The Coffee Club ปรับจุดยืน สู่ร้านคาเฟ่ที่มีอาหารครบครัน ทานได้ทั้งวัน

รู้หรือไม่ เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) คือร้านกาแฟสัญชาติออสเตรเลีย ที่อยู่ในเครือไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป โดยถือหุ้นอยู่ 70% ด้วยกัน

ปัจจุบัน เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีสาขาอยู่ทั้งหมด 459 สาขา กระจายอยู่ 10 ประเทศทั่วโลก เช่น ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ไทย, จีน, เวียดนาม และอินโดนีเชีย

โดยชื่อเสียงของ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในวงกว้างของชาวต่างชาติ นี่จึงเป็นเหตุผลให้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ในประเทศไทย ตั้งสาขาในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตกว่า 5 สาขา

แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้แบรนด์ต้องหันกลับมาทบกวนกลยุทธ์ของตัวเอง และโฟกัสกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น

บวกกับ Pain Point หลัก ที่สำหรับคนไทยยังมองว่า ภาพจำของ เดอะ คอฟฟี่ คลับ คือร้านกาแฟ ที่ขายเฉพาะกาแฟเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้ว คือร้านกาแฟ ที่มีเมนูอาหารรองรับลูกค้าได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้า-เย็น

เมื่อโจทย์คือการขยายกลุ่มลูกค้าคนไทย ไปพร้อม ๆ กับการลบภาพจำเดิม และสร้างการรับรู้ของแบรนด์ในมุมใหม่

หน้าที่ความรับผิดชอบจึงตกมาสู่ คุณจุ๊บ-นงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ผู้บริหารหญิงมือทอง ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการทำงานให้กับกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ โดยหลัก ๆ คือ แบรนด์ซิซซ์เล่อร์

ซึ่งจุดแข็งของแบรนด์ เดอะ คอฟฟี่ คลับ คุณนงชนก มองว่ามีค่อนข้างครบ นั่นคือ เมนูอาหารที่หลากหลาย, สไตล์การตกแต่งร้านที่เน้นความอบอุ่นเป็นกันเอง, โลเคชันเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า และการบริการของพนักงานที่ดีเยี่ยม

แต่สิ่งที่จะต้องเพิ่มเติม คือการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าคนไทย ให้เปิดใจและเข้ามาใช้บริการ บวกกับการลบภาพจำเดิม ๆ ให้ลูกค้าทุกคนรับรู้ว่า เดอะ คอฟฟี่ คลับ คือร้านคาเฟ่ ที่มีอาหารครบครัน และสามารถทานได้ทั้งวันตั้งแต่เช้า-เย็น

นอกจากนั้น คุณนงชนก ยังเตรียมสร้างความแปลกใหม่ให้กับแบรนด์ โดยสิ้นปีนี้กำหนดจัดแคมเปญเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลแห่งความสุข ด้วยการเปิดตัวเซตอาหารสุดพิเศษ ได้แก่ เมนูเฟสทีฟ (Festive Menu) ที่ประกอบไปด้วย

1) อาหารจานหลัก เช่น

- อกไก่ย่างราดซอสพริกไทยทรัฟเฟิล (Grill Chicken with Pepper Truffle Sauce)
- พอร์คชอปซอสบัลซามิก (Balsamic Glaze Pork Chop)
- แซลมอน เวลลิงตัน (Salmon Wellington)
- สเต๊กปลาแซลมอนซอสครีมและผักโขม (Creamy Spinach Salmon)
- สเต๊กแซลมอน โรยอัลมอนด์บด ราดซอสเพสโต้ เสิร์ฟพร้อมเบคอนผัด และกะหล่ำดาว (Almond Crusted Salmon Pesto and Sauteed Bacon & Brussels Sprouts)

2) อาหารทานเล่น เช่น

- แฟลท กริล์ล ซีซาร์ไก่และเบคอน เสิร์ฟพร้อมผักสลัด (Flat Grill Chicken Bacon Caesar)
- แฟลท กริล์ล เห็ดทรัฟเฟิล เสิร์ฟพร้อมผักสลัด (Flat Grill Mushroom Truffle)
- คลับแซนวิชไก่และเบคอน เสิร์ฟพร้อมเฟรนซ์ฟรายส์ (Chicken & Bacon Club Sandwich)

3) เครื่องดื่มและขนมหวาน เช่น

- ช็อกโกแลตครีมปั่น (Chocolate Cream Frappe)
- ไวท์ ช็อกโกแลตปั่น (White Chocolate Frappe)
- ชาเขียวปั่น (Matcha Green Tea Frappe)
- แครอทเค้ก เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม (Carrot Cake with Ice Cream)
- ช็อกโกแลต ลาวา (Chocolate Lava)
- คริสต์มาส คัพเค้ก (Christmas Cupcake)

นอกจากแคมเปญต้อนรับช่วงเทศกาลแห่งความสุขแล้ว เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังตอกย้ำความเป็นร้านกาแฟแบบออลเดย์ไดนิง สัญชาติออสเตรเลีย หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า ร้านกาแฟที่ทานได้ทั้งวัน

ด้วยการเสิร์ฟเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย สำหรับลูกค้าทุกคนตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ไม่ว่าจะเป็น ออลเดย์เบรคฟาสต์, แซนวิช, พาสต้า, สลัด, สเต๊ก, เบเกอรี่ รวมไปถึงเมนูกาแฟซิกเนเชอร์เบลนด์ระดับโลก

พิเศษสุด เดอะ คอฟฟี่ คลับ เอาใจคนชอบดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำสุดโรแมนติก ด้วยการเพิ่มความพิเศษสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้ พบกับเมนูดินเนอร์เซตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่มาพร้อมไฮไลต์การเฉลิมฉลองที่พลาดไม่ได้ ซึ่งจะจัดขึ้นเฉพาะที่สาขาท่ามหาราช และสาขาริเวอร์ซิตี้เท่านั้น

ทั้งนี้หลังจากการผ่อนคลายของสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมาพบว่า ภาพรวมการเติบโตของ เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีแนวโน้มดีขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยได้มากขึ้น

โดยตั้งเป้ากลุ่มลูกค้าคนไทยไว้ที่ 50% และลูกค้าต่างชาติอยู่ที่ 50% ผ่านการให้บริการ ทั้งการนั่งรับประทานที่ร้าน, สั่งกลับบ้าน และดิลิเวอรี ตลอดจนบริการจัดเลี้ยง (Catering) ที่ได้เพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์และขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้นอีกด้วย

ปัจจุบัน เดอะ คอฟฟี่ คลับ เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ 100% ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมกว่า 30 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ ครอบคลุมทั้งในบริเวณย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ เช่น ทองหล่อ, ราชประสงค์, วิทยุ, เอกมัย, สีลม, สุขุมวิท
และในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น จังหวัดภูเก็ต, พัทยา, กระบี่, เชียงใหม่, หัวหิน และเกาะสมุย