มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ปรากฏการณ์ใหม่ แห่งวงการรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด

ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
กระแสการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นเรื่องที่กำลังมาแรง
และสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อรถยนต์คันใหม่
ก็คงมีหลายคน ที่เริ่มสนใจ อยากจะมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาครอบครอง..

แต่เมื่อพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว
โครงสร้างพื้นฐานในเรื่องของสถานีชาร์จที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มขยายตัว และยังไม่ครอบคลุมมากนักในไทย
กลายเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้หลายคนยังไม่มั่นใจเต็มที่ ในการจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Pure 100% หรือ Battery Electric Vehicle (BEV)

ความสนใจของหลายๆ คน จึงเริ่มหันมาที่
รถยนต์แบบ Plug-in Hybrid Electric Vehicle หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า PHEV
ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ ทั้งสามารถชาร์จไฟฟ้าได้ และเติมน้ำมันได้ ในคันเดียวกัน

ซึ่งถ้าให้พูดถึง รถยนต์ PHEV ที่น่าสนใจในตอนนี้ และดูจะตอบโจทย์การใช้งานสำหรับเมืองไทย
ทั้งสมรรถนะและราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ก็คือ “มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี”
รถยนต์ SUV ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในขณะนี้ และจะมาสร้างปรากฎการณ์ใหม่ ให้กับวงการรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด
ลองมาดูกันว่า ความน่าสนใจของ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มีอะไรบ้าง

ประเด็นที่ 1 : มีครบทั้งสมรรถนะ ความแข็งแกร่ง และความทนทาน

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี นอกจากจะเป็นรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของโลก ที่นอกจากจะสามารถใช้ “พลังงานสองรูปแบบ” ทั้งจากการชาร์จกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ทำให้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี กลายเป็นรถที่ทรงพลัง ผู้ใช้รถยังสบายใจหายห่วงได้กับเรื่องสมรรถนะของรถ เพราะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “Super All Wheel Control” (S-AWC) ที่ระบบจะคำนวณแรงบิดและถ่ายทอดกำลังในการขับเคลื่อนลงสู่ล้อแต่ละล้ออย่างอิสระต่อกัน ทำให้รถเกิดความสมดุลยึดเกาะถนนมากที่สุดในแต่ละเส้นทาง เทคโนโลยีการขับขี่อันสมบูรณ์แบบที่ถูกถ่ายทอดจากเจ้าตำนานแห่งสมรรถนะอย่าง มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชัน 10 พร้อมกันนี้ ยังเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของ DNA สุดยอดรถเอสยูวีอย่างปาเจโรอีกด้วย

ประเด็นที่ 2 : ระบบการขับเคลื่อนอัจฉริยะ ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่อัตโนมัติ ลดการสร้างมลพิษ

ระบบการขับเคลื่อนของรถยนต์คันนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆ คือ

- EV MODE คือ โหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าใช้พลังงาน โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% เงียบและให้พลังงานสะอาด ปราศจากการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)

- SERIES HYBRID MODE คือ โหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์ เมื่อแบตเตอรี่ขับเคลื่อนอยู่ระดับต่ำ เมื่อเร่งความเร็วโดยฉับพลัน หรือเมื่อเร่งเครื่องขึ้นทางลาดชัน

- PARALLEL HYBRID MODE คือ โหมดการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ โดยใช้กำลังเสริมจากมอเตอร์ไฟฟ้า โหมดนี้จะทำงานเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง หรือต้องการเร่งแซง

เรียกว่าเป็นการปรับโหมดการขับขี่ให้แบบอัตโนมัติตามรูปแบบการขับขี่ในสภาวะต่างๆ ที่เหมาะสมให้แบบไม่ต้องกังวล

ประเด็นที่ 3 : นวัตกรรมการชาร์จไฟ ที่ช่วยคลายกังวลเรื่องระยะทางการขับขี่

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มีระบบการชาร์จไฟในหลายรูปแบบ ตั้งแต่แบบชาร์จได้ในรถ เพียงกดปุ่ม Save/Charge ก็สามารถชาร์จไฟได้ในเวลาประมาณ 40 - 45 นาที ให้กำลังไฟเกือบเต็ม โดยการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งขณะขับขี่หรือในขณะรถจอด

หรือขับไปชาร์จยังสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้บริการนอกสถานที่ ก็สามารถชาร์จไฟแบบเร็ว (Quick Charge) ด้วยหัวชาร์จ CHAdeMO ให้กำลังไฟ 80% ในเวลาประมาณ 25 นาที

ส่วนการชาร์จเข้ากับปลั๊กไฟที่บ้านโดยรูปแบบปกติให้กำลังไฟ 100% ในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เรียกว่ามีทางเลือกสำหรับการชาร์จไฟที่หลากหลาย ตามความสะดวก คลายกังวลเรื่องข้อจำกัดของระยะทางการขับขี่ไปได้เลย
มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน นาน 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ภายใต้เงื่อนไขที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส กำหนด

ประเด็น 4: ตัวรถจ่ายไฟได้ 1,500 วัตต์ เสียบปลั๊กใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ตรงจากรถยนต์

นอกจากนั้นแล้ว มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ยังสามารถผลิตและจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ ที่มีขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ ใช้งานได้ง่ายๆ แค่เสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า เข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถ ติดตั้งอยู่ 2 จุด เท่านี้ ก็สามารถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ตรงจากรถเลย เรียกว่าเป็นจุดขายหนึ่งที่ทำให้ Outlander PHEV คันนี้ มีความโดดเด่นจริงๆ

ประเด็นที่ 5: มาพร้อมเทคโนโลยีแห่งอนาคต Dendo Drive House ที่สามารถผลิต จัดเก็บและแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าได้ โดยอาศัยการทำงานร่วมกันของรถยนต์รุ่นดังกล่าว พร้อมกับเครื่องอัดและจ่ายประจุไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่สำรองกระแสไฟฟ้าในที่พักอาศัย ทำให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากที่พักอาศัยได้เอง เพื่อนำไปใช้ในการชาร์จกระแสไฟฟ้าให้แก่ยานพาหนะ และในทางกลับกันยังสามารถดึงกระแสไฟฟ้าออกจากยานพาหนะเพื่อนำกลับมาใช้ในที่พักอาศัยได้นานถึง 10 วัน* (คำนวณโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ตัวเลขสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามปริมาณการใช้ไฟที่ต่างกันไป ตามความเป็นจริง)

และที่สำคัญเลยก็คือ รถยนต์รุ่นนี้ผลิตในไทย ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำ ตามแบบฉบับรถญี่ปุ่น และช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและได้รับการแต่งตั้งจาก Mitsubishi Motors Education Academy จะทำให้คุณหมดกังวลและมั่นใจว่า รถของคุณจะได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพ
และสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการได้ตลอดเวลา

ต้องบอกว่า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี
คือรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ นวัตกรรมแห่งอนาคต และสมรรถนะครบครัน
เรียกได้ว่า เป็นปรากฏการณ์ใหม่แห่งวงการรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด เลยทีเดียว

สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่
ที่จะตอบโจทย์การใช้งานในอนาคต พร้อมทั้งมีนวัตกรรมรักษ์โลก

“มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” ก้าวข้ามสู่อีกขั้น ของ PHEV
จะเป็นอีกยนตรกรรมที่น่าสนใจ
และคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ ไม่น้อยเลย..

หมายเหตุ: *อ้างอิงตามมาตรฐานของสหราชอาณาจักร โดยแบตเตอรี่ของ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มีพลังงานเพียงพอที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับบ้านได้ในหนึ่งวัน โดยไม่ต้องใช้เครื่องยนต์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถัง รถจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับการใช้งานภายในบ้านได้นานถึงสิบ

รู้หรือไม่ว่า: มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เป็นรถ SUV ที่มี DNA แนวคิดมาจาก “ปาเจโร” “แลนเซอร์ อีโวลูชัน 10” รวมทั้งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายจริงรุ่นแรกของโลกอย่าง “ไอ-มีฟ” (i-MiEV) ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ เป็นรถยนต์ PHEV ที่ได้ทั้งเรื่องของการเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกไปพร้อมๆ กันกับ สมรรถนะการขับขี่ที่ดีและปลอดภัยอีกด้วย