เอ็กซ์สปริง ประกาศความสำเร็จเกินคาด “สิริฮับ โทเคน” เปิดขาย 1 สัปดาห์ ยอดจองพุ่งกว่า 90% ของจำนวนเสนอขาย
30 ก.ย. 2021
สั่นสะเทือนตลาดทุนไทย เมื่อเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ดัน “สิริฮับ โทเคน” Real Estate-Backed ICO ตัวแรกของไทย ที่เสนอขายแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา
จนสร้างปรากฏการณ์นักลงทุนแห่จองล้นหลาม หลังเปิดให้จองเพียงสัปดาห์แรก สามารถกวาดยอดจองจากนักลงทุนทั้งรายย่อยและรายใหญ่พุ่งกว่า 90% มูลค่า 2,200 ล้านบาท จากมูลค่าเสนอขายทั้งหมด 2,400 ล้านบาท
เขย่าวงการขึ้นแท่น ICO มหาชนในขณะนี้ ด้วยจุดเด่นที่เปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้าน ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 10 บาท มีสินทรัพย์มูลค่าสูงเป็นหลักประกัน ได้รับผลตอบแทนที่มั่นคง ต่อเนื่องตลอดระยะเวลาโครงการ 4 ปี จากค่าเช่ากลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส
ที่เป็นสำนักงานใหญ่ของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเครดิตเรทติ้งในระดับความน่าเชื่อถือสูง อีกทั้งศักยภาพของโครงการจากการประเมินมูลค่าที่ดินในอนาคตมีโอกาสลุ้นอัปไซด์สูง
คว้าโอกาสจองก่อนหมด 200 ล้านบาทสุดท้าย จองซื้อง่ายเพียงปลายนิ้ว ผ่านแอปฯ XSpring ตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนหมดภายใน 4 ต.ค. นี้
นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้บุกเบิกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนในประเทศไทย โดยสามารถเสนอขายโทเคนดิจิทัลได้เป็นเจ้าแรกของประเทศ เร็วกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ซึ่งการได้รับอนุมัติเสนอขายจาก ก.ล.ต. แสดงให้เห็นว่าเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล มีความมั่นคง โปร่งใส และปฏิบัติตามกลไกคุ้มครองนักลงทุนอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ เรายังเลือกนำเสนอโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่มีอสังหาริมทรัพย์อ้างอิง (Real Estate-Backed ICO) ซึ่งเป็นประเภทโทเคนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดทุนต่างประเทศเพราะเป็นโทเคนที่มีความมั่นคงสูงและความเสี่ยงต่ำ
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล มีความเชื่อมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนรูปแบบต่าง ๆ ที่จะทลายขีดจำกัดของการลงทุนแบบเดิม พร้อมเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ประชาชนและนักลงทุนทุกกลุ่ม
ดังนั้น นักลงทุนรวมถึงประชาชนทั่วไปจึงมั่นใจได้เลยว่า ‘สิริฮับ’ จะเป็นโอกาสใหม่แห่งการลงทุนที่เปี่ยมศักยภาพ มอบผลตอบแทนและกำไรที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน”
“สิริฮับ โทเคน” เสนอขายจำนวน 240 ล้านโทเคน ราคา 10 บาทต่อโทเคน โดยแบ่งเสนอขายเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
สิริฮับ A (SiriHubA) มูลค่าการระดมทุน 1,600 ล้านบาท
มอบส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสสูงสุด 4.5% ต่อปี
มอบส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสสูงสุด 4.5% ต่อปี
และสิริฮับ B (SiriHubB) มูลค่าการระดมทุน 800 ล้านบาท
มอบส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสสูงสุด ถึง 8% ต่อปี
มอบส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสสูงสุด ถึง 8% ต่อปี
รวมมูลค่าการระดมทุนของทั้งสองกลุ่มที่ 2,400 ล้านบาท
นอกจากนี้ทั้งสองกลุ่ม จะได้รับส่วนแบ่งจากการจำหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดโครงการ
นอกจากนี้ทั้งสองกลุ่ม จะได้รับส่วนแบ่งจากการจำหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดโครงการ
โดยเสนอขายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา
ผ่านแอปฯ XSpring ทั้งระบบ iOS และ Android
และจะปิดการขายในวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เวลา 15.30 น.
ผ่านแอปฯ XSpring ทั้งระบบ iOS และ Android
และจะปิดการขายในวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เวลา 15.30 น.
“สำหรับการจะเลือกซื้อโทเคนสิริฮับ A หรือสิริฮับ B นั้น ขอให้นักลงทุนพิจารณาเงื่อนไขผลตอบแทนให้ละเอียด เนื่องจากทั้งสองตัวต่างมีข้อดีที่แตกต่างกัน หากเทียบส่วนแบ่งรายไตรมาสต่อปี สิริฮับ B จะมอบส่วนแบ่งรายไตรมาสที่ 8% ต่อปี ในขณะที่สิริฮับ A ได้รับ 4.5% ต่อปี
แต่สิริฮับ A มีความพิเศษคือ หลังจบโครงการระยะ 4 ปี ผู้ถือสิริฮับ A จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการขายโครงการสิริแคมปัสก่อนผู้ถือสิริฮับ B ซึ่งความพิเศษนี้ทำให้ผู้ถือสิริฮับ A รู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งในระหว่างการถือครองโทเคน 4 ปีนั้น ทั้งสองกลุ่มจะได้รับผลตอบแทนรายไตรมาสตามที่ระบุไว้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในปัจจุบันหลายเท่าตัว สิ่งนี้คือดอกผลที่ผู้ถือโทเคนทั้งสองกลุ่มจะได้รับอย่างแน่นอน
และเมื่อครบกำหนดอายุโครงการ 4 ปี หลังการประมูลขายกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส เสร็จสิ้น
ผู้ลงทุนที่ถือสิริฮับ A จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการขายมูลค่า 1,600 ล้านบาทแรกก่อนผู้ถือสิริฮับ B ซึ่งจะได้รับส่วนที่เกินจาก 1,600 ล้านทั้งหมด ซึ่งจากการประเมินมูลค่าที่ดินมีโอกาสสูงมากที่จะขายทรัพย์สินโครงการได้เกิน 2,400 ล้านบาท เท่ากับว่าผู้ถือสิริฮับ B มีสิทธิ์ลุ้นอัปไซด์ในปีที่ 4”
ผู้ลงทุนที่ถือสิริฮับ A จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการขายมูลค่า 1,600 ล้านบาทแรกก่อนผู้ถือสิริฮับ B ซึ่งจะได้รับส่วนที่เกินจาก 1,600 ล้านทั้งหมด ซึ่งจากการประเมินมูลค่าที่ดินมีโอกาสสูงมากที่จะขายทรัพย์สินโครงการได้เกิน 2,400 ล้านบาท เท่ากับว่าผู้ถือสิริฮับ B มีสิทธิ์ลุ้นอัปไซด์ในปีที่ 4”
นอกจากนี้ เมื่อได้รับการจัดสรรโทเคนแล้ว ยังสามารถนำไปซื้อ-ขายได้ในตลาดรอง
ซึ่งเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ได้จับมือกับ บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด (ERX) ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.
ซึ่งเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ได้จับมือกับ บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด (ERX) ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.