เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ทิ้งบอมบ์ความสุขสิ้นปี เปิดตัว “ชิค-อะ-บูม” แบรนด์ไก่ทอดใหม่ ไก่ทอดอเมริกันสูตรพิเศษ มิ๊กซ์ซอส 7 สูตรลับ หวังเจาะตลาดนิวเจน

เดอะ พิซซ่า คอมปะนี สร้างปรากฏการณ์ส่งท้ายปี 2564 แตกไลน์เปิดตัว “ชิค-อะ-บูม” (Chick-A-Boom) แบรนด์ไก่ทอดสไตล์อเมริกันใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมจุดขายไก่ทอดกรอบสูตรพิเศษ และซอสราดสูตรพิเศษแห่งเดียวที่สามารถเลือกถึง 7 รสชาติ ในคอนเซ็ปต์ “ถึงมาใหม่ก็ไม่ใช่ไก่แบบก่อน” โดยมุ่งเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดย “ชิค-อะ-บูม” มาพร้อมเมนูไฮไลท์อย่าง เดอะ คิลเลอร์ (The Killer) ไก่สายโหดจัดมาแน่นๆ 4 ไม้ ราคา 499 บาท ที่สายรีวิวคอนเทนต์พลาดไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีเซ็ตไก่ทอดให้เลือก 3 แบบ เลือกซอสเองได้ตามใจ ได้แก่ Chicka อร่อยเดี่ยว มีไก่ 6 ชิ้น ราคา 169 บาท Chicka Chicka อร่อยเป็นคู่ มีไก่ 12 ชิ้น ราคา 289 บาท และ Chicka Chicka Chicka มีไก่ 18 ชิ้น ราคา 389 บาท นอกจากนี้ยังเปิดตัวร้าน “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซิกเนเจอร์” ร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี คอนเซ็ปต์ใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การนั่งทานที่ร้านให้มีความน่าสนใจ ทั้งสไตล์การออกแบบร้านและไลน์เมนูที่มีความพรีเมี่ยมกว่าเดิม เพื่อเจาะกลุ่มคนเมืองที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 21 ปี ของแบรนด์ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขาย ไดน์ อิน ภาพรวมเติบโตขึ้นจากปกติ 10-15% โดยผู้สนใจสามารถสัมผัส “ชิค-อะ-บูม” และ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซิกเนเจอร์” ได้เฉพาะที่ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ชั้น 4 โซนกลางศูนย์ฯ เท่านั้น

นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ   ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า เดอะ พิซซ่า คอมปะนี นอกจากจะเป็นผู้นำตลาดพิซซ่าแล้ว ยังถือเป็นผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำด้านปีกไก่ทอด ทั้งไก่เกาหลี ไก่บาร์บีคิว ดังนั้นเพื่อตอกย้ำการเป็นเจ้าตลาดปีกไก่ทอด (King of Wing) จึงได้เปิดตัวไก่ทอด “ชิค-อะ-บูม” (Chick-A-Boom) แบรนด์ไก่ทอดอเมริกันน้องใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ถึงมาใหม่ก็ไม่ใช่ไก่แบบก่อน” ชูจุดเด่นด้วยซอส 7 รสชาติ สร้างความแปลกใหม่ให้ผู้บริโภคได้รู้สึกถึงความตื่นเต้นและสนุกไปกับรสชาติไม่ซ้ำใครที่มี ทั้งความเป็นตะวันออกและตะวันตกเสมือนได้ไปลิ้มลองความอร่อยจากทั่วทุกมุมโลก โดยมุ่งเน้นในการตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มเฟิร์สจ็อบเบอร์ ที่ไม่ชอบความจำเจ และชอบลองอะไรใหม่ รวมไปถึงฐานกลุ่มลูกค้าเดิมของ
เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ให้มีตัวเลือกการทานอาหารที่หลากหลายและอยากที่จะมานั่งทานอาหารในร้านบ่อยขึ้น เพื่อยกระดับประสบการณ์การนั่งทานอาหารในร้านให้คึกคักและเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเอร็ดอร่อยมากกว่าเดิม ซึ่งในอนาคต  “ชิค-อะ-บูม” มีแผนในการขยายสาขาแยกเป็นร้านเฉพาะของตนเอง

สำหรับความพิเศษของไก่ทอด “ชิค-อะ-บูม” จะมาพร้อมเมนูไฮไลท์อย่าง เดอะ คิลเลอร์ (The Killer) ที่ทั้งสายกินโหด สายคอนเทนต์ไม่ควรพลาดกับไก่ที่จัดมาแบบอลังการถึง 4 ไม้ เสิร์ฟพร้อมคอร์นด็อกสุดฮิต ในราคา 499 บาท อีกทั้งยังมีเมนูที่ให้ลูกค้าได้เลือกได้ตามความชอบ ตั้งแต่การเลือกเซ็ตไก่ ซอส และเครื่องเคียง โดยเซ็ตไก่จะแบ่งเป็น 3 แบบ ได้แก่ Chicka อร่อยเดี่ยว มีไก่ 6 ชิ้น ราคา 169 บาท Chicka Chicka อร่อยเป็นคู่ มีไก่ 12 ชิ้น ราคา 289 บาท และ Chicka Chicka Chicka อร่อยกัน มันส์เป็นทีม มีไก่ 18 ชิ้น ราคา 389 บาท ในส่วนของซอสชวนลูกค้ามาลิ้มลองสงครามรสชาติที่ยกทัพมาทั้งหมด 7รสชาติให้เลือกจุใจ อาทิ 1.) วิมปี้ (Wimpy) รสชาติกระเทียมหอมๆ 2.) ฮันนี่บูม (Honey Boom) รสชาติหวานกลมกล่อมของน้ำผึ้ง เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี 3.) สโมคกี้ บอมบ์ (Smoky Bomb) กลิ่นรมควันหอมอบอวล 4.) ทรัฟเฟิล (Truffle) ซอสเห็ดทรัฟเฟิลหอมฟุ้งคลุ้งกระจาย 5.) บัฟฟาโล (Buffalo) รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อมสไตล์อเมริกัน 6.) อะตอมมิค (Atomic)
รสเผ็ดเข้มข้นผสมความหวานนิดๆ 7.) เซเว่น มิสซายล์ (7 Missiles) รสเผ็ดเข้มข้นที่สายแซ่บต้องโดน และปิดท้ายด้วยเครื่องเคียงที่ประกอบด้วย ข้าวเหนียว ข้าวอบเนยกระเทียม มันบด มันหวานฟราย นอกจากนี้ ยังมีของทานเล่นเมนูใหม่มากมายให้เลือกอร่อยได้แบบไม่ซ้ำใคร

ในขณะเดียวกัน เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ยังได้เดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแบรนด์ในรอบ 21 ปี ด้วยการแตกไลน์ร้าน “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซิกเนเจอร์” ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ที่ยังไม่มีใครทำ ซึ่งถูกพัฒนามาเพื่อกระตุ้นยอดขายการรับประทานอาหารแบบ ไดน์ อิน โดยเฉพาะ ด้วยการปรับเปลี่ยนและยกระดับเมนูอาหารใหม่ทั้งหมด ให้เป็นเมนูพรีเมี่ยม ภายใต้คอนเซ็ปต์ Good Food with Good Friends โดยคัดสรรและออกแบบเมนูอาหารฝรั่งให้มีความพิเศษขึ้น ด้วยการรวมตัวของทั้ง Pizza-Meat-Cheese อร่อยหลากหลายครบมื้อ พิถีพิถันตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ และการปรุงอาหารด้วยฝีมือขั้นสุด ซึ่งทุกจานปรุงสด ทำให้ได้รสชาติอร่อยกว่าที่เคยสัมผัส ขณะที่จุดแข็งของแบรนด์ยังคงเป็น พิซซ่า ไฮไลท์เด่นของ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซิกเนเจอร์” จึงเป็นการนำเอาพิซซ่ามาทำให้พิเศษยิ่งขึ้น ด้วยการใช้แป้งสูตรพิเศษ ที่ได้นำตำนานพิซซ่าชนิดแรกในประวัติศาสตร์โลกอย่างนาโปลีพิซซ่า (Napoli Pizza) มาให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับ โดยพิซซ่าชนิดนี้จะมีแป้งที่หอม บาง เนื้อนุ่มหนึบ ขอบมีฟองอากาศหรือ Bubble Crust และมีหน้าใหม่ให้เลือกได้จุใจถึง 17 หน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าอิตาเลี่ยนแท้ที่ต้องลองอย่าง พาร์มาแฮม บูราต้าชีส (ชีสสด) หรือ หน้าเห็ดทรัฟเฟิลที่เข้ากันได้ดีกับแป้งหอมๆ สไตล์นาโปลี และยังมีหน้าอื่นๆ ที่อร่อยลงตัวให้เลือกอีกมากมาย

นอกจากนี้ยังมีอีกไฮไลท์เด็ดอย่าง Signature Pasta Show ให้คุณได้สนุกเพลิดเพลินกับโชว์คลุกพาสต้าในชีสก้อนโต เมื่อสั่งเมนูสปาเกตตี้ครีมเห็ดทรัฟเฟิล ราคา 259 บาท หรือ คาโบนาร่า เบคอนยักษ์รมควัน ราคา 269 บาท สำหรับสายชอบทานผักก็ยังมี Signature Salad Show ครั้งแรกกับการคลุกสลัดสดๆโชว์พร้อมเสิร์ฟกันถึงโต๊ะ เมื่อสั่งเมนู ซีซาร์สลัด เบคอนยักษ์รมควัน ในราคา 259 บาท อีกทั้งยังมีเมนูอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาทั้งของคาว ของหวานให้ลูกค้าได้มีตัวเลือกมากขึ้น รวมถึงการปรับโฉมและตกแต่งร้านในบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกสบายๆ ทำให้ลูกค้าอยากใช้เวลาร่วมกับคนพิเศษ ไม่ว่าจะสังสรรค์กับเพื่อนหรือครอบครัวโดยสามารถนั่งทานในร้านได้นานขึ้น และอยากกลับมาทานอาหารที่ร้านซ้ำอีกเรื่อยๆ สำหรับความพิเศษของเมนูทั้งหมดนี้ รวมถึงเมนูไก่ทอด “ชิค-อะ-บูม” สามารถมาลิ้มลองความอร่อยที่ร้านได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉพาะที่ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซิกเนเจอร์” สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ชั้น 4 โซนกลางศูนย์ฯ เท่านั้น

“หลังจากประเทศไทยได้เริ่มคลายล็อกดาวน์ พฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่มองหาการกลับมารับประทานอาหาร ที่ร้านมากขึ้น “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซิกเนเจอร์” จึงเป็นอีกตัวเลือกที่จะมาตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตรงจุด และสอดรับกับ กลยุทธ์การตลาดที่ต้องการกระตุ้นยอดขายจากการทานอาหารแบบ ไดน์ อิน ให้มากขึ้น และหากได้รับการตอบรับที่ดีมีแผน ที่จะขยายธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ยังคงมุ่งเน้นเดลิเวอรี่ควบคู่กันไป เนื่องจากมีสัดส่วนการขายที่ใหญ่สุดในประเทศไทย โดยจะมีการพัฒนาเมนูใหม่ออกมาให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หลังจากเปิดตัวแบรนด์ไก่ทอด “ชิค-อะ-บูม” และ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซิกเนเจอร์” คาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีและมียอดการเข้ามาใช้บริการสูงขึ้นโดยเฉพาะช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เหมาะกับการมารับประทานอาหารที่ร้านในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุข สนุกสนาน โดยคาดการณ์ว่ายอดขายจากการทานอาหารแบบ ไดน์ อิน จะสามารถเติบโตอยู่ที่
10-15%” นายภาณุศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย