DiDi แอปเรียกแท็กซี่จากจีน จะเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก และไปเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง แทน
3 ธ.ค. 2021
ล่าสุด DiDi แอปฯ เรียกรถและแท็กซี่ยักษ์ใหญ่จากจีน ได้ออกมาประกาศว่า จะทำการเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เพื่อนำบริษัทไปเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงแทน
เดิมที DiDi ได้เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ด้วยมูลค่าบริษัท 67,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,284,000 ล้านบาท
ด้วยมูลค่าบริษัท 67,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,284,000 ล้านบาท
ซึ่งนับตั้งแต่เข้า IPO มาจนถึงวันนี้ ราคาหุ้นของ DiDi ได้ร่วงลงกว่า 44% และปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 1,274,000 ล้านบาท
โดยการเพิกถอนหุ้นดังกล่าว ทางบริษัทกล่าวว่าได้ตัดสินใจและพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว
ทั้งนี้ บริษัท DiDi เป็นผู้ให้บริการแอปฯ เรียกรถแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ซึ่งบริษัทมีการเก็บข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับเส้นทางการเดินรถในประเทศ, ข้อมูลการเดินทางของผู้ใช้งาน และข้อมูลอันมีค่าอื่น ๆ
ซึ่งสาเหตุของการตัดสินใจเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
ก็มาจากการแรงกดดันจากรัฐบาลจีน และหน่วยงานกำกับดูแลของจีน ที่ได้ขอให้ DiDi จัดทำแผนการเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เพื่อให้พ้นเงื้อมมือจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ
ก็มาจากการแรงกดดันจากรัฐบาลจีน และหน่วยงานกำกับดูแลของจีน ที่ได้ขอให้ DiDi จัดทำแผนการเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เพื่อให้พ้นเงื้อมมือจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ
โดยให้เหตุผลเรื่องความกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของบริษัท เช่น ข้อมูลของผู้ใช้งานชาวจีนและคนขับรถ, ประวัติส่วนตัว, เบอร์มือถือ, ข้อมูล Map, ภาพจากกล้อง, สถานที่ราชการ ฯลฯ
ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า DiDi ดึงดันในการเข้า IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยไม่แก้ไขปัญหาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นปัญหา ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลของจีนต้องการที่จะแก้ไขให้แล้วเสร็จก่อน
อย่างไรก็ดี การเพิกถอนหุ้นครั้งนี้ ได้สร้างผลกระทบอย่างหนักให้กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง SoftBank และ Uber โดยทั้งสองบริษัทได้ถือหุ้นใน DiDi รวมกันมากกว่า 30%
ทำให้ราคาหุ้นของ SoftBank ในญี่ปุ่น ร่วงลง 2.5% ในวันนี้
ทำให้ราคาหุ้นของ SoftBank ในญี่ปุ่น ร่วงลง 2.5% ในวันนี้
ทางคุณ Aaron Costello หัวหน้า Cambridge Associates ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า
“เขาคิดว่าจีนได้แสดงออกอย่างชัดเจน ว่าพวกเขาไม่ต้องการให้บริษัทเทคโนโลยีจีน เข้ามาอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อีกต่อไป เพราะมันทำให้พวกเขาอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ
“เขาคิดว่าจีนได้แสดงออกอย่างชัดเจน ว่าพวกเขาไม่ต้องการให้บริษัทเทคโนโลยีจีน เข้ามาอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อีกต่อไป เพราะมันทำให้พวกเขาอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ
ดังนั้น บริษัทเทคโนโลยีที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด อาจจะต้องทำการจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นใหม่ ไม่ว่าจะในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หรือในจีนแผ่นดินใหญ่ เองก็ตาม
ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นหนึ่งในแผนการของรัฐบาลจีน เพราะว่ารัฐบาลจีนอาจจะรู้สึกไม่ปลอดภัย
ที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ สามารถใช้อำนาจในการเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทเทคโนโลยีจีนได้”
ที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ สามารถใช้อำนาจในการเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทเทคโนโลยีจีนได้”
และอย่างที่รู้ ๆ กันดีว่า จีนได้เข้าปราบปรามบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ภายในประเทศ ตลอดปีที่ผ่านมา
ถ้ายังจำกันได้ ที่เป็นข่าวใหญ่ว่าจีนได้ระงับการ IPO ของ Ant Group รวมไปถึงการออกกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อต่อต้านการผูกขาดสำหรับแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต และกฎหมายคุ้มครองข้อมูล
ซึ่งก็ทำให้บริษัทอีคอมเมิร์ซอย่าง Alibaba และบริษัทจัดส่งอาหาร Meituan ถูกปรับค่าปรับไป ในข้อหาผูกขาดการค้า
ถ้ายังจำกันได้ ที่เป็นข่าวใหญ่ว่าจีนได้ระงับการ IPO ของ Ant Group รวมไปถึงการออกกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อต่อต้านการผูกขาดสำหรับแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต และกฎหมายคุ้มครองข้อมูล
ซึ่งก็ทำให้บริษัทอีคอมเมิร์ซอย่าง Alibaba และบริษัทจัดส่งอาหาร Meituan ถูกปรับค่าปรับไป ในข้อหาผูกขาดการค้า
อาจตีความได้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือหนึ่งในแรงกดดันจากรัฐบาลจีน ที่ไม่ต้องการให้ข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยีในประเทศรั่วไหล และตกไปอยู่ในมือของคู่ปรับอย่าง สหรัฐฯ
อ้างอิง :
-https://www.cnbc.com/2021/12/03/didi-on-delisting-from-us-and-list-in-hong-kong.html
-https://edition.cnn.com/2021/12/02/investing/didi-ipo-delist-new-york-hong-kong-intl-hnk/index.html
-https://www.cnbc.com/2021/12/03/didi-on-delisting-from-us-and-list-in-hong-kong.html
-https://edition.cnn.com/2021/12/02/investing/didi-ipo-delist-new-york-hong-kong-intl-hnk/index.html
Tag:DiDi