วงการทีวีดิจิทัลเดือด “อาร์เอส” คว้า “ไทยไฟท์” มวยไทยระดับโลก ลงจอช่อง 8 กวาดคนดูกลุ่มใหม่ มั่นใจเรตติ้งพุ่งขึ้นสวนกระแส ครองแชมป์ช่องมวยไทยอันดับ 1

วงการทีวีดิจิทัลสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ “เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” จับมือ “มด-นพพร วาทิน” ผู้จัดรายการมวยไทยดังระดับโลก “ไทยไฟท์” เตรียมลงผังรายการมวยช่อง 8 สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้ผู้ชม มั่นใจดันเรตติ้งกระฉูด วางเป้าหมายหนุนช่อง 8 ขึ้นแท่นเป็นช่องมวยอันดับหนึ่งของประเทศ

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เป็นแม่ทัพใหญ่ ผู้วาง กลยุทธ์บริหาร ช่อง 8 หนึ่งในผู้นำคอนเทนต์ด้านกีฬาต่อสู้และเป็นช่องทีวีดิจิทัลแรกๆ ที่นำรายการมวยสุดมันส์มาออกอากาศบนหน้าจอทีวี เปิดเผยว่า “ตลอด 5 ปี เราได้ประกาศแผนธุรกิจเชิงรุก ตั้งเป้าขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตไปตามเป้าหมายโดยเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารทีมช่อง 8 ให้แข็งแกร่ง โดยมุ่งเน้นการบริหารงาน  เชิงรุก ด้วยกลยุทธ์ Horizontal Integration การขยายธุรกิจในแนวราบ จากการหาพันธมิตรที่แข็งแกร่งเข้ามาร่วมเสริมทัพ ภายใต้การแข่งขันของทีวีดิจิทัลที่เป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะรายการประเภทถ่ายทอดสดกีฬาสำคัญๆ อย่างมวย ที่ถือว่าได้รับความนิยมจากผู้ชมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นรายการ Sport Entertainment ที่ผสมผสานความน่าสนใจในเกมกีฬาและความบันเทิงเข้าด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดใหญ่ที่มีมูลค่าราว 1.2 แสนล้านบาท (ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) ทำให้กระแสมวยจอตู้เข้มข้น กลับมาช่วงชิงคอนเทนต์กระชากเรตติ้งกันอย่างดุเดือด

“ล่าสุดช่อง 8 ประกาศศักดาจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่แห่งวงการมวย มด-นพพร วาทิน โปรโมเตอร์เจ้าของรายการมวยไทยระดับโลก “ไทยไฟท์” รายการมวยยอดนิยมระดับชาติ ที่มีฐานผู้ชมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นรายการที่มีเรตติ้งค่อนข้างสูง มาลงจอช่อง 8 ด้วยรูปแบบรายการที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมี ดีกว่าที่เคยเป็น ความมันส์ที่คุณสัมผัสได้ สังเวียนใหม่ที่แตกต่าง และเร้าใจกว่าเดิม การดวลเดือดของนักมวยไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บนสังเวียนที่เต็มไปด้วยนักสู้ระดับแชมป์เปี้ยน ยอดฝีมือระดับพระกาฬ จะมาพิสูจน์ศักดิ์ศรี โดยช่อง 8 ถ่ายทอดสดให้แฟนมวยไทยทั่วประเทศได้ลุ้นแบบสะใจช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ต้นปี 2563 นี้อย่างแน่นอน
ปัจจุบันทางช่อง 8 มีรายการมวยประจำอยู่ 2 รายการ ในวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 19.00 น. คือ “มวย     ฮาร์ดคอร์-มวยพันธุ์ดุ” อีกระดับของความมันส์การต่อสู้ ถือเป็นรายการมวยน้องใหม่ ที่กำลังมาแรงและเป็นที่กล่าวขวัญถึงในวงการมวย โดยทำการถ่ายทอดสดวันแรกไปเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำเรตติ้งพุ่งแรงแตะหลักล้าน และศึก “มวยไทยซุปเปอร์แชมป์” ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้นำรายการมวยระดับแนวหน้าของประเทศ การเข้ามาของรายการมวย ไทยไฟท์ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ช่อง 8 มีคอนเทนต์รายการที่หลากหลาย เพิ่มเติมความสนุกของมวย และสร้างดีกรีความมันส์ให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ดันเรตติ้งพุ่งทะยานรับช่วงไฮซีซั่น และยังเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะช่วยส่งให้ช่อง 8 เป็นที่สุดของมวยไทย ที่สุดของสังเวียนการต่อสู้ หากพูดถึงกีฬามวย ทุกคนต้องนึกถึงช่อง 8”

ด้าน นายนพพร วาทิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยไฟท์ จำกัด กล่าวว่า "รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้กลับมาร่วมงานกับคุณสุรชัยอีกครั้ง ผมกับคุณสุรชัยเป็นพาร์ทเนอร์กันมาหลายสิบปี เรามีนโยบายที่ตรงกันคือทางไทยไฟท์ต้องการเผยแพร่ และผลิตรายการใหม่ๆ เพิ่มออกมา ซึ่งตรงกับทางช่อง 8 ที่ต้องการปรับโครงสร้างช่องให้มีคอนเทนต์ใหม่ๆ เข้ามาเช่นกัน การได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในเวลานี้ ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะไทยไฟท์เป็น Sport Entertainment ระดับสากลที่สร้างสรรค์โดยคนไทยและมีคนไทยเป็นเจ้าของ เป็นการผสมผสานมวยไทยและความบันเทิงเข้าด้วยกัน ทั่วโลกต่างยอมรับว่าการแข่งขันมวยไทยที่ดีที่สุดต้องที่เมืองไทยเท่านั้น โดยเราจัดการแข่งขันมวยไทยระดับนานาชาติ ซึ่งมีนักมวยไทยและนักมวยต่างชาติที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขัน สร้างสีสันความมันส์มาตลอดเวลา 10 ปี วันนี้ไทยไฟท์ยังคงเดินหน้าจัดอีเว้นต์ชกมวยทั้งในประเทศและในหลายๆ ภูมิภาคของโลกทั้งในโซนยุโรป เอเชีย จีน และอาเซียน โดยมีคนรู้จักมากกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก ดังนั้น การจับมือกับช่อง 8 ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ และสร้างฐานข้อมูลลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ รับรองว่าคนดูจะได้รับอรรถรสแห่งความมันส์อย่างแน่นอน”

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า "ช่อง 8 ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพรายการให้เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง โดยการหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งเข้ามาช่วยเติมสีสันให้กับผังรายการ เพื่อดึงดูดผู้ชมให้รับชมรายการของสถานีอย่างต่อเนื่อง การเข้ามาของ ไทยไฟท์ ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าช่อง 8 มีความมุ่งมั่น ทำงานอย่างเป็นระบบ มีการวางแผนหาพันธมิตรที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างฐานผู้ชม ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะสร้างฐานผู้ชมคนดูทีวีกลุ่มใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการตอกย้ำสโลแกนของสถานีที่ว่า “ใครๆ ก็ดูช่อง 8” กดเลข 27”