LINE เตรียมออกฟีเชอร์ VOOM มาแทน Timeline บุกตลาดวิดีโอสั้น
1 พ.ย. 2021
ล่าสุด LINE ได้เตรียมออกฟีเชอร์ “VOOM” มาแทนฟีเชอร์ Timeline ในเดือนพฤศจิกายน 2021 นี้
โดยฟีเชอร์ Timeline เดิม ก็คือปุ่มไอคอน ที่อยู่ตรงกลางแถบ Sticky Bar ด้านล่างของแอปฯ LINE
ซึ่งเป็นที่ที่เราสามารถเข้าไปดูความเคลื่อนไหวและโพสต์ต่าง ๆ ของเพื่อนเราได้
โดยฟีเชอร์ Timeline เดิม ก็คือปุ่มไอคอน ที่อยู่ตรงกลางแถบ Sticky Bar ด้านล่างของแอปฯ LINE
ซึ่งเป็นที่ที่เราสามารถเข้าไปดูความเคลื่อนไหวและโพสต์ต่าง ๆ ของเพื่อนเราได้
แต่ล่าสุดทาง LINE ก็ได้ประกาศทาง LINE Story ว่า
“เตรียมบอกลา LINE TIMELINE สู่ความสนุกครั้งใหม่ กับ LINE VOOM คอนเทนต์จัดเต็ม โดนใจทุกวิดีโอ
จะสายไหน เราจัดให้ สนุกได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ”
“เตรียมบอกลา LINE TIMELINE สู่ความสนุกครั้งใหม่ กับ LINE VOOM คอนเทนต์จัดเต็ม โดนใจทุกวิดีโอ
จะสายไหน เราจัดให้ สนุกได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ”
โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน นี้
ซึ่งฟีเชอร์ LINE VOOM ก็น่าจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับ TikTok ที่เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ซึ่งเราสามารถเลื่อนดูคอนเทนต์ไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อ เนื่องจากมีคอนเทนต์หลากหลายประเภท และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม จะคัดคอนเทนต์ที่คาดว่าเราจะถูกใจมาให้ดูแบบเพลิน ๆ
ซึ่งฟีเชอร์ LINE VOOM ก็น่าจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับ TikTok ที่เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ซึ่งเราสามารถเลื่อนดูคอนเทนต์ไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อ เนื่องจากมีคอนเทนต์หลากหลายประเภท และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม จะคัดคอนเทนต์ที่คาดว่าเราจะถูกใจมาให้ดูแบบเพลิน ๆ
รวมถึง เราสามารถสร้างคอนเทนต์ของตัวเองลงไปได้ พร้อมกับสามารถกดติดตามผู้สร้างคอนเทนต์ที่ชื่นชอบได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนกันในแอปฯ LINE แต่อย่างใด
จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมา เจ้าของแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น YouTube, Instagram ก็ได้มีการออกฟีเชอร์วิดีโอสั้นของตัวเอง หลังจากเห็นความสำเร็จของ TikTok
หรือเมื่อไม่นานมานี้ Facebook เอง ก็เพิ่งได้ออก Facebook Reels ที่สามารถลิงก์กับ Instagram Reels ได้ด้วย ซึ่งก็มีลักษณะเป็นการสร้างคอนเทนต์ประเภทวิดีโอสั้นเช่นกัน
หรือเมื่อไม่นานมานี้ Facebook เอง ก็เพิ่งได้ออก Facebook Reels ที่สามารถลิงก์กับ Instagram Reels ได้ด้วย ซึ่งก็มีลักษณะเป็นการสร้างคอนเทนต์ประเภทวิดีโอสั้นเช่นกัน
และมาวันนี้ ก็ยังมีแอปฯ แช็ตอย่าง LINE ที่คนไทยนิยมใช้สื่อสารกันเป็นอันดับแรก ๆ ในการยกฟีเชอร์วิดีโอสั้น มานำเสนอให้กับผู้ใช้งาน ให้จบ ครบ ในแอปฯ เดียว อีกด้วย
จากเรื่องนี้ ทำให้เราเห็นได้ชัดเลยว่า ตอนนี้สมรภูมิการแข่งขัน “คอนเทนต์วิดีโอสั้น” ที่มี TikTok เป็นผู้นำตลาดนั้น ดุเดือดจริง ๆ เพราะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ต่างก็แข่งกัน “แย่งเวลา” ของผู้คนให้ได้มากที่สุด
และยิ่งมีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มมากเท่าไร ก็ยิ่งมีข้อมูลมากเท่านั้น
เนื่องจากในยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Driven) ใครที่รู้จักผู้บริโภคมากกว่า ก็ย่อมเป็นผู้ที่ได้เปรียบมากกว่า
เนื่องจากในยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Driven) ใครที่รู้จักผู้บริโภคมากกว่า ก็ย่อมเป็นผู้ที่ได้เปรียบมากกว่า
เพราะว่า ข้อมูลจากการใช้งาน, เสพคอนเทนต์ และต่าง ๆ
สามารถนำมาวิเคราะห์และประมวลผล จนบ่งชี้ว่า “ใคร ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร”
เพื่อนำเสนอคอนเทนต์, โฆษณา, สินค้าและบริการ ที่ตอบโจทย์และโดนใจผู้ใช้งาน จนพวกเขารู้สึกอยากเล่นและอยู่กับแพลตฟอร์มนั้น ๆ นานขึ้น
ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะทำให้ได้ข้อมูลที่มากขึ้น เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจในมิติต่าง ๆ นั่นเอง
สามารถนำมาวิเคราะห์และประมวลผล จนบ่งชี้ว่า “ใคร ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร”
เพื่อนำเสนอคอนเทนต์, โฆษณา, สินค้าและบริการ ที่ตอบโจทย์และโดนใจผู้ใช้งาน จนพวกเขารู้สึกอยากเล่นและอยู่กับแพลตฟอร์มนั้น ๆ นานขึ้น
ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะทำให้ได้ข้อมูลที่มากขึ้น เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจในมิติต่าง ๆ นั่นเอง