ฝรั่งเศส เตรียมบังคับใช้กฎหมายเก็บภาษี กับบริษัทเทคโนโลยี
26 พ.ย. 2020
ในช่วงสองสามปีมานี้ Bruno Le Maire รัฐมนตรีเศรษฐกิจของฝรั่งเศส ได้พยายามอย่างหนักเพื่อปฏิรูปกฎหมายภาษี เนื่องจากมองว่า กฎหมายแบบเดิมไม่สามารถจัดเก็บภาษี จากเหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ได้
การที่บริษัทเทคโนโลยี สร้างรายได้ในประเทศหนึ่ง
แต่กลับโยกรายได้ และเสียภาษีให้กับอีกประเทศหนึ่ง ที่มีอัตราภาษีต่ำกว่า
เป็นความท้าทายที่รัฐบาลหลายๆ ประเทศทั่วโลก กำลังเผชิญอยู่
แต่กลับโยกรายได้ และเสียภาษีให้กับอีกประเทศหนึ่ง ที่มีอัตราภาษีต่ำกว่า
เป็นความท้าทายที่รัฐบาลหลายๆ ประเทศทั่วโลก กำลังเผชิญอยู่
ซึ่ง Bruno Le Maire ได้เสนอแนวคิดเรื่องการจัดเก็บภาษีของบริษัทเทคโนโลยี ในยุโรป
โดยให้พิจารณาจากเกณฑ์ “รายได้ในท้องถิ่น” แทนที่จะเป็นผลกำไรทางบัญชี ในการเสียภาษี
โดยให้พิจารณาจากเกณฑ์ “รายได้ในท้องถิ่น” แทนที่จะเป็นผลกำไรทางบัญชี ในการเสียภาษี
แต่แนวคิดนี้ ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศอื่นๆ ในยุโรป ทำให้ไม่สามารถออกกฎหมายบังคับใช้ได้
เนื่องจาก การออกนโยบายจัดเก็บภาษีในยุโรป ต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ จากสมาชิกของสหภาพยุโรป
เนื่องจาก การออกนโยบายจัดเก็บภาษีในยุโรป ต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ จากสมาชิกของสหภาพยุโรป
อย่างไรก็ดี ทางรัฐบาลฝรั่งเศสไม่รอช้า เร่งเดินหน้าสำหรับแผนจัดเก็บภาษีบริษัทเทคโนโลยี ของตนเอง
และได้ส่งหนังสือแจ้งเรื่องการเก็บภาษี ไปยังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แล้ว
และได้ส่งหนังสือแจ้งเรื่องการเก็บภาษี ไปยังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แล้ว
โดยกฎหมายภาษีบริษัทเทคโนโลยี หรือ ภาษีดิจิทัล ของฝรั่งเศสนี้
จะจัดเก็บภาษีในอัตรา 3% ของรายได้ ที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส
จะจัดเก็บภาษีในอัตรา 3% ของรายได้ ที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส
กับบริษัทที่เข้าเงื่อนไข 2 ข้อดังนี้ คือ
1) เป็นบริษัทเทคโนโลยี ที่ดำเนินธุรกิจแพลตฟอร์ม Marketplace เช่น Amazon, Uber, Airbnb
หรือดำเนินธุรกิจโฆษณาออนไลน์ เช่น Facebook, Google
1) เป็นบริษัทเทคโนโลยี ที่ดำเนินธุรกิจแพลตฟอร์ม Marketplace เช่น Amazon, Uber, Airbnb
หรือดำเนินธุรกิจโฆษณาออนไลน์ เช่น Facebook, Google
2) บริษัทมีรายได้เกินกว่า 750 ล้านยูโร ทั่วโลก (ประมาณ 27,000 ล้านบาท)
และมีรายได้เกินกว่า 25 ล้านยูโร ในฝรั่งเศส (ประมาณ 900 ล้านบาท)
และมีรายได้เกินกว่า 25 ล้านยูโร ในฝรั่งเศส (ประมาณ 900 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ฝรั่งเศส กับ สหรัฐฯ มีข้อพิพาทกัน ในเรื่องกฎหมายภาษีดิจิทัล มาสักพักใหญ่แล้ว
เพราะบริษัทเทคโนโลยีที่จะถูกจัดเก็บภาษีส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส เป็นบริษัทสหรัฐฯ
เพราะบริษัทเทคโนโลยีที่จะถูกจัดเก็บภาษีส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส เป็นบริษัทสหรัฐฯ
ซึ่งในเดือนธันวาคม 2019 ที่ผ่านมา
สหรัฐฯ ก็ประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีในอัตรา 100% กับ ไวน์, ชีสและกระเป๋า จากฝรั่งเศส
สหรัฐฯ ก็ประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีในอัตรา 100% กับ ไวน์, ชีสและกระเป๋า จากฝรั่งเศส
ถึงต่อมาจะมีท่าที ที่ทั้งสองประเทศระงับแผนจัดเก็บภาษีของกันและกันไว้ก่อน
และหันมาเปิดโต๊ะเจรจาต่อรอง
และหันมาเปิดโต๊ะเจรจาต่อรอง
แต่ล่าสุด ทางรัฐบาลฝรั่งเศสก็ได้ออกมาประกาศว่า การเจรจาล้มเหลว
และถึงเวลาแล้ว ที่ต้องเริ่มใช้ภาษีดิจิทัลกับบริษัทเทคโนโลยี..
และถึงเวลาแล้ว ที่ต้องเริ่มใช้ภาษีดิจิทัลกับบริษัทเทคโนโลยี..
ส่วนทางรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของ โจ ไบเดิน
จะตอบโต้และดำเนินการต่อเรื่องนี้อย่างไร ก็ต้องรอดูกันต่อไป
จะตอบโต้และดำเนินการต่อเรื่องนี้อย่างไร ก็ต้องรอดูกันต่อไป