โอกาสลงทุนหุ้นยักษ์ใหญ่ Alibaba DR ง่าย ๆ ด้วยเงินบาท ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย
28 ก.พ. 2022
การเปิดพอร์ตหุ้นเพื่อไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ คือความใฝ่ฝันของนักลงทุนรายย่อยหลาย ๆ คน เพราะเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดี และมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัทชื่อดังระดับโลก
แต่ในความเป็นจริง กว่าเราจะลงทุนหุ้นต่างประเทศได้นั้น ค่อนข้างมีความยุ่งยากและหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกโบรกเกอร์, เปิดพอร์ตหุ้นต่างประเทศใหม่, การแปลงค่าเงิน, การโอนเงินชำระ, การจัดการเรื่องภาษีและเอกสารต่าง ๆ หรือการลงทุนผ่านตัวแทนที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูง
ดังนั้น หน่วยลงทุน DR ที่ย่อมาจาก Depositary Receipt แปลว่า ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ จึงเป็นเครื่องมือทางการเงินชนิดหนึ่ง
อำนวยความสะดวกให้นักลงทุนไทย สามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ง่าย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ด้วยสกุลเงินบาท ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
อำนวยความสะดวกให้นักลงทุนไทย สามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ง่าย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ด้วยสกุลเงินบาท ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
แล้วการลงทุนใน DR ต่างจากการซื้อขายหุ้นต่างประเทศเอง อย่างไร ?
1) ความยากง่ายต่างกันแน่นอน เพราะถ้าเราจะซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เปิดพอร์ตหุ้นต่างประเทศ เพื่อที่จะสามารถเทรดหลักทรัพย์ในต่างประเทศได้
แต่ถ้าใช้ DR เราไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะสามารถใช้บัญชีหุ้นในประเทศไทยเดิมที่มีอยู่เทรดได้เลย
2) ถ้าเราจะซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จะต้องแลกเงินบาทเป็นเงินสกุลดอลลาร์ฮ่องกงก่อน แล้วนำไปใส่ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่เปิดไว้
ในขณะที่ DR สามารถซื้อขายได้ทันที ด้วยสกุลเงินบาท ความยุ่งยากในการแลกเงินต่าง ๆ ก็จะไม่มี เพราะธนาคารกรุงไทยเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง
เพราะฉะนั้น การเข้าไปซื้อขายหลักทรัพย์ DR ในตลาดหลักทรัพย์ไทย ราคาที่อยู่บนกระดานเทรด ก็จะเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับมูลค่าจริงในตลาดหลักทรัพย์นั้น ๆ ที่หุ้นต่างประเทศไปจดทะเบียนอยู่ปรับด้วยผลของอัตราแปลกเปลี่ยนสกุลเงินนั้นๆ
ที่สำคัญคือค่าธรรมเนียมการเทรด ก็เทียบเท่ากับการเทรดหุ้นไทย เรตเดียวกับที่โบรกเกอร์ตั้งไว้ตอนเทรดหุ้นไทย ไม่ได้มีการบวกเพิ่ม ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วหน้าที่หลักของกรุงไทย คืออะไร ?
1) เป็นผู้ออกตราสาร DR
สิ่งที่กรุงไทยทำ คือ อำนวยความสะดวก ด้วยการเข้าไปซื้อหุ้น Alibaba ที่ฮ่องกง มาฝากไว้กับผู้รับฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศเสร็จแล้วก็มาออกเป็นตราสาร DR ในประเทศไทย
นอกจากนั้น ยังดูแลเรื่องเงินปันผล ในกรณีที่มีเงินปันผลภายหลักจากหักค่าใช้จ่าย (ตามที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนและข้อกำหนดสิทธิ) ก็จะต้องส่งให้ผู้ถือหน่วยลงทุน DR หรือถ้ามีข่าวสารสำคัญ กรุงไทยก็จะเป็นตัวกลางในการนำข่าวสารนั้นมาแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุน DR ทราบ ให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน เสมือนเป็นผู้ถือหุ้น Alibaba จริง ๆ
2) เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง
หลาย ๆ คนที่ซื้อ DR อาจมีความกังวลว่า หลังจากซื้อแล้ว หากไปเทรดบนกระดานจะมีสภาพคล่องหรือไม่ จะมีคนซื้อหรือคนขายมากพอไหม ?
ตรงนี้ หมดห่วง เพราะกรุงไทยจะทำหน้าที่ตั้งราคารับซื้อหรือราคาเสนอขาย ทำให้ราคา DR อยู่ในราคาที่ใกล้เคียงกับราคาจริงที่อยู่ในตลาดหุ้นนั้น ๆ โดยมูลค่าอาจสูงกว่าไม่มากและอาจจะต่ำกว่าก็ได้
โดยกลยุทธ์การเลือกหุ้น DR นอกจาก Alibaba ที่เป็นหุ้น DR ตัวแรกแล้ว
ในอนาคตก็มีแผนที่จะนำหุ้นต่างประเทศ ที่เป็นหุ้นยักษ์ใหญ่ในจีนหรือในสหรัฐอเมริการวมทั้งกองทุนอีทีเอฟ ที่คนรู้จักกันดี เข้ามาลิสต์อยู่ในระบบ DR เช่นกัน
ในอนาคตก็มีแผนที่จะนำหุ้นต่างประเทศ ที่เป็นหุ้นยักษ์ใหญ่ในจีนหรือในสหรัฐอเมริการวมทั้งกองทุนอีทีเอฟ ที่คนรู้จักกันดี เข้ามาลิสต์อยู่ในระบบ DR เช่นกัน
ซึ่งประโยชน์ของหุ้น DR หลัก ๆ จะเข้ามาตอบโจทย์นักลงทุนรายย่อยที่ต้องการเป็นเจ้าของหุ้นในต่างประเทศ เพราะการซื้อหุ้นต่างประเทศ โดยปกติแล้วจะมีขั้นต่ำ เช่น หากจะซื้อหุ้นในสหรัฐอเมริกาหรือฮ่องกงเอง ขนาดการลงทุนจะค่อนข้างใหญ่
สมมติถ้าจะซื้อหุ้น Alibaba โดยตรง ขั้นต่ำจะต้องซื้อ 100 หุ้น โดย 1 หุ้นของ Alibaba ราคาโดยประมาณอยู่ที่ 500 บาท ดังนั้นเงินลงทุนขั้นต่ำจะต้องมี 50,000 บาทขึ้นไป
ระบบของ DR จึงเอาหุ้น Alibaba 1 หุ้น มาแตกย่อยเป็น DR 100 หน่วย นั่นเท่ากับว่า แค่มีเงิน 5 บาท ก็สามารถเป็นเจ้าของ Alibaba ได้แล้ว
และหากเปรียบเทียบนักลงทุนในไทยกับต่างประเทศ นักลงทุนบ้านเราจะมีหุ้นในประเทศค่อนข้างเยอะ ต่างจากนักลงทุนในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย จะมีหุ้นต่างประเทศในสัดส่วนที่มากกว่า
ดังนั้น DR จึงเป็นเหมือนเครื่องมือการลงทุนชนิดหนึ่ง ที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของคนไทยมีความหลากหลาย และเข้าถึงหุ้นต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
โดยทางกรุงไทยมองว่า หุ้น Tech, e-Commerce และ EV เป็นหุ้นที่คนไทยยังขาดอยู่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เริ่มต้นที่ Alibaba เป็นหุ้น DR ตัวแรก
โดยทางกรุงไทยมองว่า หุ้น Tech, e-Commerce และ EV เป็นหุ้นที่คนไทยยังขาดอยู่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เริ่มต้นที่ Alibaba เป็นหุ้น DR ตัวแรก
ส่วน Alibaba นอกจากเป็นที่คุ้นหูคนไทยกันดีอยู่แล้ว ยังมีความน่าสนใจดังนี้
1) Alibaba เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ในจีนและชั้นนำของโลก
มีการเติบโตด้านผลประกอบการเฉลี่ยถึง 44% และยังเป็นหุ้นที่คนไทยรู้จักกันดี มีสภาพคล่องสูง
มีการเติบโตด้านผลประกอบการเฉลี่ยถึง 44% และยังเป็นหุ้นที่คนไทยรู้จักกันดี มีสภาพคล่องสูง
2) มีผู้ใช้งานในจีนต่อปีที่แข็งแกร่ง เพราะ ณ เดือน ธ.ค. 2564
Alibaba มีจำนวนผู้ใช้งานต่อปี Active อยู่ที่ 953 ล้านราย จากประชากรทั้งหมด 1.4 พันล้านราย ครองตลาดในเมืองได้สูงถึง 99% ในขณะที่เมืองรองยังเติบโตได้อีก
Alibaba มีจำนวนผู้ใช้งานต่อปี Active อยู่ที่ 953 ล้านราย จากประชากรทั้งหมด 1.4 พันล้านราย ครองตลาดในเมืองได้สูงถึง 99% ในขณะที่เมืองรองยังเติบโตได้อีก
3) ในแง่ของโมเดลธุรกิจก็มีความหลากหลาย เพราะนอกจากธุรกิจ e-Commerce แบบ B2C (Tmall) และ C2C (Taobao) แล้ว
Alibaba ยังมีธุรกิจในเครือ เช่น ธุรกิจการเงิน (Alipay), ธุรกิจสื่อมีเดียและความบันเทิง (Youku) และธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ (Cainiao)
Alibaba ยังมีธุรกิจในเครือ เช่น ธุรกิจการเงิน (Alipay), ธุรกิจสื่อมีเดียและความบันเทิง (Youku) และธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ (Cainiao)
4) หุ้นของ Alibaba ติดอันดับการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยมีมูลค่าการซื้อขาย ณ วันที่ 25 ม.ค. 65 อยู่ที่ 6.6 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง และมีจำนวนหุ้นซื้อขายอยู่ที่ 54.8 ล้านหุ้นต่อวัน
จากข้อมูลทั้งหมด เห็นได้ชัดแล้วว่า หน่วยการลงทุน DR จะทำให้การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ง่ายและไม่ยุ่งยากอีกต่อไป
ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีระดับโลก Alibaba DR ด้วยรหัส BABA80 ได้ตั้งแต่ 23 ก.พ. 65 เป็นต้นไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://krungthai.com/link/alibaba-dr-markethink
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียด ได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน www.sec.or.th