AWC เผยโครงการระดับ Iconic แห่งใหม่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา, ไชน่าทาวน์ และพัทยา

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เพิ่งได้ประกาศครบรอบ 2 ปีในการจดเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา

โดยนางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ถือโอกาสนี้ ในการประกาศถึง 3 โปรเจกต์ระดับ Iconic ที่สำคัญ
ซึ่งจะสร้างปรากฏการณ์ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย โดยมีกลยุทธ์ในการดึงบริษัทที่เป็นพันธมิตรระดับโลก มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับ 3 โครงการนี้ด้วย

-โครงการแรก ASIATIQUE The Riverfront Destination ตึกสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เป็นโครงการระดับ Iconic Landmark แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่มีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรม

ประกอบด้วย โรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ, โรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ รวมถึง ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ ซึ่งเป็น Branded Residence เป็นคอนโดพักอาศัยที่มีบริการระดับ 5 ดาว ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้การบริหารของเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล

โดยขณะนี้พันธมิตรอย่างบริษัท Adrian Smith + Gordon Gill Architecture หรือ AS+GG ผู้ออกแบบตึกสูงระฟ้าระดับโลก อย่างตึก Burj Khalifa ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
กำลังทำงานร่วมกับพนักงานกว่า 50 คนของบริษัท เพื่อร่วมออกแบบตึกสูงของเอเชียทีคฯ
ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาออกแบบประมาณ 2 ปี และน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 9 ปีนับจากนี้ หรือราวปี 2572

ขณะที่โซนอื่น ๆ ของเอเชียทีคฯ จะสร้างส่วนขยายของโซนพื้นที่ค้าปลีกเพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 ปีนี้

นอกจากนี้ ยังเตรียมขึ้นโรงแรมใหม่อีกแห่ง ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนเจริญกรุง โดยใช้แบรนด์โรงแรม ออโตกราฟ คอลเลคชั่น ในเครือแมริออทฯ เช่นกัน

-โครงการที่ 2 “AQUATIQUE DISTRICT PATTAYA” โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองพัทยา

ประกอบไปด้วยแหล่งช็อปปิง, ท่องเที่ยว, โรงแรมหรู 5 แบรนด์, คอนโดพักอาศัยแบบ Branded Residence อีก 2 แบรนด์ และพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ด้าน Wellness หรือด้านสุขภาพ เพื่อช่วยส่งเสริมให้พัทยาเป็นจุดหมายปลายทาง ของชายหาดยอดนิยมระดับโลก

-โครงการที่ 3 “เวิ้งนครเขษม” ซึ่งพัฒนาให้เป็นโครงการพิเศษแบบ Mixed Development ที่มีทั้งโรงแรม, ที่อยู่อาศัย และพื้นที่ค้าปลีกใต้ดิน ด้วยงบการลงทุนกว่า 16,000 ล้านบาท

โดยโครงการนี้ ถูกออกแบบด้วยการดึงเสน่ห์และอนุรักษ์ความเป็นไชน่าทาวน์ ให้คงความเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และถนนแห่งความบันเทิง เพื่อตอบโจทย์การสร้างจุดหมายปลายทางที่สามารถดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้

ทั้งหมดนี้ ก็คือโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจาก AWC ซึ่งถ้าหากสร้างเสร็จแล้ว
นอกจากจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศไทยแล้ว ยังช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ในอนาคตให้กับประเทศอีกด้วย

อ้างอิง :
-https://www.assetworldcorp/-th.com/th/newsroom/news-activities/383/awc-infinite-2gether-2nd-anniversary