เมื่อเนเธอร์แลนด์ หยุดโปรโมตการท่องเที่ยว
17 พ.ค. 2019
ประเทศเนเธอร์แลนด์มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมมาช้านาน
ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 17 ที่เป็นยุคทองของการล่าอาณานิคม
ด้วยความที่ชาวดัตช์มีอาณานิคมหลายแห่งทั่วโลก ส่งผลให้กรุงอัมสเตอร์ดัมเมืองหลวง
กลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญระดับโลก และเป็นแม่เหล็กดึงดูดทั้งพ่อค้า นายธนาคาร เศรษฐี นักคิด และศิลปินจากทั่วยุโรป
จนเกิดเป็นการรังสรรค์สถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน รูปภาพ และผลงานศิลปะนับไม่ถ้วน
ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 17 ที่เป็นยุคทองของการล่าอาณานิคม
ด้วยความที่ชาวดัตช์มีอาณานิคมหลายแห่งทั่วโลก ส่งผลให้กรุงอัมสเตอร์ดัมเมืองหลวง
กลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญระดับโลก และเป็นแม่เหล็กดึงดูดทั้งพ่อค้า นายธนาคาร เศรษฐี นักคิด และศิลปินจากทั่วยุโรป
จนเกิดเป็นการรังสรรค์สถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน รูปภาพ และผลงานศิลปะนับไม่ถ้วน
ส่งผลให้ประเทศเล็กๆ อย่างเนเธอร์แลนด์มีมรดกโลกถึง 10 แห่ง
และเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมอยู่ถึง 9 แห่ง
และเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมอยู่ถึง 9 แห่ง
พอมาถึงยุคศตวรรษที่ 21
เมื่อการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายดาย อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงเติบโตทั่วทุกมุมโลก และกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ดึงดูดเม็ดเงินจากชาวต่างชาติ
สร้างงานและรายได้ให้แก่คนในท้องถิ่นเป็นจำนวนมหาศาล
เมื่อการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายดาย อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงเติบโตทั่วทุกมุมโลก และกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ดึงดูดเม็ดเงินจากชาวต่างชาติ
สร้างงานและรายได้ให้แก่คนในท้องถิ่นเป็นจำนวนมหาศาล
ในปี 2018 ประเทศเนเธอร์แลนด์ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนกว่า 19.2 ล้านคน
ซึ่งอาจจะดูไม่มากนักหากเทียบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทย
แต่จำนวนนี้ก็มากกว่าประชากรชาวดัตช์ที่มีอยู่เพียง 17.3 ล้านคนไปแล้ว
ซึ่งอาจจะดูไม่มากนักหากเทียบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทย
แต่จำนวนนี้ก็มากกว่าประชากรชาวดัตช์ที่มีอยู่เพียง 17.3 ล้านคนไปแล้ว
ยิ่งหากคำนึงถึงว่า เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีพื้นที่เล็กน้อย เพียง 41,543 ตารางกิโลเมตร (ขนาดประมาณภาคตะวันออกของประเทศไทย 7 จังหวัด)
ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรหนาแน่นสูงที่สุดในโลก ถึง 416 คน ต่อตารางกิโลเมตร
ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรหนาแน่นสูงที่สุดในโลก ถึง 416 คน ต่อตารางกิโลเมตร
หากรวมจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีมากกว่าประชากรเข้าไปด้วย ก็ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งต้องเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
กรุงอัมสเตอร์ดัมซึ่งมีประชากรเพียง 1.3 ล้านคน
แต่ต้องรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 18 ล้านคน
แต่ต้องรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 18 ล้านคน
สวน Keukenhof ที่เคยเต็มไปด้วยดอกทิวลิปสีสันสดใส ทุกวันนี้กลับแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ต่างเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อถ่ายรูปจนเผลอเหยียบย่ำดอกทิวลิปจนเสียหาย
เช่นเดียวกับกังหันลมในเขต Kinderdijk ที่เคยเงียบสงบและเป็นดั่งสัญลักษณ์ของประเทศ
ทุกวันนี้ก็เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกของนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย
ทุกวันนี้ก็เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกของนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย
การท่องเที่ยวยังส่งผลให้ค่าครองชีพในย่านแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าบริการต่างๆ จนคนท้องถิ่นหลายคนทนไม่ไหว
ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าบริการต่างๆ จนคนท้องถิ่นหลายคนทนไม่ไหว
คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งเนเธอร์แลนด์ (NBTC) ได้คาดการณ์ว่า
เนเธอร์แลนด์อาจต้องรองรับนักท่องเที่ยวถึง 29 ล้านคน
ภายในปี 2030 หรือในอีก 10 ปีข้างหน้า
เนเธอร์แลนด์อาจต้องรองรับนักท่องเที่ยวถึง 29 ล้านคน
ภายในปี 2030 หรือในอีก 10 ปีข้างหน้า
ซึ่งหากไม่มีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหา จะยิ่งส่งผลกระทบจนคนท้องถิ่นอาจต้องย้ายถิ่นฐาน..
นำมาสู่ความพยายามที่จะยุติแคมเปญโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศ
เพื่อจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสม และลดผลกระทบต่างๆ ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวล้นเมือง
เพื่อจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสม และลดผลกระทบต่างๆ ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวล้นเมือง
ทั้งนี้ทางกรุงอัมสเตอร์ดัม
ได้ริเริ่มนโยบายในการเก็บภาษีเพิ่มเติมจากนักท่องเที่ยวแล้วในปี 2018
และมีแผนการจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีกภายในปีนี้
ได้ริเริ่มนโยบายในการเก็บภาษีเพิ่มเติมจากนักท่องเที่ยวแล้วในปี 2018
และมีแผนการจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีกภายในปีนี้
ไม่ใช่เพียงเนเธอร์แลนด์ แต่หลายประเทศในยุโรปต้องประสบกับปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง
ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ และคนท้องถิ่นเข้าถึงบริการพื้นฐานต่างๆ เช่น ตำรวจ ขนส่งมวลชนและสถานพยาบาล ได้ยากลำบากยิ่งขึ้น
จนเกิดการเขียนป้ายขับไล่นักท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ เช่น ในเมืองบาร์เซโลนาของประเทศสเปน ประเทศโครเอเชีย และเมืองเวนิสของประเทศอิตาลี
ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ และคนท้องถิ่นเข้าถึงบริการพื้นฐานต่างๆ เช่น ตำรวจ ขนส่งมวลชนและสถานพยาบาล ได้ยากลำบากยิ่งขึ้น
จนเกิดการเขียนป้ายขับไล่นักท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ เช่น ในเมืองบาร์เซโลนาของประเทศสเปน ประเทศโครเอเชีย และเมืองเวนิสของประเทศอิตาลี
ในส่วนของประเทศไทย ภาคการท่องเที่ยวกลับเป็นอุตสาหกรรมที่นำรายได้มหาศาลเข้าสู่ประเทศ ในปี 2018 ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 38 ล้านคน
นำรายได้เข้าสู่ประเทศกว่า 2 ล้านล้านบาท
นำรายได้เข้าสู่ประเทศกว่า 2 ล้านล้านบาท
แต่ขณะเดียวกัน การหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวก็ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติหลายแห่งถูกทำลายจนเสื่อมโทรม และเป็นการรบกวนระบบนิเวศน์ โดยเฉพาะระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล
จนนำมาสู่การตัดสินใจปิดอ่าวมาหยา ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2018 และมีแนวโน้มจะปิดยาวต่อไปเป็นเวลา 2 ปี
ทาง Euromonitor ได้คาดการณ์ว่า
ประเทศไทยอาจต้องรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนถึง 79 ล้านคนภายในปี 2030
หรืออีกสิบปีข้างหน้า
ประเทศไทยอาจต้องรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนถึง 79 ล้านคนภายในปี 2030
หรืออีกสิบปีข้างหน้า
ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าประชากรในประเทศไทยแล้ว..
ที่มา : Independent.co.uk, Statista 2019, Dutchreview