มิชลิน/FIA สานต่อเจตนารมณ์ในการปลูกฝังผู้ใช้รถใช้ถนนรุ่นใหม่ ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านการสนับสนุนโครงการ “นักเรียนรุ่นใหม่ มีใบขับขี่” ประจำปี 2565 ของกรมการขนส่งทางบก
17 ก.พ. 2022
มิชลิน ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลก และสมาพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (International Automobile Federation: FIA) ประกาศให้การสนับสนุนโครงการ “นักเรียนรุ่นใหม่ มีใบขับขี่” ประจำปี 2565 ของกรมการขนส่งทางบก ด้วยการมอบหมวกกันน็อกสำหรับแจกให้กับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 2,000 ใบ การให้การสนับสนุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ “มิชลินรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ใส่หมวกนิรภัยให้น้อง” ซึ่งมิชลินดำเนินการปีนี้เป็นปีที่ 7 โดยมุ่งเสริมสร้างการสัญจรที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน และปลูกฝังจิตสำนึกเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยในกลุ่มเยาวชน
สำหรับโครงการ “นักเรียนรุ่นใหม่ มีใบขับขี่” เป็นโครงการที่กรมการขนส่งทางบกจัดทำขึ้นเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน และพัฒนาศักยภาพในการขับขี่รถจักรยานยนต์ให้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 และระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ ที่มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องหมายจราจร กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการขับรถอย่างถูกต้องและปลอดภัย วิธีป้องกันอุบัติเหตุ มารยาทในการขับรถ ความรู้เกี่ยวกับการดูแลและบำรุงรักษารถเบื้องต้น พร้อมสาธิตและให้ทดลองขับขี่ภาคปฏิบัติ ตลอดจนฝึกแก้ไขสถานการณ์เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เมื่อสิ้นสุดการอบรมจะมีการทดสอบข้อเขียนด้วยระบบ E-exam และทดสอบภาคปฏิบัติ โดยผู้เข้าอบรมจะได้รับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์หากผ่านการทดสอบตามเกณฑ์มาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
มานูเอล มอนตานา (Manuel Montana) ประธานกลุ่มมิชลิน ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 27 ปี มิชลินริเริ่มและสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้เราได้ให้การสนับสนุนโครงการ “นักเรียนรุ่นใหม่ มีใบขับขี่” ของกรมการขนส่งทางบก เนื่องจากเล็งเห็นว่าโครงการดังกล่าวมีเจตนารมณ์สอดคล้องกับองค์กรของเราในการมุ่งเสริมสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนในกลุ่มเยาวชน เพื่อให้เป็นผู้ใช้รถใช้ถนนรุ่นใหม่ที่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและมีบทบาทสำคัญในการสร้างการสัญจรที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นให้กับสังคมไทย”
ทั้งนี้ แคมเปญ “มิชลินรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ใส่หมวกนิรภัยให้น้อง” อยู่ภายใต้โครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย (Michelin Safe on the Road) ซึ่งมิชลินดำเนินการในประเทศไทยต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า
27 ปี ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบ อาทิ บริการตรวจสภาพรถและสภาพยางฟรี, การแจกหมวกกันน็อกให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมจิตสำนึกด้านความปลอดภัยบนท้องถนนและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในกฎจราจรให้กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดประกวดวาดภาพสดในโครงการ ‘ศิลปะเด็กมิชลิน’ ให้เยาวชนไทยได้แสดงทักษะความสามารถทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ในหัวข้อที่เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน, การสนับสนุนกิจกรรมออนไลน์รณรงค์ความปลอดภัยทางถนนของกรมการขนส่งทางบก ฯลฯ กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนด้วยดีจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนองค์กรอิสระต่างๆ โดยมุ่งส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยทางถนนและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพื่อให้ชุมชนมีความปลอดภัยและน่าอยู่ยิ่งขึ้น
27 ปี ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบ อาทิ บริการตรวจสภาพรถและสภาพยางฟรี, การแจกหมวกกันน็อกให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมจิตสำนึกด้านความปลอดภัยบนท้องถนนและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในกฎจราจรให้กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดประกวดวาดภาพสดในโครงการ ‘ศิลปะเด็กมิชลิน’ ให้เยาวชนไทยได้แสดงทักษะความสามารถทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ในหัวข้อที่เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน, การสนับสนุนกิจกรรมออนไลน์รณรงค์ความปลอดภัยทางถนนของกรมการขนส่งทางบก ฯลฯ กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนด้วยดีจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนองค์กรอิสระต่างๆ โดยมุ่งส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยทางถนนและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพื่อให้ชุมชนมีความปลอดภัยและน่าอยู่ยิ่งขึ้น
“จนถึงปัจจุบันเมื่อรวมโครงการของกรมการขนส่งทางบกที่เราให้การสนับสนุนในปีนี้ มิชลินได้มอบหมวกกันน็อกให้กับเยาวชนในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศรวมแล้วกว่า 20,000 ใบ แม้อาจเป็นจำนวน
ไม่มากนัก แต่เราเชื่อว่าเยาวชนกลุ่มนี้จะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนรุ่นใหม่ในการขับขี่อย่างปลอดภัยและมีวินัย จนสามารถลดปริมาณการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยลงได้อย่างยั่งยืน
ในอนาคต” มร.มอนตานา กล่าวอย่างมั่นใจ
ไม่มากนัก แต่เราเชื่อว่าเยาวชนกลุ่มนี้จะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนรุ่นใหม่ในการขับขี่อย่างปลอดภัยและมีวินัย จนสามารถลดปริมาณการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยลงได้อย่างยั่งยืน
ในอนาคต” มร.มอนตานา กล่าวอย่างมั่นใจ