ตลาดน้ำแร่ ต้องแบรนด์แข็งแกร่งกว่า น้ำดื่มธรรมดา

ตลาดน้ำดื่มธรรมดา อาจมีผู้บริโภคหลายคน ไม่ค่อยสนใจแบรนด์มากเท่าไร

ขอให้เป็นน้ำดื่มที่รู้สึกว่าสะอาด มีแบรนด์เชื่อถือได้ ก็พร้อมพูดว่าซื้อ “น้ำเปล่าขวดหนึ่ง”
โดยคนขายอาจหยิบแบรนด์อะไรให้เราก็ได้

ผิดกลับตลาด “น้ำแร่” ที่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
เพราะนี้คือ “น้ำดื่ม” ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เวลาซื้อจะเจาะจงเรียกชื่อแบรนด์ที่ตัวเองต้องการ
เพราะเชื่อว่าน้ำแร่มีประโยชน์ต่อสุขภาพตัวเอง

เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ตลาดน้ำแร่ที่มีมูลค่า 4,765 ล้านบาท
แต่ละแบรนด์จึงพยายามสร้างคาแรคเตอร์ของตัวเองให้โดดเด่น

โดยเฉพาะการสื่อสารถึงแร่ธาตุต่างๆ ที่อยู่ในน้ำดื่มตัวเอง ซึ่งแต่ละรายก็สื่อสารแตกต่างกันออกไป

เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้สิงห์ที่เป็นผู้นำตลาดน้ำดื่ม 35,000 ล้านบาทมีส่วนแบ่งตลาด 21%

ก็ต้องการขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในตลาดน้ำแร่นี้ด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ความท้าท้ายของสิงห์ ที่มีแบรนด์ น้ำแร่เพอร์ร่า
ก็คือเพิ่งเข้าตลาดมา 8 ปี ขณะที่คู่แข่งอยู่ในตลาดมายาวนาน

โจทย์คือแล้ว เพอร์ร่า จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร เพื่อให้ตัวเอง “เด่น และ ต่าง”

คำตอบก็คือแทนที่จะเดินตามเหมือนน้ำแร่ขวดอื่นๆ ที่พูดถึงแร่ธาตุต่างๆ เพียงอย่างเดียว

น้ำแร่เพอร์ร่ากลับเลือกเป็น Fashion Brand ตัวจริง
ด้วยการสร้างสรรค์ขวดรุ่น Limited Collection ร่วมกับดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าของประเทศมาแล้วมากมายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับสื่อสารถึงการเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ 100%

และเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จในการทำขวดรุ่น Limited Collection ในปีนี้ น้ำแร่เพอร์ร่าก็ได้เปิดตัว “Limited Collection Autumn/Winter 2019”

ธิติพร ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอลล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด
เล่าว่า แผนการทำตลาดของเพอร์ร่าปีนี้ ยังคงมุ่งเน้นด้าน Emotional Benefits คู่ไปกับ Functional Benefits
ครอบคลุมการสื่อสารทั้งออนไลน์และออฟไลน์

เพื่อสร้างการรับรู้และความชื่นชอบในแบรนด์เพอร์ร่าให้มากขึ้น รวมถึงขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุมผู้บริโภค โดยเฉพาะในร้านอาหารต่างๆ

ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดน้ำแร่ในเมืองไทยมูลค่า 4,765 ล้านบาท

อันดับ 1 มิเนเร่ ของ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ส่วนแบ่ง 26 %

อันดับ 2 เพอร์ร่า ของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ส่วนแบ่ง 23%

อันดับ 3 ออร่า ของ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ส่วนแบ่ง 17%

อันดับ 4 มองเฟลอร์ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ส่วนแบ่ง 16%

ทีนี้โจทย์ของน้ำแร่ เพอร์ร่า ในมือของ สิงห์ ก็คือการขยับแซงหน้าขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทนที่ มิเนเร่

เพราะเป้าหมายของสิงห์ คือต้องการเป็นเบอร์หนึ่งแบบเบ็ดเสร็จไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มธรรมดา หรือน้ำแร่ ก็ตามที