‘ซิซซ์เล่อร์’ อัดแคมเปญเมนูฉลองเทศกาลแห่งความสุข พร้อมเพิ่มไลน์ของหวานใหม่ มั่นใจเป้ายอดขายปี 65 ฟื้นเทียบเท่าก่อนโควิด-19

ซิซซ์เล่อร์ พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษในการรับประทานอาหารในช่วงเทศกาลแห่งความสุขให้กับลูกค้าครบจบในมื้อเดียว เปิดตัวเมนูขนมหวานใหม่ล่าสุด ‘ไอศกรีมช็อคโกแลตมูส’ กับ ‘ไอศกรีมชีสโทสต์’  และ ‘ทาร์ตไข่ สไตล์มาเก๊า’ พร้อมการเปิดเมนูพิเศษรับเทศกาลวันพ่อ ได้แก่ ‘ล็อบสเตอร์ซอสไข่เค็ม พร้อมสปาเก็ตตีโอริโอ้’ และ‘สเต๊กปลาเทราต์’ และเมนูรับเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปี ได้แก่ ‘สเต๊กเนื้อพันเบคอน เสิร์ฟพร้อมกุ้งย่าง และซอสไวน์แดง’ ‘สเต๊กปลาเทราต์ ลุยสวน’ และ ‘สเต๊กไก่ซูวี พร้อมเบรดพุดดิ้ง และซอสไวน์แดง’ ในขณะเดียวกันกลยุทธ์ปี 2565 พร้อมลุยเตรียมเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 3 สาขา ตลอดจนตั้งเป้าการเติบโตตลอดปีจะกลับไปเทียบเท่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์มีสัดส่วนรายได้จากการนั่งรับประทานในร้าน คิดเป็น 80% ส่วนเดลิเวอรี่และสั่งกลับบ้าน คิดเป็น 20% 

นายกรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานของซิซซ์เล่อร์ในปี 2565ยังคงมีการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์หลักคือการคิดค้นและพัฒนาเมนูใหม่เฉลี่ยทุก ๆ 1 – 2 เดือนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อมอบความหลากหลายในการรับประทานอาหารให้กับผู้บริโภคควบคู่ไปกับสลัดบาร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมสร้างบรรยากาศของการนั่งรับประทานในร้าน (Dine-in) ที่เหมาะกับผู้บริโภคทุกกลุ่มอันเป็นจุดเด่นของซิซซ์เล่อร์มาโดยตลอด ในขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญกับเดลิเวอรี่ (Delivery) ที่ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจที่ช่วยสร้างรายได้ให้ซิซซ์เล่อร์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากผ่านการพัฒนาเมนูอาหารที่ให้ลูกค้าเลือกได้เองไม่ว่าจะเป็นสเต๊กหรือสลัดบาร์ รวมถึงการพัฒนาแพ็คเกจจิ้งสำหรับเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ ตลอดจนการพัฒนาและขยายโมเดลสั่งกลับบ้าน (Take Away) อย่างซิซซ์เล่อร์ทูโก (Sizzler to go) ทั้งการขยายพื้นที่บริการให้มากขึ้นครอบคลุมทั้งสถานีรถไฟฟ้า โรงพยาบาล ฯลฯ ตลอดจนบริการที่ต่อยอดเพิ่มเติมอย่างบริการจัดอาหารว่าง (Catering) ที่นำอาหารและเครื่องดื่มมีอยู่ในซิซซ์เล่อร์ทูโกมาทำเป็นรูปแบบชุดของว่าง (Snack Box) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันให้ครอบคลุมมากที่สุด

“พร้อมกันนี้ซิซซ์เล่อร์ยังได้ทยอยปรับโฉมใหม่ร้าน ที่มาพร้อมกับดีไซน์ของร้านด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการรับประทานอาหารของลูกค้า ประเดิมที่เดอะมอลล์ ท่าพระ เซ็นทรัล เวสต์เกต และฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ในส่วนการขยายสาขาได้เดินหน้ารุกพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เตรียมเปิดสาขาใหม่ที่ โรบินสัน สระบุรี โรบินสัน ฉะเชิงเทรา และโรบินสัน ศรีสมาน ควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชันทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2565 จะกลับไปเทียบเท่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์มีสัดส่วนรายได้จากการนั่งรับประทานในร้าน คิดเป็น 80% เดลิเวอรี่และสั่งกลับบ้าน คิดเป็น 20% ตามลำดับ” นายกรีฑากร กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นางนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ กล่าวว่า ช่วงปลายปีถือเป็นช่วงของเทศกาลมากมาย และยังเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของใครหลาย ๆ คน ซิซซ์เล่อร์ในฐานะร้านอาหารชั้นนำสำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย จึงได้คิดค้นและรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษในการรับประทานอาหารให้กับลูกค้าครบจบในมื้อเดียว โดยเชื่อมั่นว่าเมนูใหม่ทั้งหมดนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายได้และเสริมการเติบโตภาพรวมยอดขายให้ซิซซ์เล่อร์ได้เป็นอย่างดี สำหรับเมนูใหม่ของซิซซ์เล่อร์ในครั้งนี้มาพร้อมความพิเศษและลักษณะโดดเด่นแตกต่างกันไป ประกอบไปด้วย

· 2 เมนูขนมหวานใหม่ล่าสุด ได้แก่ไอศกรีมช็อคโกแลตมูส (Chocolate Mousse Ice Cream) และ ไอศกรีมชีสโทสต์ (Cheese Toast Ice cream) 2 ไอศกรีมรสชาติพิเศษสุดอร่อยที่ได้แรงบันดาลใจในการรังสรรค์รสชาติจากเมนูขึ้นชื่อของซิซซ์เล่อร์ในราคาเพียงถ้วยละ 49 บาท จากราคาปกติ 69 บาท รวมถึง ทาร์ตไข่ (Egg Tart) สไตล์มาเก๊า ทาร์ตไข่เนื้อเนียนนุ่ม รสชาติละมุนลิ้น อบใหม่หอม ๆ จากเตาทุกวัน จำนวน 2 ชิ้นในราคาสุดพิเศษเพียง 39 บาท จากราคาปกติ 60 บาท

· 2 เมนูพิเศษรับเทศกาลวันพ่อ “Happy Father’s Day” เริ่มต้นที่เมนู ล็อบสเตอร์ซอสไข่เค็ม พร้อมสปาเก็ตตีโอริโอ้ (Salted Egg Lobster & Spaghetti Olio) กุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ที่ถูกนำไปทอดกรอบ เพิ่มรสชาติเข้มข้นถึงใจด้วยซอสไข่เค็มสุดละมุน ทานคู่กับเส้นสปาเก็ตตีเส้นดำ ในราคา 799 บาท ส่วนใครไม่ชอบทานของทอดก็มีเมนู สเต๊กปลาเทราต์ (Grilled Trout in Roasted Garden Cherry Tomatoes) ปลาเทราต์ชิ้นใหญ่นำไปย่างร้อน ๆ ทานคู่กับมะเขือเทศเชอร์รี่และมันฝรั่ง ในราคา 555 บาท

· 3 เมนูเทศกาลเฉลิมฉลอง “Festive Season” ประกอบด้วยเมนู สเต๊กเนื้อพันเบคอน เสิร์ฟพร้อมกุ้งย่าง และซอสไวน์แดง (Beef Rossini & Shrimps) บีฟลอยน์ชิ้นโตนำเข้าจากออสเตรเลีย นำไปย่างร้อน ๆ พันด้วยเบคอน และกุ้งตัวใหญ่ เพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยซอสไวน์แดงสูตรเฉพาะของซิซซ์เล่อร์ พร้อมเสิร์ฟในราคา 699 บาท ตามมาด้วยเมนู สเต๊กปลาเทราต์ ลุยสวน (Battered Trout with Spicy Herb Salad) ปลาเทราต์ที่ถูกนำไปทอดกรอบและราดด้วยน้ำยำสไตล์ไทย ๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยหอมกรุ่น ในราคา 499 บาท และเมนู สเต๊กไก่ซูวี พร้อมเบรดพุดดิ้ง และซอสไวน์แดง (Christmas Sous Vide Chicken with Red Wine Sause) สะโพกน่องไก่ชิ้นใหญ่รสชาติเข้มข้นที่ถูกนำไปผ่านกรรมวิถีแบบซูวี เพิ่มรสชาติความอร่อยยิ่งขึ้นด้วยซอสไวน์แดงสูตรเฉพาะของซิซซ์เล่อร์ พร้อมทานคู่กับขนมปังอบสไตล์พุดดิ้งสุดเข้ากัน ในราคา 399 บาท

นอกจากนี้ยังมีการจัดแคมเปญส่งเสริมการตลาด อาทิ เมนูอาหารทานเล่นให้เลือกเพิ่มเติม ได้แก่ ยำไส้กรอกเยอรมัน (Mixed Sausages Spicy Salad) และยำขาหมูเยอรมัน (Pork Knuckle Spicy Salad) ในราคาจานละ 199 บาท รวมถึงรับไอศกรีมฟรี 1 ถ้วยทันทีเมื่อมียอดการรับประทานอาหารตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป หากยังไม่จุใจสามารถซื้อไอศกรีม 6 ถ้วย ราคา 294 บาท รับฟรีทันทีกระเป๋าเก็บความเย็นลาย SUNTUR มูลค่า 199 บาท เมื่อสั่งคู่กับสลัดบาร์หรืออาหารจานหลัก โดยทั้งหมดพร้อมเสิร์ฟความอร่อยที่มาพร้อมความสุขรับช่วงเวลาพิเศษที่ซิซซ์เล่อร์ทุกสาขา แบบเดลิเวอรี่ หรือสั่งกลับบ้าน ตั้งแต่วันที่1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ “ซิซซ์เล่อร์” โทรศัพท์ 02-365-6934 เฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/SizzlerThai หรือ www.sizzler.co.th