ไวรัสกลายพันธุ์ ฉุดท่องเที่ยวหนัก คาดปี 2022 แม้เปิดประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวก็ยังน้อย - Krungthai COMPASS
8 ก.ค. 2021
1) ระบาดระลอก 3 ยืดเยื้อรุนแรง ท่องเที่ยวในประเทศปีนี้ มีโอกาสหดตัวลงจากที่เคยประเมินไว้
-ตัวเลขนักท่องเที่ยวในประเทศในเดือน พ.ค. ต่ำมาก และในเดือน มิ.ย. ก็น่าจะไม่ต่างกันนัก
ผลกระทบจากการระบาดในประเทศระลอก 3 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ ในเดือน พ.ค. อยู่ที่เพียง 1.4 ล้านคน ต่ำที่สุดในรอบ 1 ปี ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่เพียง 5% เท่านั้น
ผลกระทบจากการระบาดในประเทศระลอก 3 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ ในเดือน พ.ค. อยู่ที่เพียง 1.4 ล้านคน ต่ำที่สุดในรอบ 1 ปี ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่เพียง 5% เท่านั้น
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยว ในเดือน มิ.ย. หากประเมินสถานการณ์ผ่าน High-Frequency Indicators ต่าง ๆ คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยว ในเดือน มิ.ย. น่าจะอยู่ระดับต่ำไม่ต่างกับเดือน พ.ค. เท่าใดนัก
-คาดท่องเที่ยวในเดือน ก.ค. ยังไม่ฟื้น จากภาวะระบาดรุนแรงและมาตรการกึ่งล็อกดาวน์รอบล่าสุด
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในวันที่ 2 ก.ค. ที่อยู่ในระดับมากกว่า 6 พันราย ประกอบกับมาตรการควบคุมการระบาด ที่ผู้ที่เดินทางจากจังหวัดสีแดงเข้มทั้ง 10 จังหวัด ต้องกักตัวเมื่อเดินทางไปจังหวัดอื่น
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในวันที่ 2 ก.ค. ที่อยู่ในระดับมากกว่า 6 พันราย ประกอบกับมาตรการควบคุมการระบาด ที่ผู้ที่เดินทางจากจังหวัดสีแดงเข้มทั้ง 10 จังหวัด ต้องกักตัวเมื่อเดินทางไปจังหวัดอื่น
ตลอดจนการห้ามรับประทานอาหารในร้านในหลายจังหวัดที่มีการระบาด ล้วนเป็นปัจจัยลบในการตัดสินใจที่จะเดินทางท่องเที่ยว ทำให้คาดว่าการท่องเที่ยวคงไม่สามารถฟื้นตัวได้ ในเดือน ก.ค.
-การระบาดระลอก 3 ยืดเยื้อรุนแรงกว่าคาด กดดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศทั้งปี อาจเหลือเพียง 63.6 ล้านคน-ครั้ง ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 81.2 ล้านคน-ครั้ง (Old Baseline)
คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 9.7 หมื่นล้านบาท
คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 9.7 หมื่นล้านบาท
2) Sandbox Model จะช่วยให้นักท่องเที่ยวกลับมาได้มากแค่ไหน ?
-แม้ว่าจะมีการทำ Sandbox ในไตรมาส 3 แต่คาดว่ายังนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่มากนัก
ในช่วงเดือน ก.ค. - ก.ย. จะมีการ Reopen Thailand ด้วยการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่ต้องกักตัวในระยะแรก ในกลุ่ม 10 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ บุรีรัมย์ และอาจรวมถึง กรุงเทพฯ
ในช่วงเดือน ก.ค. - ก.ย. จะมีการ Reopen Thailand ด้วยการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่ต้องกักตัวในระยะแรก ในกลุ่ม 10 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ บุรีรัมย์ และอาจรวมถึง กรุงเทพฯ
ซึ่งแม้การทำ Sandbox จะไม่มีการเลื่อนหรือยกเลิกกลางคัน ก็เป็นที่คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวในช่วงนี้จะยังมาไม่เยอะนัก เนื่องจาก
-ไทยยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว ที่มาจากประเทศความเสี่ยงสูงหลายประเทศ
ซึ่งหลายประเทศเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่เคยมาไทย โดยหากพิจารณากลุ่มประเทศหลักที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทย พบว่าหลายประเทศยังอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อินเดีย มาเลเซีย สหราชอาณาจักร
ทำให้ไทยยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศเหล่านี้
ซึ่งหลายประเทศเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่เคยมาไทย โดยหากพิจารณากลุ่มประเทศหลักที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทย พบว่าหลายประเทศยังอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อินเดีย มาเลเซีย สหราชอาณาจักร
ทำให้ไทยยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศเหล่านี้
นอกจากนี้ การที่รายชื่อประเทศในแต่ละกลุ่มความเสี่ยงมีการปรับเปลี่ยนได้เสมอ ก็อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การวางแผนท่องเที่ยวมีความไม่แน่นอนสูง
-หลายประเทศก็ยังไม่แนะนำให้ประชาชนเดินทางไปเที่ยวไทย
เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน ตลอดจนประเทศทางตะวันตกอย่าง สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ที่ยังไม่แนะนำหรืออนุญาตให้ประชาชนในประเทศตัวเองเดินทางมาไทย และหากมีการเดินทางกลับจากไทยก็ต้องทำการกักตัวเป็นระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน
เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน ตลอดจนประเทศทางตะวันตกอย่าง สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ที่ยังไม่แนะนำหรืออนุญาตให้ประชาชนในประเทศตัวเองเดินทางมาไทย และหากมีการเดินทางกลับจากไทยก็ต้องทำการกักตัวเป็นระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน
ทำให้ความไม่สะดวกในการมาเที่ยวไทยมีสูงขึ้นมาก การเปิด Sandbox จึงอาจไม่ช่วยให้ไทยสามารถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากได้ในทันที แต่เป็นการวัดความสามารถในการควบคุมการระบาดพร้อมกับการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย ก่อนจะนำไปสู่การเปิดประเทศในลำดับถัดไป
อย่างไรก็ดี แม้ไทยจะเปิดประเทศในปีหน้า แต่การท่องเที่ยวในปีหน้า ก็ยังเผชิญกับความเสี่ยงมากมายที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ในระดับที่ต่ำ
3) แม้เปิดประเทศในปี 2022 แต่โอกาสที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังต่ำมาก ก็มีสูง
-ไวรัสที่กลายพันธุ์ ทำให้วัคซีนบางตัวมีอัตราการป้องกันโรคที่ลดลง ข้อมูลทางการแพทย์ผ่านการรวบรวมโดย Business Insider แสดงให้เห็นว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่บางสายพันธุ์ทำให้อัตราการป้องกันโรคของวัคซีนบางตัวลดต่ำลง
ส่งผลให้หลายประเทศ ที่มีการฉีดวัคซีนให้ประชากรในสัดส่วนที่สูงแล้วอย่าง อังกฤษ และอิสราเอล ที่มี 49.6% และ 55.6% (ข้อมูล ณ 3 ก.ค. 2021) ตามลำดับ
ต้องประสบกับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอีกขึ้น
ต้องประสบกับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอีกขึ้น
-หากมีการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในไทย บางชาติก็อาจไม่แนะนำให้เดินทางมาไทยได้
นอกจากปัจจัยเรื่องความปลอดภัยแล้ว นักท่องเที่ยวอาจหลีกเลี่ยงมาเที่ยวประเทศที่กำลังมีการระบาดของโควิดอยู่ เนื่องจากเมื่อกลับถึงประเทศตนเอง ต้องทำการกักตัวเป็นเวลาหลายวัน ตามข้อกำหนดของหลายประเทศ
นอกจากปัจจัยเรื่องความปลอดภัยแล้ว นักท่องเที่ยวอาจหลีกเลี่ยงมาเที่ยวประเทศที่กำลังมีการระบาดของโควิดอยู่ เนื่องจากเมื่อกลับถึงประเทศตนเอง ต้องทำการกักตัวเป็นเวลาหลายวัน ตามข้อกำหนดของหลายประเทศ
อย่างเช่น กรณีของประเทศอังกฤษ ที่มีการจัดกลุ่มประเทศต่าง ๆ ตามการฉีดวัคซีนและการระบาดของโรคโควิด
หากการระบาดในประเทศเพิ่มขึ้น ประเทศนั้นก็สามารถถูกเปลี่ยนจากกลุ่มสีเขียว (ไม่ต้องกักตัวเมื่อกลับเข้าอังกฤษ) ไปเป็นกลุ่มสีแดงได้ (ต้องกักตัว 14 วันเมื่อกลับอังกฤษ)
หากการระบาดในประเทศเพิ่มขึ้น ประเทศนั้นก็สามารถถูกเปลี่ยนจากกลุ่มสีเขียว (ไม่ต้องกักตัวเมื่อกลับเข้าอังกฤษ) ไปเป็นกลุ่มสีแดงได้ (ต้องกักตัว 14 วันเมื่อกลับอังกฤษ)
ในกรณีของอังกฤษ ที่แม้ขณะนี้มีประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วเกือบ 50% แต่ก็ยังประสบกับการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ จึงมีความเป็นไปได้ที่ไทย จะประสบกับภาวะการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ อย่างเช่น Gemma ในปีหน้า
ถึงแม้ว่าไทยจะฉีดวัคซีนให้ประชากร 50% ครบสองเข็มในช่วงสิ้นปีนี้ อย่างที่ตั้งเป้าไว้ก้ตาม
ถึงแม้ว่าไทยจะฉีดวัคซีนให้ประชากร 50% ครบสองเข็มในช่วงสิ้นปีนี้ อย่างที่ตั้งเป้าไว้ก้ตาม
โดย ณ วันที่ 1 ก.ค. 2021 อังกฤษกำหนดให้ไทย เป็นประเทศกลุ่มสีแดง ซึ่งหากผู้อยู่ในอังกฤษเดินทางกลับมาแล้ว ต้องกักตัวในบ้านเป็นเวลา 14 วัน และในขณะที่ไทยกำลังเผชิญหน้าการระบาดรอบใหม่นี้อยู่
หลายประเทศที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาไทย เช่น เกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ ก็มีข้อกำหนดว่า หากเดินทางกลับจากไทย จะต้องทำการกักตัวเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วันเป็นต้น
หลายประเทศที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาไทย เช่น เกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ ก็มีข้อกำหนดว่า หากเดินทางกลับจากไทย จะต้องทำการกักตัวเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วันเป็นต้น
-นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่ไทย จะไม่รับนักท่องเที่ยวในบางประเทศ หากประเทศนั้นมีการระบาดเกิดขึ้น
การระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ อาจเกิดขึ้นต่างประเทศเช่นกัน โดย ณ เดือน มิ.ย. แม้ประเทศที่ทำการฉีดวัคซีนให้ประชากรจำนวนมากอย่างอังกฤษและอิสราเอล ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่เพิ่มขึ้น
การระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ อาจเกิดขึ้นต่างประเทศเช่นกัน โดย ณ เดือน มิ.ย. แม้ประเทศที่ทำการฉีดวัคซีนให้ประชากรจำนวนมากอย่างอังกฤษและอิสราเอล ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่เพิ่มขึ้น
ประเมินว่า ณ สิ้นปี 2021 หลายชาติที่มีนักท่องเที่ยวมาไทยจำนวนมาก อาจมีอัตราการฉีดวัคซีน ในสิ้นปีนี้ที่ไม่สูงมากนัก ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดการระบาดในประเทศเหล่านั้น ก็ยังมีอยู่
ในขณะที่จีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่มาไทย อาจยังไม่เปิดประเทศในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022
จากความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่หากให้คนในประเทศเดินทางแล้ว อาจนำไวรัสสายพันธุ์ใหม่กลับมาระบาดในประเทศ
จากความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่หากให้คนในประเทศเดินทางแล้ว อาจนำไวรัสสายพันธุ์ใหม่กลับมาระบาดในประเทศ
ทำให้ทางการจีน มีแนวทางที่จะยังไม่เปิดประเทศไปอีก 1 ปี หรือจนถึงกลางปี 2022
หากจีนยังไม่เปิดให้คนในประเทศเดินทาง จะกระทบจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาไทยอย่างมาก เนื่องจากในปี 2019 มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยถึงเกือบ 12 ล้านคน
หากจีนยังไม่เปิดให้คนในประเทศเดินทาง จะกระทบจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาไทยอย่างมาก เนื่องจากในปี 2019 มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยถึงเกือบ 12 ล้านคน
-ภาพท่องเที่ยวในปีหน้า “คนน้อย เที่ยวกันเอง ใช้จ่ายต่อหัวสูง”
Krungthai COMPASS ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2022 อาจมีเพียง 9.9 ล้านคน จากที่เคยสูงถึง 39.9 ล้านคนในปี 2019 ด้วยปัจจัยความเสี่ยงจากการกลายพันธุ์ของไวรัส ที่ทำให้ไทยมีโอกาสจะไม่รับนักท่องเที่ยวจากบางชาติ
Krungthai COMPASS ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2022 อาจมีเพียง 9.9 ล้านคน จากที่เคยสูงถึง 39.9 ล้านคนในปี 2019 ด้วยปัจจัยความเสี่ยงจากการกลายพันธุ์ของไวรัส ที่ทำให้ไทยมีโอกาสจะไม่รับนักท่องเที่ยวจากบางชาติ
หรือหากมีการระบาดระลอกใหม่ในไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็อาจหลีกเลี่ยงการมาไทยได้
ตลอดจนการที่จีนอาจยังไม่เปิดให้ประชาชนท่องเที่ยวระหว่างประเทศในปีหน้า
ตลอดจนการที่จีนอาจยังไม่เปิดให้ประชาชนท่องเที่ยวระหว่างประเทศในปีหน้า
ซึ่งตัวเลขอาจสูงกว่านี้ได้ หากภาครัฐสามารถควบคุมการระบาดในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโควิดสายพันธุ์ใหม่ ๆ
โดยในยามที่ภาคการท่องเที่ยว ไม่สามารถพึ่งพาจำนวนนักท่องเที่ยวได้เหมือนเคย การมุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพที่จะมาไทยในปีหน้า จึงยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น
-ในปี 2022 การเที่ยวด้วยตัวเองจะมีมากขึ้น
เดือน มิ.ย. 2021 แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยว มีความต้องการที่จะเที่ยวแบบกลุ่มเล็กหรือเที่ยวด้วยตัวเอง (Free Independent Travelers: FIT) ในช่วงหลังโควิด ซึ่งอาจมาจากเหตุผลด้านความปลอดภัย เนื่องจากการเที่ยวกลุ่มใหญ่กับกรุ๊ปทัวร์ มีความเสี่ยงที่จะติดโรคมากกว่า
เดือน มิ.ย. 2021 แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยว มีความต้องการที่จะเที่ยวแบบกลุ่มเล็กหรือเที่ยวด้วยตัวเอง (Free Independent Travelers: FIT) ในช่วงหลังโควิด ซึ่งอาจมาจากเหตุผลด้านความปลอดภัย เนื่องจากการเที่ยวกลุ่มใหญ่กับกรุ๊ปทัวร์ มีความเสี่ยงที่จะติดโรคมากกว่า
-มีการใช้จ่ายต่อทริปที่สูงขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมียมจะฟื้นตัวก่อน
วิเคราะห์ว่านักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูง จะเป็นกลุ่มที่กลับมาเที่ยวก่อน เนื่องจากน่าจะเป็นกลุ่มที่มีความสามารถในการเดินทางมาท่องเที่ยวได้มากกว่ากลุ่มอื่น ที่อาจได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด
วิเคราะห์ว่านักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูง จะเป็นกลุ่มที่กลับมาเที่ยวก่อน เนื่องจากน่าจะเป็นกลุ่มที่มีความสามารถในการเดินทางมาท่องเที่ยวได้มากกว่ากลุ่มอื่น ที่อาจได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด
และเนื่องจากที่การเที่ยวต่างประเทศ เป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกไม่สามารถทำได้เป็นเวลานาน และยังไม่สามารถทำได้โดยสะดวกนัก แม้จะมีการเปิดประเทศแล้ว
ทำให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่พิเศษมากยิ่งขึ้น ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวจึงอาจมีการใช้จ่ายต่อทริปที่สูงมากขึ้น
ทำให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่พิเศษมากยิ่งขึ้น ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวจึงอาจมีการใช้จ่ายต่อทริปที่สูงมากขึ้น
ซึ่งผลการสำรวจความเห็นจากนักท่องเที่ยว ก็ดูจะสนับสนุนข้อสมมตินี้ โดยผลสำรวจพบว่านักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้น กับการเข้าพักโรงแรมที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย
ตลอดจนเลือกที่จะท่องเที่ยว โดยการใช้บริการสายการบินฟูลเซอร์วิสมากขึ้น
ตลอดจนเลือกที่จะท่องเที่ยว โดยการใช้บริการสายการบินฟูลเซอร์วิสมากขึ้น
จึงประเมินว่าธุรกิจท่องเที่ยวในกลุ่มที่เน้นสินค้าและบริการพรีเมียม จะมีการฟื้นตัวได้ก่อน