ออกแบบพื้นที่ทำงานที่ใช่และชีวิตที่ชอบ เพื่อสตาร์ทอัพยุค 2022
10 ก.พ. 2022
ทำไมเราต้องออกแบบพื้นที่ทำงานให้กลมกลืนไปกับการใช้ชีวิต ?
เหตุผลก็เพราะ ปัจจุบันการทำธุรกิจออนไลน์และแนวทางการทำธุรกิจแบบสตาร์ทอัพได้เปลี่ยนพฤติกรรม
ทำให้เราต้องทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง ตามเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นให้ทัน
เพื่อคิดหาโซลูชันนวัตกรรม และการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจในช่วงที่โลกมีความท้าทายตลอดเวลา
ทำให้เราต้องทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง ตามเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นให้ทัน
เพื่อคิดหาโซลูชันนวัตกรรม และการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจในช่วงที่โลกมีความท้าทายตลอดเวลา
แต่ทั้งหมดก็ต้องไม่ลืมที่จะเติมเต็มชีวิตและความสุขส่วนตัวด้วยเช่นกัน เพื่อให้เป็นการเติบโตที่ “ยั่งยืน” อย่างแท้จริง
จึงเกิดเป็นแนวคิด Work-Life Harmony แนวคิดที่ทำให้เราต้องกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะจัดสรรเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ให้ผสมผสานกันอย่างลงตัว ได้อย่างไร ?
ซึ่งพื้นที่การทำงานที่ตอบโจทย์สตาร์ทอัพ ตามแนวคิด Work-Life Harmony จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก True Digital Park
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
เพราะ True Digital Park เข้าใจ “ความต้องการของบริษัทเทคฯ และสตาร์ทอัพ” เป็นอย่างดี
จึงสร้างสรรค์พื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งสร้างโอกาสของสตาร์ทอัพ เพื่อช่วยส่งเสริม ทั้งในด้านการหาแรงบันดาลใจ สร้างสรรค์ไอเดีย สนับสนุนให้เกิดการพบปะกันระหว่างพันธมิตรและนักลงทุน
กลายเป็นคอมมิวนิตีที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพ หรือที่เรียกว่า Startup Ecosystem ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
จึงสร้างสรรค์พื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งสร้างโอกาสของสตาร์ทอัพ เพื่อช่วยส่งเสริม ทั้งในด้านการหาแรงบันดาลใจ สร้างสรรค์ไอเดีย สนับสนุนให้เกิดการพบปะกันระหว่างพันธมิตรและนักลงทุน
กลายเป็นคอมมิวนิตีที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพ หรือที่เรียกว่า Startup Ecosystem ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
โดยองค์ประกอบที่ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ ประกอบด้วย
ออฟฟิศที่ครบ จบในที่เดียว
การจัดสรรพื้นที่ทำงานให้ลงตัว อย่างแรกที่ต้องพิจารณา คือ การออกแบบออฟฟิศและเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้
ซึ่งองค์กรไหนที่ใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ให้กับพนักงาน ก็จะเป็นการดึงดูดคนเก่งให้อยากเข้ามาร่วมงานด้วย
True Digital Park เข้าใจความต้องการและวิถีการทำงานของสตาร์ทอัพ ในโซนออฟฟิศ จึงถูกออกแบบให้เป็นออฟฟิศเกรด A ทั้งหมด
โดยสามารถขอเช่าพื้นที่และเข้ามาทำงานได้ทันที เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว
ทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกสรรมาด้วยความใส่ใจ เช่น เก้าอี้ทำงาน ที่ออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยแก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรม เอาใจคนชอบนั่งทำงานยาว ๆ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบาย ปราศจากความเมื่อยล้า เพิ่มความใส่ใจและสร้างความสุขในการทำงาน ที่จะส่งผลไปถึงการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ของพนักงานอีกด้วย
โดยสามารถขอเช่าพื้นที่และเข้ามาทำงานได้ทันที เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว
ทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกสรรมาด้วยความใส่ใจ เช่น เก้าอี้ทำงาน ที่ออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยแก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรม เอาใจคนชอบนั่งทำงานยาว ๆ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบาย ปราศจากความเมื่อยล้า เพิ่มความใส่ใจและสร้างความสุขในการทำงาน ที่จะส่งผลไปถึงการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ของพนักงานอีกด้วย
หรือในระหว่างทำงาน ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการติดต่อลูกค้า ประสานงาน หรือต้องการใช้สมาธิในการโฟกัสกับงาน ก็มีโซน Phone Booth ห้องเก็บเสียง ไว้รองรับความต้องการด้วยเช่นกัน
นอกจากออฟฟิศที่เป็นเกรด A แล้ว ขนาดและไซส์ก็มีให้เลือกตามความเหมาะสมของจำนวนพนักงาน
ตั้งแต่ตัวคนเดียว ไปจนถึง 2,000 คน เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบทุกขนาดของบริษัท ทั้งผู้ประกอบการหน้าใหม่ บริษัทเทคฯ สตาร์ทอัพ บริษัทขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่กำลังขยายทีม
ตั้งแต่ตัวคนเดียว ไปจนถึง 2,000 คน เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบทุกขนาดของบริษัท ทั้งผู้ประกอบการหน้าใหม่ บริษัทเทคฯ สตาร์ทอัพ บริษัทขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่กำลังขยายทีม
รูปแบบพื้นที่ทำงานที่หลากหลาย นั่งทั้งวันก็ไม่เบื่อ
สิ่งต่อมาที่ควรใส่ใจ คือบรรยากาศและสภาพแวดล้อม ที่เอื้อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากเรานั่งทำงานในห้องสี่เหลี่ยมที่อุดอู้ กับนั่งทำงานในพื้นที่ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่พื้นที่โล่งโปร่งสบาย จะเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานก็ทำได้ หรือจะเดินพักผ่อนหย่อนใจในเวลาที่คิดไอเดียไม่ออกก็ดี
และยังมีโอกาสพบปะคนที่อยู่นอกบริษัท ได้แลกเปลี่ยนความคิดจากผู้มีประสบการณ์จริงในธุรกิจนั้น ๆ
สิ่งเหล่านี้เป็นทางเลือก ที่คนทำงานยุคใหม่กำลังมองหา
สิ่งเหล่านี้เป็นทางเลือก ที่คนทำงานยุคใหม่กำลังมองหา
จะเห็นได้ว่าที่กล่าวมา คนทำงานยุคใหม่ให้ความสำคัญกับอิสระและการเปิดกว้างทางความคิด ดังนั้นพื้นที่ทำงานจะต้อง “เป็นมากกว่าพื้นที่ทำงาน”
ซึ่ง True Digital Park ออกแบบพื้นที่การทำงานไว้ได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะกับทุกความต้องการ
นั่นก็คือ โซน Co-working Space พื้นที่เปิดกว้างทางความคิด ด้วยการออกแบบรูปแบบพื้นที่นั่งทำงานที่หลากหลาย เพิ่มสีสันและประโยคสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงต้นไม้สีเขียวผ่อนคลายสายตา มีบริการน้ำ Infused Water, ชา และกาแฟ ฟรีตลอดการใช้งาน ซึ่งผู้เช่าพื้นที่ออฟฟิศก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทำงานที่นี่ได้ ถ้าเป็นฟรีแลนซ์ก็สามารถเลือกสมัครแบบแพ็กเกจรายวัน, รายเดือน หรือรายปีก็ได้ แถมยังการันตีด้วย รางวัล Best Co-working Space 2020 จากเวที ASEAN Startup Awards
พื้นที่ส่วนกลางครบ ติดปีกให้บริษัทพุ่งทะยาน
และสิ่งที่จะเข้ามาเสริมให้ชีวิตการทำงานสมบูรณ์แบบและครบองค์ประกอบมากยิ่งขึ้น ก็คือ โซนพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งผู้เช่าออฟฟิศสามารถใช้งานได้ฟรี เช่น
ห้องประชุมหลายขนาด ทั้งไซส์ S, M, L ไปจนถึงห้อง Boardroom ซึ่งเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่สำหรับผู้บริหารและพาร์ตเนอร์ระดับโลกที่มาพร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สายเชื่อมต่อ Adapter, โปรเจกเตอร์ และอินเทอร์เน็ต จะประชุมงานหรือคุยงานกับลูกค้าก็ไม่ต้องคอยกังวลว่าสไลด์จะไม่ขึ้นจอ หรือมีปัญหาทางเทคนิคระหว่างการนำเสนอผลงานหรือไม่
เมื่อสถานที่พร้อม อุปกรณ์พร้อม ในระหว่างการซ้อมพรีเซนต์ เพื่อนำเสนอไอเดียธุรกิจ ก็จะลื่นไหล ไม่มีอะไรมาขัดจังหวะ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถืออย่างหนึ่งให้กับบริษัท เมื่อต้องพบปะลูกค้า พาร์ทเนอร์ และนักลงทุน
ในขณะที่โซนพื้นที่สำหรับพักให้สมองผ่อนคลายก็มีเช่นกัน จะเล่นปิงปองหรือตีพูล ก็เลือกได้ตามใจชอบ เพราะในระหว่างทำงาน เรื่องงานเราก็ต้องจริงจัง ส่วนเรื่องเล่นก็ต้องเต็มที่ไม่แพ้กัน เพื่อสร้างสมดุลให้การทำงานไม่เครียดจนเกินไป มีมุมสนุก ๆ บ้าง เพื่อสร้างสรรค์และกระตุ้นให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้ไม่รู้จบ
นี่จึงเป็นไอเดียที่ทำให้มีพื้นที่สำหรับระดมสมองแบบสบาย ๆ แทรกอยู่ในโซนออฟฟิศ โดยลักษณะของพื้นที่จะออกแบบเป็นโซนโซฟา ผสมผสานกับเบาะบีนแบ็กสำหรับนั่งเล่น เพื่อให้รู้สึกว่าการทำงานไม่จำเป็นที่จะต้องจริงจังเสมอไป
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีพื้นที่ที่เป็นเหมือนครัวขนาดย่อม ที่คนทำงานอย่างเราต้องถูกใจ เพราะมีบริการชา กาแฟ
Infused Water ฟรีทั้งวัน รวมถึงมีตู้เย็น และพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหารได้ โดยโซนนี้จะเรียกว่า โซน Pantry
Infused Water ฟรีทั้งวัน รวมถึงมีตู้เย็น และพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหารได้ โดยโซนนี้จะเรียกว่า โซน Pantry
หรือถ้าบริษัทเรามีของ อยากโชว์ศักยภาพ ก็สามารถจัดกิจกรรมภายในบริษัทได้ ในโซนจัดอีเวนต์ ไม่ว่าจะเป็น Workshop สำหรับพัฒนาสินค้าใหม่ หรือจะจัดแบบยิ่งใหญ่อลังการ อย่างการจัดประชุมทีมแบบ Townhall เพื่อเล่าทิศทางและการทำงานของบริษัท, จัดงานแถลงข่าวในห้อง Auditorium เพื่อเปิดตัวพาร์ตเนอร์ใหม่ รวมถึงเชิญสื่อต่าง ๆ มาทำข่าว ก็สามารถเลือกพื้นที่อีเวนต์ที่อยู่ใน True Digital Park จัดงานได้เลย ไม่ต้องหาพื้นที่เช่าใหม่ให้เสียเวลา ที่สำคัญคือมีเรตราคาพิเศษ สำหรับผู้เช่าออฟฟิศอีกด้วย
ไม่ใช่แค่ออฟฟิศ แต่เป็นคอมมิวนิตีสำหรับสตาร์ทอัพ
จากการที่มีคนจากหลากหลายวงการเข้ามาใช้พื้นที่นี้ร่วมกัน ในจุดนี้เองเป็นจุดแข็งที่ทำให้ True Digital Park ไม่เหมือนออฟฟิศทั่ว ๆ ไป
เพราะเป็นคอมมิวนิตีแหล่งรวมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ บริษัทเทคฯ และสตาร์ทอัพทั้งในประเทศไทยและประเทศกลุ่มอาเซียน รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้สตาร์ทอัพเติบโตอีกด้วย
เพราะเป็นคอมมิวนิตีแหล่งรวมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ บริษัทเทคฯ และสตาร์ทอัพทั้งในประเทศไทยและประเทศกลุ่มอาเซียน รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้สตาร์ทอัพเติบโตอีกด้วย
จะเห็นว่าพื้นที่นี้เป็นศูนย์กลางเครือข่ายที่รวบรวมทั้งองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ จึงเปรียบเหมือนแหล่งบ่มเพาะทางความคิด ที่พร้อมให้คนคุณภาพมาแบ่งปันและต่อยอดไอเดียซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาและผลักดันให้สตาร์ทอัพไทยเติบโตไปในเวทีโลกได้
หลายความสำเร็จของสตาร์ทอัพ เริ่มต้นที่นี่ เนื่องจากเป็นศูนย์รวมโปรแกรมส่งเสริมองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมสำหรับบริษัทเทคฯ และสตาร์ทอัพ, อีเวนต์ต่าง ๆ ที่นำผู้ลงทุนและผู้ต้องการหาแหล่งเงินทุนให้มาพบปะกัน และกิจกรรมบ่มเพาะศักยภาพของผู้ประกอบการหน้าใหม่
ทั้งการประชันไอเดียธุรกิจ (Pitching), Hackathon, งานอัปเดตเทรนด์ (Tech Forum), ศูนย์ให้คำปรึกษา One Stop Service for Startups และโอกาสที่จะได้พบปะนักลงทุน (VC) ที่พร้อมให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว จนทำให้ True Digital Park ก็ยังคงสร้างโปรแกรมและกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง จนได้รับรางวัล Best Community Builder สำหรับสตาร์ทอัพ ถึง 2 ปีซ้อน จากเวที Origin Innovation Awards ทั้งปี 2020 และปี 2021
ทั้งการประชันไอเดียธุรกิจ (Pitching), Hackathon, งานอัปเดตเทรนด์ (Tech Forum), ศูนย์ให้คำปรึกษา One Stop Service for Startups และโอกาสที่จะได้พบปะนักลงทุน (VC) ที่พร้อมให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว จนทำให้ True Digital Park ก็ยังคงสร้างโปรแกรมและกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง จนได้รับรางวัล Best Community Builder สำหรับสตาร์ทอัพ ถึง 2 ปีซ้อน จากเวที Origin Innovation Awards ทั้งปี 2020 และปี 2021
เรียกได้ว่าพื้นที่นี้เป็นแหล่งรวมของคนมีฝัน คนมีของ และคนที่พร้อมจะสนับสนุนให้มาเจอกัน เพื่อต่อยอดวงการเทคฯ และสตาร์ทอัพไทย ให้เติบโตและทัดเทียมนานาประเทศได้
ทั้งหมดนี้คือการออกแบบพื้นที่ทำงานที่ใช่ของ True Digital Park แล้วในมุมการใช้ชีวิตล่ะ เป็นอย่างไร ?
ใช้ชีวิตกับทำงาน 2 เรื่องที่ดูต่าง แต่ไปด้วยกันได้
เพราะ Work-Life Harmony เป็นการออกแบบชีวิตการทำงานให้ผสมผสานกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างลงตัว จนเราไม่รู้สึกว่ากำลังทำงานอยู่ และในขณะเดียวกันก็สามารถแบ่งเวลาไปเติมเต็มชีวิตส่วนอื่น ๆ ได้ ทั้งเรื่องสุขภาพกาย การดูแลจิตใจ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์กับคนรักและครอบครัวก็สามารถทำควบคู่ไปกับการทำงานได้ หากจัดสรรอย่างเหมาะสม
True Digital Park ใส่ใจกับวิธีคิดนี้ จึงออกแบบพื้นที่โซน Retail เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
Retail and Lifestyle Area พื้นที่สำหรับช็อปปิงและพักผ่อนระหว่างวัน
ให้ไปช็อปปิง ทำธุรกรรมทางการเงิน หรือจะนัดคนรักหรือครอบครัวมาทานอาหารหลังเลิกงานก็ทำได้ ถ้าเป็นสายเฮลตี้ หากเคลียร์งานเสร็จแล้ว ก็แบ่งเวลาไปออกกำลังกายที่ Virgin Active 101 ได้
อีกทั้งวัฒนธรรมการทำงานได้เปลี่ยนไปมากจากแต่ก่อน เวลาการทำงานของสตาร์ทอัพจึงค่อนข้างยืดหยุ่น หากทำงานเสร็จก็สามารถแบ่งเวลามาออกกำลังกาย จะเช้า สาย บ่าย เย็น ก็ออกแบบชีวิตตัวเองได้
เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะส่งผลดีกับคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยโซน Workout ก็จะมีทั้งฟิตเนส Virgin Active 101 และเลนสำหรับปั่นจักรยานภายในอาคาร
รวมถึงมีพื้นที่สีเขียวด้านนอกอาคาร ต้นไม้ที่ร่มรื่นที่สามารถออกมาสูดโอโซนเข้าปอดชาร์จพลังได้อย่างเต็มที่
ส่วนในด้านทำเล ก็เดินทางง่าย ติดถนนสุขุมวิท 101 สามารถเดินทางได้สะดวกโดยรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีปุณณวิถี
ทั้งหมดที่กล่าวมา จึงเป็นคำตอบให้เราได้แล้วว่า พื้นที่ทำงานที่ใช่และชีวิตที่ชอบ เวิร์กทุกมิติ ชีวิตลงตัว สำหรับสตาร์ทอัพยุค 2022 ก็คือ True Digital Park นั่นเอง
ถ้าสนใจ มองหาออฟฟิศใหม่ ตอนนี้มีโปรโมชัน เช่าออฟฟิศฟรี 1 เดือน* ลงทะเบียนรับสิทธิ์เลย https://bit.ly/TDPKMarket