PwC เผย บริษัทอเมริกันยังคงทยอยย้ายซัพพลายเชนออกจากจีนอย่างต่อเนื่อง
24 ต.ค. 2020
Tim Ryan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PricewaterhouseCoopers (PwC) บริษัทตรวจสอบบัญชีและให้คำปรึกษาทางธุรกิจรายใหญ่ เปิดเผยข้อมูลจากการสำรวจว่า บริษัทอเมริกันจำนวนมากยังคงทยอยย้ายซัพพลายเชนออกนอกจีนอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2019 ที่ผ่านมา ได้เกิดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ต่างฝ่ายต่างขึ้นภาษีสินค้านำเข้า เปิดฉากสงครามการค้าอย่างไม่มีใครยอมใคร ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตของหลายบริษัทอเมริกันที่มีซัพพลายเออร์หรือพาร์ตเนอร์การผลิตเป็นโรงงานในประเทศจีน
หลังจากนั้นมา บริษัทอเมริกันหลายรายก็เริ่มมีการย้ายหรือเปลี่ยนซัพพลายเชนออกนอกจีนมากขึ้น เพื่อหวังลดแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากสงครามทางการค้า
และยิ่งการระบาดของ COVID-19 เกิดขึ้น ก็ยิ่งเป็นปัจจัยผลักให้บริษัทอเมริกันเร่งย้ายซัพพลายเชนออกนอกจีนอย่างต่อเนื่อง
โดยประเทศที่ได้รับประโยชน์จากการที่บริษัทอเมริกันพยายามหาแหล่งซัพพลายเออร์แหล่งใหม่ เพื่อสร้างซัพพลายเชนนอกจีน ก็ดูเหมือนจะเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย, เวียดนาม รวมถึงไทย), เม็กซิโก และบางส่วนหันกลับไปตั้งซัพพลายเชนในสหรัฐฯ บ้านเกิดตัวเองมากขึ้น
ที่น่าสนใจของผลการสำรวจจาก PwC คือ
ผู้ตอบแบบสอบถาม ถึง 70% (ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงจากหลายบริษัทอเมริกัน) ระบุว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลต่อการตัดสินใจย้ายซัพพลายเชนออกจากจีนน้อยมาก
ผู้ตอบแบบสอบถาม ถึง 70% (ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงจากหลายบริษัทอเมริกัน) ระบุว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลต่อการตัดสินใจย้ายซัพพลายเชนออกจากจีนน้อยมาก
เพราะพวกเขามองว่า การมีซัพพลายเชนในในจีนแม้จะมีประสิทธิภาพในการผลิต แต่ก็ต้องแลกมากับความไม่แน่นอนทางการเมือง อย่างที่กำลังมีปัญหากับสหรัฐฯ อาจไม่ตอบโจทย์ธุรกิจในอนาคตเหมือนในอดีตอีกแล้ว..