ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ เปิดโร้ดแม็พ “วันเดอร์ฟู้ด” เตรียมงบ 50 ล้านบาท ดันไลน์ธุรกิจอาหารเต็มพิกัด เสริมศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
8 เม.ย. 2021
บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทพลังงานครบวงจร และผู้จัดจำหน่ายก๊าซแอลพีจีภายใต้แบรนด์เวิลด์แก๊ส เผยกลยุทธ์สร้างการเติบโตในธุรกิจอาหารแบบครบวงจร ไลน์ธุรกิจใหม่ภายใต้ความร่วมมือกับ “วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชันแนล” ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ดระดับพรีเมียม ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ, ข้าวซอย Hungry Rabbit, ร้านอาหาร Hyper Fine Dining ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาวในชื่อ Table 38 และ Pi Kun (ปีกุน) ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างเกินคาดในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา พร้อมติดเครื่องเดินหน้าขยายธุรกิจด้วยโร้ดแม็พปี 2564 เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยการเปิดสาขาใหม่ ๆ ประเดิมด้วยร้านผัดไทย ไฟทะลุ สาขาเรือธง สยามสแควร์ รวมทั้งการเปิดแฟรนไชส์ การผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรส และอาหารกึ่งสำเร็จรูป และธุรกิจอื่น ๆ เกี่ยวกับอาหารในอนาคต เตรียมรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังของปี 64
ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการดำเนินยุทธศาสตร์ใหม่ของเราในการแตกไลน์สู่ธุรกิจอาหาร ด้วยการร่วมมือกับวันเดอร์ฟู้ด นับว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภคในช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา เป็นสัญญาณที่ดีซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการต่อยอดจากธุรกิจก๊าซแอลพีจี ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซแอลพีจี มาสู่ธุรกิจอาหาร ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้องและมีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้จากช่องทางใหม่ ๆ และกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ทำให้เรามั่นใจว่าการลงทุนในธุรกิจอาหารจะบรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้ในการสร้างผลกำไรปีละกว่า 10% ของกำไรรวมของบริษัท และสร้างการเติบโตเป็น 20% ภายใน 5 ปีหรือภายในปี 2568 เราพร้อมเตรียมงบลงทุนไว้กว่า 50 ล้านบาทในการขยายธุรกิจอาหารให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยการเปิดแบรนด์ใหม่ และขยายสาขา รวมถึงบุกเบิกไปยังประเภทธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง”
ในส่วนของภาพรวมธุรกิจของดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ในปี 2564 นี้จะครอบคลุมการดำเนินธุรกิจใน 3 ประเภท ประกอบด้วย 1) ธุรกิจก๊าซแอลพีจี ภายใต้แบรนด์เวิลด์แก๊ส ซึ่งเป็นรายได้หลัก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพและศักยภาพภายในเพื่อสร้างกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน 2)ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซแอลพีจี เรามีแผนการในการทำธุรกิจซ่อมและผลิตถังก๊าซของบริษัทในอนาคต ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่สามารถลดความเสี่ยงด้านรายได้และสร้าง Synergy กับธุรกิจเดิมได้เป็นอย่างดี, 3) การเริ่มเข้าไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ โดยในปีนี้เราได้มีการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเป็นครั้งแรก เริ่มจากโซล่ารูฟท็อป ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ยุคใหม่ของธุรกิจพลังงาน รวมถึงธุรกิจอาหาร ที่มีมีการร่วมลงทุนกับบริษัท วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่คือ วันเดอร์ฟู้ด โฮลดิ้ง ขึ้นในปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีหลังจากเปิดดำเนินการ
นพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและบริหารองค์กร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เสริมว่า “การลงทุนในธุรกิจอาหารของเรา ไม่จำกัดอยู่เพียงร้านอาหารเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารอย่างครบวงจร ด้วยการดำเนินงานที่มีระบบและมาตรฐานในรูปแบบของอุตสาหกรรมผ่านการบริหารจัดการ Value Chain ที่มีประสิทธิภาพ โดยจะมีครัวกลาง พร้อมด้วยระบบโลจิสติกที่ครบวงจร เพื่อควบคุมคุณภาพและรสชาติของอาหารให้คงที่ สามารถบริหารต้นทุนและการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างสูงสุด”
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจอาหารในปี 2564 จะขยายการเติบโตของแบรนด์ด้านอาหารจากเดิม 4 แบรนด์ เป็น 6 แบรนด์ ควบคู่กับการขยายขอบเขตและศักยภาพของแต่ละแบรนด์ เริ่มจากเปิดตัวร้าน ผัดไทยไฟทะลุ สาขาเรือธง ในทำเลสยามสแควร์ พื้นที่ศักยภาพที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน พร้อมเตรียมขยายสาขาร้านผัดไทยไฟทะลุในรูปแบบเอ็กซ์เพรส ภายใต้ความร่วมมือกับคิง เพาเวอร์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจากสาขาแรกที่ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ โดยเตรียมขยายสาขาไปที่ คิง เพาเวอร์ สาขาอื่นๆ รวมทั้งการจำหน่ายแฟรนไชส์เพื่อไปเปิดดำเนินการในต่างประเทศ และเตรียมออกผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปใหม่ ๆ อย่างไก่ย่าง และขนมครองแครง ส่วน ปีกุน ร้านอาหารอีสานสไตล์ฟิวชั่น เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ โดยขยายการให้บริการช่วงกลางคืนในรูปแบบของทาปาซอาหารอิสาน และบาร์พร้อมเครื่องดื่ม เพื่อเป็นสถานที่แฮงเอ้าท์แห่งใหม่ที่สะท้อนเอกลักษณ์แบบไทย สำหรับ Table 38 ซึ่งเป็นภัตตาคารระดับไฟน์ไดนิ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสตรีทฟู้ด จะมีการปรับรูปแบบให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ด้วยเซตเมนูและรายการอาหารที่มีระดับราคาหลากหลายมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเมนูอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา
สำหรับ ข้าวซอย Hungry Rabbit ข้าวซอยรสชาติเข้มข้นใส่ใจสุขภาพ โดยเป็นส่วนหนึ่งของร้านผัดไทยไฟทะลุ สาขาเรือธง และ Table 38 Patisserie ครัวขนมอบและเบเกอรี่ที่เน้นการใช้วัตถุดิบและกรรมวิธีแบบพรีเมี่ยม เปิดตัวด้วยครัวซองต์ เมนูยอดฮิตที่ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากแฟน ๆ เบเกอรี่ชาวไทย โดยในช่วงแรกยังไม่มีหน้าร้านถาวร แต่เป็นรูปแบบของการตั้งบูธ ออกงานอีเวนต์ และนอกจากนี้เรายังจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพในการขยายสาขาได้อีกกว่า 40 สาขา เป็นอย่างน้อยในปีนี้
นอกจากนั้น ยังเตรียมแผนการต่อยอดธุรกิจไปยังธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร อาทิ ธุรกิจการรับจัดเลี้ยงในงานอีเว้นต์ ปาร์ตี้ และงานแต่งงาน ธุรกิจการผลิตและส่งวัตถุดิบ รวมถึงอาหารสำเร็จรูปให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กรเช่นโรงแรมและสายการบิน การเปิดแฟรนไชส์ของแบรนด์ร้านอาหารในเครือไปยังต่างจังหวัด และต่างประเทศ การผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรสในการประกอบอาหาร หรือในรูปแบบอาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน รวมทั้งการสร้าง Cloud Kitchen เพื่อตอบรับการเติบโตของธุรกิจการรับส่งอาหารถึงที่บ้าน (Food Delivery)
เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล เชฟมิชลินสตาร์ ผู้ก่อตั้งวันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า “ร้านผัดไทยไฟทะลุ สาขาเรือธง สยามสแควร์ คือการรวบรวมคาราวานอาหารสตรีทฟู้ดในเครือไว้ในที่เดียว สร้างประสบการณ์ใหม่ในการเพลิดเพลินกับอาหารไทยที่มีรสชาติจัดจ้านทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส นำเสนอคุณค่าของวัตถุดิบ ความใส่ใจในรายละเอียดอันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของอาหารไทย และอาศัยกรรมวิธีการผลิตที่สามารถรักษาสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพไว้อย่างครบถ้วน โดยชั้นล่างสุดของร้าน ออกแบบให้เป็นครัวแบบเปิด โชว์วิธีการประกอบอาหารสไตล์สตรีทฟู้ดดั้งเดิมแบบไทย ๆ เพื่อให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับกลิ่นของอาหาร และความน่าตื่นตาตื่นใจในการทำอาหาร พร้อมบาร์เครื่องดื่มแบบไทย ๆ ชั้นที่ 2 เป็นส่วนของพื้นที่ทานอาหารที่ผสมผสานองค์ประกอบความเป็นไทย ทั้งการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ การจัดวางเค้าน์เตอร์ และการแต่งกายของพนักงาน และชั้นที่ 3 เป็นส่วนของร้านข้าวซอย Hungry Rabbit ที่ตกแต่งในสไตล์ร้านราเมงแบบญี่ปุ่น สร้างประสบการณ์ใหม่ในการทานข้าวซอยในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร
ผมเชื่อมั่นว่า ที่นี่จะมีส่วนในการส่งเสริมให้อาหารสตรีทฟู้ดของไทยเป็นที่รู้จักในฐานะแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาลิ้มลอง และคาดหวังว่าธุรกิจอาหารในเครือของเราจะเป็นหนึ่งในปัจจัยช่วยส่งเสริมและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทย เมื่อเราพร้อมที่จะเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดมาอย่างยาวนาน”