
เปิดกลยุทธ์ “เอพี ไทยแลนด์” ตะลุยเปิด 65 โครงการ มูลค่า 78,000 ล้าน มากสุดในประวัติการณ์
27 ม.ค. 2022
เรียกว่าเป็นการเปิดศักราชใหม่อย่างร้อนแรงไม่น้อย สำหรับ เอพี ไทยแลนด์
ที่กางแผนธุรกิจที่พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าแบบไม่หวั่นสถานการณ์โรคระบาด
ที่กางแผนธุรกิจที่พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าแบบไม่หวั่นสถานการณ์โรคระบาด
เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 65 โครงการ มูลค่ารวม 78,000 ล้านบาท
เสริมทัพโครงการที่มีอยู่ รวม 182 โครงการทั่วไทย มูลค่าพร้อมขายกว่า 149,000 ล้านบาท
เสริมทัพโครงการที่มีอยู่ รวม 182 โครงการทั่วไทย มูลค่าพร้อมขายกว่า 149,000 ล้านบาท
พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 50,000 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ 47,000 ล้านบาท
เหตุผลที่เอพี เล่นใหญ่ ทั้งที่หลายคนอาจจะมองว่าภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้สดใสอย่างที่คิด
แต่ในมุมมองของคุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กลับมองว่า แม้วิกฤติโรคระบาดที่เกิดขึ้นตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
จะทำให้เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับภาวะซบเซา และส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายเซกเตอร์
จะทำให้เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับภาวะซบเซา และส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายเซกเตอร์
ถ้าโฟกัสเฉพาะวงการอสังหาริมทรัพย์ ยังมีดีมานด์ของผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัย
เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามสถานการณ์
ซึ่งเอพี ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ปรับตัวได้ดี
เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามสถานการณ์
ซึ่งเอพี ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ปรับตัวได้ดี
โดย 3 ไม้ตายที่สร้างแต้มต่อให้เอพีทำผลงานได้ท็อปฟอร์มในอุตสาหกรรม
ที่คาดว่าจะมียอดโอนปิดตลอดปี 64 ประมาณ 40,000 ล้านบาท มาจาก
ที่คาดว่าจะมียอดโอนปิดตลอดปี 64 ประมาณ 40,000 ล้านบาท มาจาก
1) การบริหารพอร์ตสินค้าพร้อมขาย
กระจายไปในหลากหลายทำเล ในปีที่ผ่านมาเอพีมีโครงการมากกว่า 117 โครงการ กระจายขายทั่วประเทศไทย สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 35,050 ล้านบาท
กระจายไปในหลากหลายทำเล ในปีที่ผ่านมาเอพีมีโครงการมากกว่า 117 โครงการ กระจายขายทั่วประเทศไทย สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 35,050 ล้านบาท
เฉพาะธุรกิจบ้านเดี่ยว เอพีครองความแข็งแกร่งและเติบโตในทุกเซกเมนต์
ด้วยส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี 2558 - ครึ่งแรกปี 2564)
ด้วยส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี 2558 - ครึ่งแรกปี 2564)
2) การบริหารจัดการกระแสเงินสดที่ดี ทำให้อัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
ณ สิ้นปี 64 บริษัทมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ต่ำเพียง 0.58 เท่านั้น
ณ สิ้นปี 64 บริษัทมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ต่ำเพียง 0.58 เท่านั้น
3) นำดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ
ถามว่า แล้วก้าวต่อไป เอพี วางกลยุทธ์ไว้อย่างไร ?
งานนี้ ต้องบอกว่า เอพีจัดเต็ม ปูพรมบุกตลาดอสังหาฯ แบบครบลูป
งานนี้ ต้องบอกว่า เอพีจัดเต็ม ปูพรมบุกตลาดอสังหาฯ แบบครบลูป
คุณวิทการค่อย ฉายภาพให้เห็นว่า เอพีเตรียมเปิดตัว 65 โครงการ มูลค่ากว่า 78,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
-ทาวน์โฮม 29 โครงการ มูลค่า 25,200 ล้านบาท
-บ้านเดี่ยว 26 โครงการ มูลค่า 35,600 ล้านบาท
-คอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท
-โครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท
-ทาวน์โฮม 29 โครงการ มูลค่า 25,200 ล้านบาท
-บ้านเดี่ยว 26 โครงการ มูลค่า 35,600 ล้านบาท
-คอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท
-โครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้ ทำให้ทั้งปี เอพีจะมีโครงการพร้อมขาย ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ถึง 182 โครงการ มูลค่ากว่า 149,000 ล้านบาท
โดยตั้งเป้ายอดขาย 50,0000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 47,000 ล้านบาท
โดยตั้งเป้ายอดขาย 50,0000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 47,000 ล้านบาท
ที่น่าสนใจ คือ เบื้องหลังแผนการเปิดโครงการใหม่ ที่เรียกว่ามากที่สุดตั้งแต่เอพีเคยดำเนินธุรกิจมา
ไม่ใช่เพื่อทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายไป แต่เป็นการชิงความได้เปรียบที่มากขึ้น ด้วยการขยายสินค้าไปยังตลาดใหม่ ๆ
ไม่ใช่เพื่อทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายไป แต่เป็นการชิงความได้เปรียบที่มากขึ้น ด้วยการขยายสินค้าไปยังตลาดใหม่ ๆ
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้ทุกโครงการใหม่ เอพีได้มีการปฏิวัติแนวคิดในการออกแบบโครงการ
ยกตัวอย่าง โครงการทาวน์โฮมในเมือง ซึ่งเอพีตั้งเป้าการเติบโตที่มากขึ้นกว่า 30%
ยกตัวอย่าง โครงการทาวน์โฮมในเมือง ซึ่งเอพีตั้งเป้าการเติบโตที่มากขึ้นกว่า 30%
-เขย่าตลาดทาวน์โฮมทุกเซกเมนต์ ด้วยการเปิดตัว 20 แบบบ้านใหม่ จาก 6 แบรนด์ทาวน์โฮมคุณภาพ
ที่มีพลิกโฉมใหม่หมด ตั้งแต่การออกแบบภายนอกไปจนถึงสเปซภายใน
ปลดล็อกประสบการณ์ของการอยู่อาศัยในทาวน์โฮมแบบเดิม ๆ
ที่มีพลิกโฉมใหม่หมด ตั้งแต่การออกแบบภายนอกไปจนถึงสเปซภายใน
ปลดล็อกประสบการณ์ของการอยู่อาศัยในทาวน์โฮมแบบเดิม ๆ
-เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นและ 2 ชั้น ด้วยจุดขาย บ้านหน้ากว้างสูงสุด 11 เมตร ผ่านแบรนด์บ้านกลางเมือง The Edition และแกรนด์ พลีโน่
-บุกตลาดทาวน์โฮม 2 ชั้นในเขตปริมณฑล ด้วยแบรนด์น้องใหม่ PLENO TOWN เริ่ม 1.89 ล้านบาท
-เจาะตลาดบ้านเดี่ยว ที่เป็นผู้นำอยู่แล้ว ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ บ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้ชื่อแบรนด์ใหม่
ขยายโลเคชันไปยังพื้นที่เขตปริมณฑล อย่างสมุทรสาคร และสมุทรปราการ
ขยายโลเคชันไปยังพื้นที่เขตปริมณฑล อย่างสมุทรสาคร และสมุทรปราการ
-ทวงคืนภาพผู้นำคอนโดมิเนียมในเมือง ด้วยการเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่า 13,000 ล้านบาท
เพราะมองว่า ตลาดคอนโดฯ ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว เชื่อว่าปี 65 จะเริ่มเห็นเซกเมนต์กลางถึงกลางล่างฟื้น
เพราะมองว่า ตลาดคอนโดฯ ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว เชื่อว่าปี 65 จะเริ่มเห็นเซกเมนต์กลางถึงกลางล่างฟื้น
ชู ASPIRE เป็น Fighting Brand หลัก ลุยตลาดแมส ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท
เรียกว่า การออกมาลั่นกลอง เผยกลยุทธ์ที่ปูพรมมาเต็มทุกเซกเมนต์ของเอพีครั้งนี้
น่าจะปลุกตลาดอสังหาฯ บ้านเราให้คึกคักไม่น้อย
จากนี้คงต้องติดตามว่า แล้วดีเวลลอปเปอร์รายอื่น จะปล่อยกลยุทธ์เด็ด ๆ อะไรออกมารับมือ
หรือสร้างสีสันให้วงการบ้าง
น่าจะปลุกตลาดอสังหาฯ บ้านเราให้คึกคักไม่น้อย
จากนี้คงต้องติดตามว่า แล้วดีเวลลอปเปอร์รายอื่น จะปล่อยกลยุทธ์เด็ด ๆ อะไรออกมารับมือ
หรือสร้างสีสันให้วงการบ้าง