CHANEL ได้ปรับขึ้นราคาสินค้า เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี
7 พ.ย. 2020
CHANEL แบรนด์หรูจากฝรั่งเศส เคยปรับขึ้นราคา กระเป๋าถือและสินค้าเครื่องหนังขนาดเล็กอื่นๆ ทั่วโลกระหว่าง 5% ถึง 17% เมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมา
เพื่อพยายามรักษาอัตรากำไรของบริษัท ในช่วงสถานการณ์ COVID-19
และการล็อกดาวน์ ที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศหยุดชะงัก
และการล็อกดาวน์ ที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศหยุดชะงัก
ซึ่งแหล่งรายได้จากนักท่องเที่ยว ถือเป็นรายได้สำคัญของบรรดาแบรนด์หรูส่วนใหญ่
ล่าสุด Flavio Cereda นักวิเคราะห์ของ Jefferies
ได้เผยว่า จากการติดตามราคาสินค้าแบรนด์หรูทั่วโลก พบว่าในเดือนตุลาคม 2020
CHANEL ได้ทำการปรับเพิ่มราคาสินค้าขึ้นอีกราว 5%
โดยที่เห็นได้ชัดคือ ในจีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอังกฤษ
ได้เผยว่า จากการติดตามราคาสินค้าแบรนด์หรูทั่วโลก พบว่าในเดือนตุลาคม 2020
CHANEL ได้ทำการปรับเพิ่มราคาสินค้าขึ้นอีกราว 5%
โดยที่เห็นได้ชัดคือ ในจีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอังกฤษ
ทาง CHANEL ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักงานข่าว Reuters ว่า
การปรับขึ้นราคาสินค้าครั้งล่าสุดของแบรนด์
เป็นผลมาจาก ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่รุนแรง ระหว่างสกุลเงินยูโร และสกุลเงินท้องถิ่นบางสกุล
การปรับขึ้นราคาสินค้าครั้งล่าสุดของแบรนด์
เป็นผลมาจาก ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่รุนแรง ระหว่างสกุลเงินยูโร และสกุลเงินท้องถิ่นบางสกุล
โดยการปรับราคาในครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในทุกประเทศ ที่แบรนด์เห็นว่ามีความจำเป็นต้องปรับ
เพื่อเป็นการรับประกันว่า สินค้าของ CHANEL จะขายในระดับราคาที่เท่าเทียมกันทั่วโลก
เพื่อเป็นการรับประกันว่า สินค้าของ CHANEL จะขายในระดับราคาที่เท่าเทียมกันทั่วโลก
ทั้งนี้ แบรนด์หรูอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Dior, Gucci, Prada, Ferragamo และอื่นๆ ก็มีการปรับเพิ่มราคาสินค้า ในปีนี้เช่นกัน
สำหรับ นักลงทุน หรือ ใครที่ซื้อกระเป๋า CHANEL ไปก่อนหน้านี้
ก็อาจมั่นใจได้ว่า กระเป๋าที่ได้ครอบครองไป ได้สร้างผลตอบแทนอย่างน้อย 5% ให้แก่เจ้าของแล้ว..
ก็อาจมั่นใจได้ว่า กระเป๋าที่ได้ครอบครองไป ได้สร้างผลตอบแทนอย่างน้อย 5% ให้แก่เจ้าของแล้ว..
Tag:CHANEL