บริษัท SpaceX ของอีลอน มัสก์ ระดมทุนเพิ่ม กวาดเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท

SpaceX บริษัทด้านพัฒนาจรวดและขนส่งทางอวกาศ ของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
ปิดดีลระดมทุนรอบใหม่ กวาดเงินไปได้ 337.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11,260 ล้านบาท) ตามรายงานของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC)

โดยก่อนหน้านี้ SpaceX ได้เปิดระดมทุนหลายครั้ง ซึ่งได้รับเงินจากทั้ง Alphabet (Google) และ Fidelity Investments บริษัทด้านการจัดการลงทุนระดับโลก

จนในที่สุดช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา SpaceX ได้รับการประเมินว่า เป็นบริษัทเอกชนที่มูลค่าบริษัททะลุ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นสตาร์ตอัประดับ ​​Hectocorn
โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 100,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3.3 ล้านล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม ในการระดมทุนครั้งนี้ SpaceX ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็น หรือให้รายละเอียดเพิ่มเติม

และแม้ว่า SpaceX จะได้เงินระดมทุนรอบใหม่ ที่ทำให้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังห่างจากสตาร์ตอัปที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก อย่าง ByteDance เจ้าของแอป TikTok อยู่พอสมควร

โดย ByteDance มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.7 ล้านล้านบาท)
และได้ถูกประเมินว่า หากจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้น (IPO) อาจมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13.3 ล้านล้านบาท) เลยทีเดียว

สำหรับ SpaceX มีคู่แข่งด้านธุรกิจอวกาศที่สำคัญ ก็คือ Blue Origin ของเจฟฟ์ เบโซส มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก
และ Virgin Galactic ของริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ

ซึ่งตลอดปีนี้ ทั้ง 3 บริษัทต่างประสบความสำเร็จในการส่งพลเรือนขึ้นไปสำรวจอวกาศได้สำเร็จ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

ทั้งนี้ SpaceX ไม่ได้ตั้งเป้าหมายเพียงแค่พาคนไปสำรวจนอกโลก แต่ยังได้ตั้งเป้าหมายว่า จะพาจรวด Starship ที่มีจุดเด่นคือเป็นจรวดที่นำมากลับใช้ใหม่ได้ ไปลงจอดที่ดาวอังคาร ก่อนปี 2030 หรืออีก 9 ปีนับจากนี้ เพื่อเริ่มต้นสร้างอาณานิคมบนนั้น..

ในอนาคต การท่องเที่ยวด้านอวกาศ จะเป็นเทรนด์ฮิตสำหรับเหล่ามหาเศรษฐีที่มีเงิน และต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ

ซึ่งจากการประเมินของ Morgan Stanley บริษัทให้บริการทางการเงิน ระบุว่า รายได้รวมของธุรกิจด้านอวกาศจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยอาจมีมูลค่าอยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33.3 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2040

อ้างอิง :
-https://www.reuters.com/markets/us/elon-musks-spacex-raises-over-337-mln-fresh-funding-2021-12-29/