เจาะเคล็ดวิชาตัวเบาสไตล์ คุณต่อ Penguin Eat Shabu พาร้านชาบูให้รอดในยุคโควิด

ในขณะที่คนทั้งโลก พร้อมใจฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด
แล้วสำหรับผู้ประกอบการที่อยากสร้างภูมิคุ้มกันธุรกิจและเอาตัวรอดจากวิกฤติ ต้องใช้วัคซีนตรงไหน ?

อย่าลืมว่า วิกฤติโรคระบาดครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีคาดคิด ต่อให้ไปดูในตำราเล่มไหนก็ไม่มีสอน
ดังนั้น ถ้าอยากมองหาภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจรอด
หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจ คือ การฉีดวัคซีน ที่ตกผลึกจากประสบการณ์จริงของเจ้าของธุรกิจที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล

งานนี้ไม่ต้องไปกดจองคิว เพราะ คุณต่อ - ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี แห่ง Penguin Eat Shabu ร้านชาบูบุฟเฟต์ชื่อดัง มาร่วมแชร์ไอเดียดี ๆ ในงานสัมมนาออนไลน์ “Think for Growth : SME ยุควิกฤติโควิด 19...ทำอย่างไรให้รอด”
ซึ่งจัดโดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร 7-Eleven และ 7-Delivery

คุณต่อ บอกว่า ไม้ตายของผู้ประกอบการยุคนี้ คือ วิชาตัวเบา หรือ การลีน (Lean) เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
ด้วยการหาจุดคุ้มทุนที่รายได้เท่ากับรายจ่ายต่อเดือนและบริหารกระแสเงินสดให้ดี
เช่น ทำบัญชีตรวจสอบกระแสเงินสดเป็นประจำ, ผ่อนผันกับซัปพลายเออร์, สร้างรายได้หลายช่องทาง และหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม

นอกจากนี้ยังต้องประเมินสถานการณ์จากกระแสเงินสด โดยเฉพาะธุรกิจที่ยังประสบปัญหาขาดทุนอยู่

หากมีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการใช้จ่ายได้ 3 เดือน ควรหยุดดำเนินธุรกิจเพื่อรักษากระแสเงินสดที่เหลือ แล้วหาช่องทางเตรียมตัวทำธุรกิจใหม่

แต่หากยังมีกระแสเงินสดเพียงพอถึง 6 เดือน ควรเตรียมแผนสำรอง รองรับความไม่แน่นอน เช่น มาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ต้องปิดร้าน ทำให้สภาพคล่องลดลง

ขณะที่ธุรกิจที่ยังสร้างกำไรได้ และมีกระแสเงินสดเพียงพออย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป ยังต้องปรับกลยุทธ์ต่อเนื่อง, ขยายช่องทางขายใหม่, เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่, ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงเตรียมแผนสำรองในการทำธุรกิจใหม่ล่วงหน้า

พร้อมกันนี้ คุณต่อ ยังเฉลยถึง 6 หลักสำคัญที่ทำให้ร้าน Penguin Eat Shabu ยังยืนหยัดได้แม้เจอวิกฤติได้อย่างน่าสนใจ

1.อย่ามัวขายในสิ่งที่มี แต่ให้ขายในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ

เช่น การจัดแคมเปญขายชาบู แถมหม้อ เพื่อให้ลูกค้าสามารถรับประทานชาบูที่บ้านได้ เป็นการตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไป

2.อยากเป็นที่จดจำ ต้องอย่าทำเหมือนคนอื่น

นอกเหนือจากความอร่อย ซึ่งเป็นหัวใจของร้านอาหารแล้ว
การทำอะไรที่แตกต่างกับตลาด ถึงแม้อาจไม่ได้ประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขาย
แต่สิ่งที่ได้แน่นอน คือ การช่วยดึงความสนใจจากตลาดมาได้
พูดง่าย ๆ อย่างน้อยก็ทำให้แบรนด์ของเราอยู่ท่ามกลางสปอร์ตไลต์

3.อยากให้คนไม่ลืม ต้องตะโกนตลอดเวลา

เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการมีวินัยในการลงคอนเทนต์เป็นประจำ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับรู้และซื้อสินค้า
เพราะในวันที่ใคร ๆ ก็ทำตลาดออนไลน์ ถ้ามัวแต่ยุ่งอยู่กับหน้าร้าน และปล่อยให้เพจของร้านนิ่งไปนาน ๆ ขณะที่คู่แข่งกลับสร้าง Engage พูดคุยกับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา แถมยังมีโปรโมชันดึงดูดอีก
ไม่นานลูกค้าก็จะเปลี่ยนใจไปสั่งจากร้านอื่น ฉะนั้นการพูดคุยกับเค้าทุกวันในทุกช่องทาง จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ลูกค้ายังไม่ลืมร้านอาหารของเรา

4.อย่าขายท่ามาตรฐาน แต่ให้ขายแบบมีชั้นเชิง เล่าเรื่องให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์

5.ปรับตัวไม่พอ ต้องปรับให้เร็วกว่าคนอื่น

ในยุคที่ปลาเล็กไม่กลัวปลาใหญ่ แต่ปลาช้ากลัวปลาเร็ว Penguin Eat Shabu ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารที่ปรับตัวได้เร็ว

ไม่ว่าจะเป็นการออกโปรโมชันใหม่ ๆ มาดึงดูดลูกค้า ไปจนการแตกไลน์ธุรกิจจากขายชาบูไปขายผลไม้ด้วย
นอกจากทุเรียน ที่เคยเรียกกระแสฮือฮาได้เป็นอย่างดี ตอนนี้ยังมีสาลี่, องุ่น, เชอร์รี, อินทผลัมสด, แอปเปิล ฯลฯ ให้เลือกชอปไปกินฟิน ๆ ที่บ้านด้วย

6.ทำธุรกิจ อย่าคิดรอดไปคนเดียว

ที่ผ่านมาจะเห็นว่า Penguin Eat Shabu ได้ทำ Collaboration Campaign ต่าง ๆ
อาทิ ร่วมกับผู้ประกอบการโรงแรมในภูเก็ต จัดโปรโมชันแถมแพ็กเกจที่พัก, รวมกลุ่มกับผู้ประกอบการร้านอาหาร แบ่งปันองค์ความรู้และจัดงานแฟร์สร้างรายได้ในช่วงล็อกดาวน์

นับเป็นอีกหนึ่งตัวแทนผู้ประกอบการที่น่าสนใจ ในการปรับตัวเพื่อรับมือวิกฤติ
ซึ่งถ้าถามว่าเหนื่อยและยากกว่าการทำธุรกิจในช่วงเวลาปกติหรือไม่ แน่นอนว่า หนักกว่ามาก
แต่ถ้าถามต่อว่า เหนื่อยแล้วจะสู้ต่อหรือยอมแพ้ ผู้ประกอบการแต่ละคนคงมีคำตอบไม่เหมือนกัน

แต่สำหรับคุณต่อ แม้เหตุการณ์โควิดตั้งแต่ระลอกแรก จะทำให้ต้องหันมาทำรูปแบบดิลิเวอรีเป็นครั้งแรก ลุกมาฉีกกฎในการทำตลาด ด้วยการจัดโปรโมชันแถมหม้อ ไปจนถึงแตกไลน์มาขายทุเรียน
แถมระหว่างทาง ยังต้องยอมตัดแขนตัดขาทิ้ง ด้วยการปิดบางสาขา

แต่ตลอดเส้นทางหฤโหดของคนทำธุรกิจที่ผ่านมา คุณต่อก็ได้สร้างแรงบันดาลใจและพิสูจน์ให้หลายคนเห็นแล้วว่า “ถ้าหัวใจไม่ยอมแพ้ คำว่า “แพ้” ก็ไม่มีในพจนานุกรม..