Nio เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ “ET5” และแว่นตา AR สำหรับช่วยขับรถได้ดียิ่งขึ้น
20 ธ.ค. 2021
ล่าสุด Nio ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจีน ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าซีดานรุ่นใหม่ ที่ชื่อรุ่นว่า “ET5”
ซึ่งตัวรถมีอัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที, มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
และวิ่งได้ไกลสูงสุด 550 กม./ชาร์จ (สำหรับรุ่นเริ่มต้น)
ซึ่งตัวรถมีอัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที, มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
และวิ่งได้ไกลสูงสุด 550 กม./ชาร์จ (สำหรับรุ่นเริ่มต้น)
พร้อมกับแว่นตา AR ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ขับขี่ โฟกัสกับเส้นทางตรงหน้า โดยที่ไม่ต้องหันไปมองจอสกรีนได้
ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยี AR มาใช้กับรถยนต์ จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ยังสามารถมองเส้นทางข้างหน้า ในขณะที่ก็มีฟังก์ชันบนรถยนต์ในรูปแบบ AR ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการขับขี่ โดยไม่ต้องเหลียวมองจอสกรีนที่อยู่ตรงกลาง นั่นเอง
ทาง Nio กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับสตาร์ตอัป Nreal ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี AR โดยเฉพาะ
ในการสร้างแว่นตา AR ที่จะสามารถใช้งานร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ของ Nio รวมถึง ET5
ในการสร้างแว่นตา AR ที่จะสามารถใช้งานร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ของ Nio รวมถึง ET5
โดยรถยนต์ซีดานรุ่น ET5 มีกำหนดการณ์ส่งมอบในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2022
ซึ่งมีราคาจองล่วงหน้าเริ่มต้นที่ 328,000 หยวน หรือราว ๆ 1.7 ล้านบาท (ราคาที่ไม่รวมแว่นตา AR)
ซึ่งมีราคาจองล่วงหน้าเริ่มต้นที่ 328,000 หยวน หรือราว ๆ 1.7 ล้านบาท (ราคาที่ไม่รวมแว่นตา AR)
อย่างไรก็ดี รถยนต์รุ่น ET5 นับเป็นรถยนต์ซีดานรุ่นที่ 2 ของ Nio ต่อจากรุ่น ET7 ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 2.3 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดส่งมอบรถในเดือนมีนาคม ปีหน้า
สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าซีดานในจีน นอกจาก Nio แล้ว ก็จะมีผู้เล่นในตลาดอย่าง Tesla, BYD, Xpeng และอื่น ๆ ที่ได้ขายและเริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าซีดานไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนทางด้าน Nio นอกจากรถยนต์ซีดานที่มีกำหนดส่งมอบปีหน้า
ทางบริษัทยังมีรถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่น ES6 และ EC6 ซึ่งเป็นรุ่นที่ทางบริษัทระบุว่าเป็นหนึ่งใน 10 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เปิดจำหน่ายในปีนี้
ทางบริษัทยังมีรถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่น ES6 และ EC6 ซึ่งเป็นรุ่นที่ทางบริษัทระบุว่าเป็นหนึ่งใน 10 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เปิดจำหน่ายในปีนี้
รวมถึงปีหน้า ทางบริษัทก็มีแผนที่จะบุกตลาดยุโรป อาทิ เนเธอร์แลนด์, สวีเดน และเดนมาร์ก
และภายในปี ค.ศ. 2025 จะบุกตลาดกว่า 25 ประเทศ/ภูมิภาค อีกด้วย
และภายในปี ค.ศ. 2025 จะบุกตลาดกว่า 25 ประเทศ/ภูมิภาค อีกด้วย
นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งมิติในวงการยานยนต์ ที่นับว่าได้สร้างความแปลกใหม่ ด้วยการเปิดตัวมาพร้อมกับแว่นตา AR
ซึ่งก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าในการใช้จริง จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ได้มากเพียงใด..
ซึ่งก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าในการใช้จริง จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ได้มากเพียงใด..