สโมสรฟุตบอลญี่ปุ่น ขายยาดมโป๊ยเซียน ให้แฟนบอล ต้อนรับ เจ-ชนาธิป เข้าสโมสร
12 ม.ค. 2022
ที่ผ่าน ๆ มาเราคงคุ้นเคยกันดี กับการเผยแพร่วัฒนธรรมหรือสินค้าประจำชาติไทย ผ่านดาราศิลปิน
อย่างในเกาหลีใต้ ก็จะมีนักร้องชื่อดังอย่าง ลิซ่า แบล็กพิงก์ หรือ แบมแบม GOT7
อย่างในเกาหลีใต้ ก็จะมีนักร้องชื่อดังอย่าง ลิซ่า แบล็กพิงก์ หรือ แบมแบม GOT7
โดยเหล่าศิลปิน นับว่าไม่ได้ไปเดบิวต์แต่ตัว แต่ยังนำเอาความเป็นไทย และชื่อเสียงของประเทศไทย ไปเผยแพร่ต่อในชาตินั้น ๆ ด้วย
ทั้งนี้ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์การเผยแพร่วัฒนธรรมจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่ง ซึ่งโดยปกติแล้ว มักจะเกิดขึ้นในวงการเพลง, ภาพยนตร์, ซีรีส์ ที่ก็จะวนอยู่ในวงการบันเทิงเสียส่วนมาก
แต่ล่าสุด เจ-ชนาธิป เพิ่งได้ปลุกกระแสให้กับสินค้าไทยผ่าน “วงการฟุตบอล”
โดยสโมสรฟุตบอลญี่ปุ่น “คาวาซากิ ฟรอนตาเล” ที่ได้เข้าซื้อตัวนักเตะชื่อดังอย่าง เจ-ชนาธิป สรงกระสิทธ์ กองกลางของทีมชาติไทย
ซึ่งมีค่าตัวในการย้ายสโมสรสูงเป็นประวัติการณ์ของนักเตะไทย โดยคาดการณ์กันว่า ค่าตัวของเขาน่าจะมากกว่า 100 ล้านบาทเลยทีเดียว
ซึ่งมีค่าตัวในการย้ายสโมสรสูงเป็นประวัติการณ์ของนักเตะไทย โดยคาดการณ์กันว่า ค่าตัวของเขาน่าจะมากกว่า 100 ล้านบาทเลยทีเดียว
แต่การย้ายสโมสรของ เจ-ชนาธิป ก็ไม่ได้ไปเพียงแต่ตัวอย่างเดียว เพราะยังนำมาซึ่งการปลุกกระแสให้กับสินค้าไทยที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ และรู้จักกันในนามสินค้าตัวแทนประเทศไทยอย่าง “ยาดม” หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า “ยาโดมุ” ซึ่งมาจากคำว่า ยาดม แต่เป็นสำเนียงญี่ปุ่น นั่นเอง
โดยมียี่ห้อชื่อดังที่เข้าทำตลาดคือ “ตราโป๊ยเซียน”
โดยมียี่ห้อชื่อดังที่เข้าทำตลาดคือ “ตราโป๊ยเซียน”
ทางสโมสรได้เอาใจแฟน ๆ ชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ด้วยการเตรียมจำหน่ายยาดมตราโป๊ยเซียนของไทยลาย “ฟรอนตาคุง” ที่มีแมสคอตรูปโลมาของทางสโมสรอยู่บนแท่งยาดม ซึ่งจัดทำออกมาเป็นพิเศษ เนื่องในโอกาสการต้อนรับ เจ-ชนาธิป เข้าสโมสร
แต่ที่ญี่ปุ่น จะเปลี่ยนชื่อจากโป๊ยเซียนไปเป็นคำว่า “Nose Mint” ให้คนญี่ปุ่นเข้าใจง่ายขึ้น
โดยจะวางจำหน่ายในราคา 495 เยน หรือราว ๆ 138 บาท เริ่มวางขาย 14 มกราคม นี้ ที่ร้านขายสินค้าของสโมสร
โดยจะวางจำหน่ายในราคา 495 เยน หรือราว ๆ 138 บาท เริ่มวางขาย 14 มกราคม นี้ ที่ร้านขายสินค้าของสโมสร
แล้วรู้หรือไม่ว่า ชาวญี่ปุ่นไม่ได้เพิ่งรู้จักยาดมตราโป๊ยเซียน แต่รู้จักกันมานานแล้วว่า “เป็นของแปลก ที่สามารถใช้งานได้จริง”
และชาวญี่ปุ่น เริ่มรู้จักกันมากขึ้น หลังจากเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว รายการวาไรตีของญี่ปุ่นเข้ามาถ่ายทำรายการในไทย โดยนำเสนอหัวข้อว่า ทำไมคนไทยชอบทิ้งยาดมไว้คาจมูก และรายการก็มีการนำยาดม มาให้แขกรับเชิญทดลองใช้ด้วย ซึ่งทำให้ชาวญี่ปุ่นทึ่งกับสินค้าชนิดนี้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เพียงแค่ยาดมที่สโมรนำมาจำหน่ายเป็นของที่ระลึก แต่เมื่อแฟนบอลเข้าไปในคาเฟของสโมสรก็จะพบว่า มีการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มของไทยอยู่ในเมนูด้วย เช่น ข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว ในราคาจานละ 820 เยน หรือราว ๆ 237 บาท
เรียกได้ว่า การย้ายค่ายของ เจ-ชนาธิป ครั้งนี้ นอกเหนือจากความเก่งกาจแล้ว เขายังได้สร้างกระแส Soft Power เบา ๆ ที่อาจกระตุกต่อมความคิดถึงประเทศไทย ให้กับคนญี่ปุ่นได้มากเลยทีเดียว
ซึ่งก็อาจลามไปถึงการเปิดตลาดขายของที่ระลึกของไทย ที่มากกว่ายาดม
อย่างสินค้าที่คนญี่ปุ่นชอบมาประเทศไทย แล้วซื้อกลับไปบ้าน ก็จะมีสินค้าที่เกี่ยวกับช้าง, กางเกงลายไทย, กางเกงมวยไทย, ยาหม่อง, สินค้า OTOP, กระเป๋านารายา
อย่างสินค้าที่คนญี่ปุ่นชอบมาประเทศไทย แล้วซื้อกลับไปบ้าน ก็จะมีสินค้าที่เกี่ยวกับช้าง, กางเกงลายไทย, กางเกงมวยไทย, ยาหม่อง, สินค้า OTOP, กระเป๋านารายา
รวมถึง เพรทซ์ ขนมแท่งของ Glico ที่แม้จะเป็นขนมที่วางขายทั่วญี่ปุ่น แต่ชาวญี่ปุ่นยังต้องมาตามหา เพรทซ์ รสลาบ ที่มีขายแต่ในประเทศไทยเท่านั้น