Pfizer เผย วัคซีนสำหรับสายพันธุ์โอไมครอน จะพร้อมใช้ในเดือนมีนาคมนี้
11 ม.ค. 2022
Albert Bourla ซึ่งเป็น CEO ของ Pfizer ได้เผยว่า วัคซีนโควิด 19 สำหรับสายพันธุ์โอไมครอน ที่กำลังระบาดหนักในตอนนี้ จะพร้อมใช้งานในเดือนมีนาคม และทางบริษัทกล่าวว่าได้เริ่มต้นการผลิตบางส่วนแล้ว
โดยคุณ Bourla กล่าวว่า วัคซีนนี้จะรวมไปถึงการป้องกันสายพันธุ์อื่น ๆ ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ด้วย แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจริง ๆ แล้ว วัคซีนสำหรับสายพันธุ์โอไมครอนนั้นจำเป็นหรือไม่ หรือต้องใช้อย่างไร
แต่ทาง Pfizer จะจัดเตรียมวัคซีนให้พร้อม เนื่องจากบางประเทศ มีอัตราการแพร่ระบาดของสายพันธุ์นี้อย่างหนัก และต้องการวัคซีนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ซึ่งคุณ Bourla กล่าวเสริมว่า ความหวังในตอนนี้ของเรา คือการที่เราค้นพบอะไรบางอย่าง ที่จะช่วยให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน และที่สำคัญคือป้องกันการติดต่อได้
เพราะหากป้องกันได้จริง ก็จะทำให้อัตราการเข้าโรงพยาบาล และอาการป่วยรุนแรงลดลง
มันจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่จะมีวัคซีนสำหรับสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ เพื่อฉีดบูสเพิ่มเติม
มันจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่จะมีวัคซีนสำหรับสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ เพื่อฉีดบูสเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ตามรายงานของ UK Health Security Agency ในสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นว่า
วัคซีนของทั้ง Pfizer และ Moderna มีประสิทธิภาพเพียง 10% ในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน หลังจากได้รีบวัคซีนโดสที่ 2 เป็นเวลา 20 สัปดาห์
วัคซีนของทั้ง Pfizer และ Moderna มีประสิทธิภาพเพียง 10% ในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน หลังจากได้รีบวัคซีนโดสที่ 2 เป็นเวลา 20 สัปดาห์
แต่การฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 โดส ยังคงสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรงได้ดี และจากการศึกษาพบว่า การบูสเข็มที่ 3 จะเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโควิดได้ถึง 75% เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ก็ยังมีอีกหลายฝ่ายที่ออกมาโต้แย้งถึงความจำเป็นของวัคซีนบูสเตอร์สำหรับสายพันธุ์โอไมครอน
โดยทางคุณ Dr. Anthony Fauci หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของทำเนียบขาวในสหรัฐฯ กล่าวว่า
ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องรับวัคซีนบูสเตอร์ที่ป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ เนื่องจากบูสเตอร์ในปัจจุบัน (วัคซีนสูตรที่ใช้ในปัจจุบัน) ก็สามารถใช้งานได้ดีมากพอแล้ว
ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องรับวัคซีนบูสเตอร์ที่ป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ เนื่องจากบูสเตอร์ในปัจจุบัน (วัคซีนสูตรที่ใช้ในปัจจุบัน) ก็สามารถใช้งานได้ดีมากพอแล้ว
ส่วนทางด้านบริษัท Moderna ก็ได้ออกมากล่าวว่า ทางบริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนบูสเตอร์สำหรับสายพันธุ์โอไมครอนอยู่ และกำลังจะเข้าการทดลองในคลินิกเร็ว ๆ นี้
พร้อมกับบอกว่า ความต้องการของวัคซีนของรัฐบาลในแต่ละประเทศยังคงมีสูงมาก เนื่องจากต้องการเตรียมวัคซีนไว้สำหรับการบูสให้ประชาชน
นอกจากนี้ ทางคุณ Bourla บอกว่าเขายังไม่แน่ใจ ว่าวัคซีนโดสที่ 4 จะมีความจำเป็นหรือไม่
และกล่าวว่าทางบริษัท Pfizer จะทำการทดลองเพื่อพิจารณาถึงความจำเป็นของวัคซีนโดสอื่น ๆ ต่อไป
และกล่าวว่าทางบริษัท Pfizer จะทำการทดลองเพื่อพิจารณาถึงความจำเป็นของวัคซีนโดสอื่น ๆ ต่อไป
ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีประเทศอิสราเอล ที่ได้นำร่องฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ของ Pfizer และ BioNTech สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และบุคลากรทางการแพทย์
โดยทางอิสราเอลพบว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 จะช่วยเพิ่มแอนติบอดีป้องกันไวรัสได้เพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า หลังได้รับการบูสวัคซีนเป็นเวลา 1 สัปดาห์
สำหรับในประเทศไทยในปัจจุบัน ยังอยู่ในช่วงเร่งการบูสวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งก็ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไปว่า วัคซีนสำหรับสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ จะมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด และจะต้องมีเข็มที่ 4 หรือ 5 ตามมาอีกหรือไม่..
อ้างอิง:
-https://www.cnbc.com/2022/01/10/covid-vaccine-pfizer-ceo-says-omicron-vaccine-will-be-ready-in-march.html
-https://www.cnbc.com/2022/01/10/covid-vaccine-pfizer-ceo-says-omicron-vaccine-will-be-ready-in-march.html
Tag:Pfizer