาวนานเข้าสู่ปีที่ 3 ส่งผลให้ประชาชนบางกลุ่มมีรายได้ลดลง
ดังนั้น การตรึงราคาเบียร์ลีโอให้คงเดิมนานที่สุด จึงเป็นเจตนารมย์ที่จะช่วยแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น”
แนวทางการตรึงราคาเบียร์ลีโอ บริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนตั้งแต่ต้นน้ำ
เพื่อให้เกิดการสูญเสียทางมูลค่าน้อยที่สุด ทั้งในสายการผลิต ไปจนถึงขั้นตอนการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค
เพื่อให้เกิดการสูญเสียทางมูลค่าน้อยที่สุด ทั้งในสายการผลิต ไปจนถึงขั้นตอนการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค
โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการขนส่ง และการบริหารจัดการระยะทางให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด