รถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat มียอดจองกว่า 4,296 คัน หลังเปิดจองเพียง 24 ชม. แรก

ค่ายรถยนต์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาตีตลาดในไทยได้ไม่นาน อย่าง Great Wall Motor ได้เปิดการจองสิทธิ์ลงทะเบียนในแคมเปญ ORA Good Cat ULTRA DEAL เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม เวลา 00.01 น. ที่ผ่านมา

ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในแคมเปญ ORA Good Cat ULTRA DEAL จะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ รวมมูลค่าสูงถึง 220,000 บาท ตัวอย่างสิทธิพิเศษ อาทิ
ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือน และฟรี ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นเวลา 1 ปี, โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมการติดตั้ง (ไม่รวมแท่นชาร์จ), ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM Ultra Service Inclusive) เป็นต้น

โดยภายใน 24 ชั่วโมงแรก พบว่ามียอดจองสิทธิ์ในแคมเปญนี้ถึง 4,296 สิทธิ์ ถึงแม้ว่าทางค่ายจะยังไม่ได้ประกาศราคาของรถด้วยซ้ำไป..

แต่ทางบริษัทได้เปิดเผยว่า จะประกาศเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วันที่ 29 ตุลาคม 2564 นี้

นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งมิติแห่งวงการยานยนต์ ที่ถึงแม้ว่าทางบริษัทจะยังไม่ได้ประกาศราคา แต่กลับมีการเข้าจองที่ล้นหลามขนาดนี้

สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า EV ขนาดเล็กกระทัดรัด และความนิยมใน ORA Good Cat
รวมถึงกระแสความสนใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่คาดการณ์ราคากันว่า น่าจะไม่แรงมากอีกด้วย

ซึ่งบางคนก็คาดกันว่า ORA Good Cat อาจมีราคาอยู่ที่ประมาณ 8 แสน - 1 ล้านบาท
แต่ราคาจริงที่จะเปิดเผยออกมา จะเป็นอย่างไร เราคงต้องลุ้นกันในวันจริง..

ทั้งนี้ ORA Good Cat ที่จะเปิดตัวในวันที่ 29 ตุลาคม นี้ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่

1) ORA Good Cat 400 TECH
มี 2 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black) และ สีขาว (Hamilton White)

2) ORA Good Cat 400 PRO
มี 5 สี ได้แก่ ตัวรถสีแดงพร้อมหลังคาสีดำ (Mars Red with Black Roof), ตัวรถสีขาวพร้อมหลังคาสีดำ (Hamilton White with Black Roof), สีฟ้า (Coral Blue), สีดำ (Sun Black) และสีขาว (Hamilton White)

3) ORA Good Cat 500 ULTRA
มี 7 สี ได้แก่ ตัวรถสีเขียวพร้อมหลังคาสีขาว (Verdant Green with Hamilton White Roof), ตัวรถสีเบจพร้อมหลังคาสีน้ำตาล (Hazel Wood Beige with Wisdom Brown Roof), ตัวรถสีแดงพร้อมหลังคาสีดำ (Mars Red with Black Roof), ตัวรถสีขาวพร้อมหลังคาสีดำ (Hamilton White with Black Roof), สีฟ้า (Coral Blue), สีดำ (Sun Black) และสีขาว (Hamilton White)

ซึ่งรถยนต์ ORA Good Cat นี้ มากับฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions) ที่ใส่มาอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่แบบจัดเต็ม อาทิ

-การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA)
-การตอบโต้ด้วยเสียงอัจฉริยะผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence)
-ฟังก์ชันการเข้าถึงข้อมูลแบตเตอรี่รถไฟฟ้า เช่น ระบบตรวจสอบสถานะปริมาณแบตเตอรี่
-ฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถสั่งการและควบคุมได้จากระยะไกล
-ระบบความบันเทิงแบบมัลติมีเดีย รองรับ Apple CarPlay, Android Auto และ Google Assistant
-ระบบนำทางอัจฉริยะ

ส่วนในด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ มาพร้อมกับอัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที
และสามารถวิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุด 152 กิโลเมตร/ชั่วโมง

มาพร้อมกับระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ แบบมาตรฐาน, แบบ Sport, แบบ ECO,แบบ ECO+ และแบบอัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ

นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยอีกมากมาย อาทิ การเบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ICA), ระบบช่วยควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในเลน (LKA), การเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent Turn), ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS), ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IAP), กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา และระบบอื่น ๆ