เซ็นทรัลพัฒนา เตรียมเปิดแลนด์มาร์กใหม่ 3 มิกซ์ยูส มูลค่ารวมกว่า 13,900 ล้านบาท
25 มี.ค. 2021
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนา ไม่เคยหยุดนิ่ง โดยครองความเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งด้านอสังหาริมทรัพย์มาตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา
และถึงแม้ในปีที่ผ่านมาจะเป็นปีแห่งความท้าทายจากวิกฤติโควิดก็ตาม แต่ในปี 2564 นี้ เราคิดบวกและเชื่อมั่นว่า ในวิกฤติยังมีโอกาสในการลงทุนเติบโตไปร่วมกันเสมอ และพร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคตของประเทศ
โดยยังคงเดินหน้าเตรียมพร้อมเปิดโครงการตามแผนที่วางไว้ทั้งสิ้น 3 บิ๊กมิกซ์ยูส รวมมูลค่าโครงการกว่า 13,900 ล้านบาท ได้แก่
-เซ็นทรัล อยุธยา มูลค่า 6,200 ล้านบาท
เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, Tourist Attraction, โรงแรม, ที่พักอาศัย และคอนเวนชันฮอลล์ บนที่ดิน 47 ไร่ โดยมีพื้นที่ GFA 68,000 ตารางเมตร เปิดให้บริการเดือน 27 ต.ค. 64
เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, Tourist Attraction, โรงแรม, ที่พักอาศัย และคอนเวนชันฮอลล์ บนที่ดิน 47 ไร่ โดยมีพื้นที่ GFA 68,000 ตารางเมตร เปิดให้บริการเดือน 27 ต.ค. 64
-เซ็นทรัล ศรีราชา มูลค่า 4,200 ล้านบาท
เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, คอนเวนชันฮอลล์, เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์, ออฟฟิศ และโรงแรม บนที่ดิน 27 ไร่ โดยมีพื้นที่ GFA 71,000 ตารางเมตร เปิดให้บริการ เดือน 25 ก.ย. 64
เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, คอนเวนชันฮอลล์, เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์, ออฟฟิศ และโรงแรม บนที่ดิน 27 ไร่ โดยมีพื้นที่ GFA 71,000 ตารางเมตร เปิดให้บริการ เดือน 25 ก.ย. 64
-เซ็นทรัล จันทบุรี มูลค่า 3,500 ล้านบาท
เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, Local market, ที่พักอาศัย และโรงแรม รวมถึง Social Park บนที่ดิน 46 ไร่ โดยมีพื้นที่ GFA 42,600 ตารางเมตร เปิดให้บริการไตรมาสที่ 2/2565
เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, Local market, ที่พักอาศัย และโรงแรม รวมถึง Social Park บนที่ดิน 46 ไร่ โดยมีพื้นที่ GFA 42,600 ตารางเมตร เปิดให้บริการไตรมาสที่ 2/2565
เพื่อเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริมและยกระดับศักยภาพจังหวัด พร้อมดึงความโดดเด่นของอัตลักษณ์ท้องถิ่น และกระจายความเจริญและรายได้”
นางสาววัลยา กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้การขยายโครงการครั้งนี้ เราตั้งใจให้เป็นมากกว่าแค่การขยายสาขาศูนย์การค้า โดยได้วาง 3 กลยุทธ์แห่งความสำเร็จ คือ
1) บุกเบิกเมืองด้วยโมเดล Fully-Integrated Mixed-Use Developments ที่แข็งแกร่ง
2) Customer-Centric Design Thinking and Marketing
3) Tenant-Centric Business Partnership กล่าวคือ
1) บุกเบิกเมืองด้วยโมเดล Fully-Integrated Mixed-Use Developments ที่แข็งแกร่ง
2) Customer-Centric Design Thinking and Marketing
3) Tenant-Centric Business Partnership กล่าวคือ
กลยุทธ์ที่ 1: บุกเบิกเมืองด้วยโมเดล Fully-Integrated Mixed-Use Developments ที่แข็งแกร่งของเซ็นทรัลพัฒนา ด้วยจุดแข็งและ Success Formula ของบริษัทฯ ที่มีมายาวนาน
โดยทุกโครงการสร้าง Big Impacts ให้กับทุกจังหวัดที่ไปตั้งอยู่ ประกอบกับความเชี่ยวชาญในการพัฒนาทุกองค์ประกอบให้เป็นส่วนประกอบที่ดีที่สุดและที่เชื่อมโยงเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
อีกทั้งคอนโดมิเนียมของเรา เน้นจุดแข็งที่อยู่ติดศูนย์การค้าทำให้หลายโครงการสามารถ sold out ได้อย่างรวดเร็ว อาทิ ระยอง อาคารแรก, เชียงใหม่ อาคาร 1-2, โคราช อาคารแรก และขณะนี้มีเปิดโครงการเพิ่มอยู่ทั้ง 3 จังหวัด อีกทั้งโครงการที่หาดใหญ่ขณะนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เป็นต้น
โดยปัจจุบันธุรกิจที่พักอาศัยของเซ็นทรัลพัฒนา มีกว่า 18 โครงการใน 10 จังหวัด นอกจากนี้ มีโรงแรมแบรนด์ใหม่ที่จะเกื้อหนุนโครงการ ทำให้มี Business & Traffic Ecosystem ที่ดีอย่างแน่นอน
พร้อมกับวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็นศักยภาพและเจาะเมืองเศรษฐกิจใหม่ได้อย่างแม่นยำ ตอบรับไปกับแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล อยุธยา เพื่อสร้าง Complete Tourism Ecosystem ให้กับจังหวัด ช่วยยกระดับการท่องเที่ยวของอยุธยาทั้งระบบ และส่งเสริมการเป็น Hub สู่ภาคเหนือและอีสาน
เซ็นทรัล ศรีราชา ยกระดับให้เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ล้ำสมัยพร้อมรองรับ EEC และ New S Curve และเซ็นทรัล จันทบุรี ผลักดันศักยภาพและเจียระไนจันทบุรีที่เป็นเหมือน Hidden Gem ของประเทศ เป็นจุดเชื่อมต่อจากเขตเศรษฐกิจ เป็น EEC Plus 2 ตามแผนพัฒนาเมืองรองของภาครัฐ
กลยุทธ์ที่ 2: Customer-Centric Design Thinking and Marketing แนวคิดการพัฒนาโปรเจกต์ที่ รังสรรค์โครงการในทุกองค์ประกอบเพื่อทุกไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต และชูวิถีอัตลักษณ์ของเมือง ทุกโครงการมีความพร้อม และเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดของจังหวัด ในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่
-การออกแบบก่อสร้างที่ทันสมัย ผนวกวิถีแห่งเมือง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
-การร่วมมือกับพันธมิตรที่พร้อมเดินหน้าลงทุนเติบโตไปด้วยกัน และสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่ customize ตามจังหวัดต่าง ๆ
-แผนการตลาดที่เจาะกลุ่มพร้อมรับ Digital Disruption, การสร้าง community, และแผนดันกำลังซื้อสนับสนุนร้านค้าตลอดทั้งปี ย้ำ “กำลังซื้อชัด-ไลฟ์สไตล์ดี-สร้างเสน่ห์ท่องเที่ยว”
กลยุทธ์ที่ 3: Tenant-Centric Business Partnership เซ็นทรัลพัฒนามองการลงทุนกับคู่ค้าในระยะยาว ซึ่งการที่ธุรกิจต่าง ๆ จะเข้าไปขยายการลงทุนไปกับเรา จะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่ธุรกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว เราต้องก้าวไปสู่ next success ด้วยกัน
โดยทุกศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนา เน้นที่กลยุทธ์ในระยะยาวในการเป็น Center of Life, Center of Community ในทุกที่ที่ไป ด้วยการสร้างศูนย์การค้าที่ตรงใจคนในแต่ละโลเคชัน เป็น The best in city and the most preferred choice ของแต่ละจังหวัด
พร้อมช่วยยกระดับจังหวัด ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกที่ ทำให้ถึงแม้จะมีปัจจัยระยะสั้น ก็ยังคงมีทราฟฟิกกลับมาดีต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การนำเอา Digital Tools ต่าง ๆ มาเป็นเครื่องมือให้พันธมิตรร้านค้าเข้าใจ Customer Insight และทำ Targeted Marketing ได้มากขึ้น จากฐานข้อมูลของธุรกิจต่าง ๆ ในเครือเซ็นทรัลที่ทำธุรกิจในตลาดต่างจังหวัดทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน
และมีการพาร์ตเนอร์กับ The 1 พัฒนาโปรเจกต์ The 1 Biz เพื่อช่วยให้ร้านค้าขายได้ดีขึ้น และช่วยให้แต่ละแบรนด์สามารถทำ CRM ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
และในช่วงสถานการณ์นี้ เราคำนึงถึง Tenant Growth, Tenant Sales, Tenant Success เป็นสำคัญ จึงได้ออก Flexible Leasing Programme เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือร้านค้าผู้เช่า อาทิ
-การช่วยลดภาระ ผ่อนคลายความกังวลเรื่องผลประกอบการในช่วงเปิดร้านใหม่ หรือในช่วงปีแรก
-การช่วยเหลือให้เข้าถึง Soft Loans กับพันธมิตรธนาคารต่าง ๆ
-ช่วย Business Matching กับ Local Investors
-On-going Tenant Support ตลอดทั้งปี เช่น The 1 Biz ซึ่งจะเป็น Effective CRM เพิ่มยอดขายให้กับผู้เช่า
-มี Central Pattana Serve Application พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างครบวงจร