NPS เสนอขายหุ้นกู้ครั้งใหม่ 5,500 ล้านบาท TRIS เพิ่มเรทติ้งให้เป็น BBB สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจ
19 เม.ย. 2021
NPS เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งใหม่ มูลค่าไม่เกิน 5,500 ล้านบาท Filing มีผลบังคับใช้ 12 เม.ย. 2564 กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2564 และ 10-11 พฤษภาคม 2564 ผู้บริหารเผยธุรกิจแข็งแกร่งสวนกระแสเศรษฐกิจซบ ไม่หวั่นโควิดระลอกสาม ทำกำไรสุทธิ และ EBITDA ปี 2563 สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับแต่เริ่มประกอบธุรกิจ ขณะที่ทริสเรทติ้งปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือ ให้เป็น BBB (Stable) สะท้อนความแข็งแกร่งและมั่นคงของธุรกิจ
บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ NPS เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2564 ให้ประชาชนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ เป็นหุ้นกู้ระยะยาวชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยให้สิทธิผู้ออกหุ้นกู้ในการไถ่ถอนได้ก่อนกำหนด มูลค่าไม่เกิน 5,500 ล้านบาท เสนอขายไม่เกิน 5.5 ล้านหน่วย แบ่งหุ้นกู้ออกเป็น 3 ชุด วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองอีก 500 ล้านบาท
หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็น หุ้นกู้ชุดที่ 1 มูลค่า 1,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.5% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 หุ้นกู้ชุดที่ 2 มูลค่า 2,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2569 และ หุ้นกู้ชุดที่ 3 มูลค่า 2,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี 10 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.35% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2570 โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดมีหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายรวมกันไม่เกิน 500 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาจองซื้อหุ้นกู้ระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2564 และ 10-11พฤษภาคม 2564
สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อนำไปชำระคืนหุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนด และ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท โดยก่อนหน้านี้ NPS ได้แถลงผลการดำเนินงานในปี 2563 ว่า มีผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่นในทุกด้าน โดยเฉพาะกำไรสุทธิ และ EBITDA สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เริ่มประกอบธุรกิจ โดย NPS มีรายได้รวมอยู่ที่ 15,745 ล้านบาท มี EBITDA อยู่ที่ 4,621 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 2,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่ 13.83%
“การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ NPS สวนกระแสเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขณะนี้เกิดการระบาดเป็นระลอก 3 แล้วนั้น เกิดจากความต้องการใช้ไฟฟ้าของกลุ่มลูกค้าในสวนอุตสาหกรรม 304 ซึ่งมีทั้งความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มของลูกค้ารายเก่าและการลงทุนเพิ่มขึ้นของลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการปรับโครงสร้างธุรกิจตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อาทิ การนำ Digital Technology หลากหลายรูปแบบเข้ามาช่วยในการทำงาน การยกระดับระบบบัญชีและการเงินให้ทันสมัย โปร่งใส ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ NPS เป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
หุ้นกู้ NPS ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 เพิ่มจากระดับ BBB- เป็น BBB และแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” อันสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งบริษัทได้รับจากการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ผลการดำเนินงานของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสัดส่วนหนี้สินที่ลดลง นอกจากนั้นยังสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ ในฐานะผู้ให้บริการพลังงานและสาธารณูปโภคแก่ลูกค้าอุตสาหกรรมแบบครบวงจร และเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถแสดงความจำนงซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 13 ราย ได้แก่ 1.บล.โกลเบล็ก จำกัด 2.บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด 3.บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน 4.บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) 5.บมจ.หลักทรัพย์ เคทีบีเอสที 6.บล.เอเชียพลัส จำกัด 7.บล.กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด 8.บมจ.หลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ 9.บมจ.หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส 10.บมจ.หลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) 11.บล.ทรีนิตี้ จำกัด 12.บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) 13.บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
คำเตือน : ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน